Suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร) ธุรกิจโรงแรม กระแสแรงไม่หยุด
Suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร) ธุรกิจโรงแรม กระแสที่แรงไม่หยุด…
“ธุรกิจโรงแรม” รูปแบบใหม่ที่กำลังฮิตติดลมบนอยู่ในขณะนี้ กลายเป็นธุรกิจกระแสแรงที่น่าลงทุน ความใฝ่ฝันที่อยากมีธุรกิจรีสอร์ท,โรมแรม ที่ต้องใช้เงินทุนสูง กลับกลายเป็นวิธีทำธุรกิจให้แตกต่างๆ หาตัวตนของธุรกิจจากลุ่มเป้าหมายและสไตล์การท่องเที่ยวของผู้บริโภค
suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร) จึงเป็นอีกหนึ่งธุกิจที่ฉีกทุกกฎในตำราเรียนเรื่องบริหารการโรมแรม แต่กับสร้างยอดขายทำกำไรได้อย่างเป็นรูปธรรม อะไรกันที่ทำให้เขาได้ประสบความสำเร็จ มาเริ่มไขความลับของเจ้าของธุรกิจนี้กันเลย
Advertisements
ทำธุรกิจอย่าคิดมาก ทำให้ไม่ซับซ้อน เดี๋ยวมันไปเอง
suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร) เป็นสาขาที่ 2 จากผู้ก่อร่างสร้างธุรกิจโฮสเทล ที่ชื่อว่า คุณนพดล สุเนต์ตา สถาปานิกที่ผ่านการทำงานมาอย่างโชกโชน จุดเริ่มต้นของ สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร เกิดจากความชอบในธุรกิจโรงแรมเป็นอย่างมาก และต้องการขยายธุรกิจไปตามที่กลุ่มนักเดินทางชอบมา นั่นก็คือ “ย่านถนนข้าวสาร” ที่มีห้องพักอยู่มากมาย
การค้นหาอาคารเพื่อมาทำโฮสเทล อาจไม่ง่ายนัก แต่สุดท้ายก็ได้พื้นที่ชั้น 2-3-4 ของอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งมีทางเข้าจะมีอยู่ไม่มาก เหมือนว่าจะไม่มีหน้าร้านที่ใหญ่โตอะไร ซึ่งนี่อาจจุดด้อย แต่คุณนพดล กับมองว่าไม่จำเป็นต้องมีหน้าโรงแรมที่ใหญ่ก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้หน้าเว็บไซต์ก็เป็นหน้าโรงแรมของเราอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวจะดูมาก่อนที่จะจองห้องพักอยู่แล้ว หากบริการดีประทับเขาก็จะมาพักที่นี่เอง
เดือนแรกนั้นยากแบบสุดๆ
ในการเปิดให้บริการครั้งแรก การประชาสัมพันธุ์ก็เหมือน “โฮสเทล” ทั่วไป ที่ใช้ช่องทางผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “agoda” กับ “tripadvisor” แต่มันใช้ไม่ได้กับช่วงเวลาเริ่มต้นธุรกิจนี้ เพราะประชาสัมพันธ์บนเว็บนั้น ต้องมีคะแนนโวตที่ดี , ต้องการรีวิวจากผู้มาพัก , ต้องการคอมเม้นท์เชิงบวกจากผู้มาพักจริงแล้ว ซึ่งนั่นเป็นไปไม่ได้เลยกับ suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร) ที่พึ่งเปิดให้บริการ ช่วงเริ่มต้นจึงเป็นช่วงที่อยากลำบาก
แต่ข้อดีของการทำธุรกิจที่เราหลงรักก็คือ “ความไม่ยอมแพ้ อยู่กับเขาได้ทั้งวันทั้งคืน ทั้งยามสุข และยามทุกข์” คุณนพดลจึงพยายามออกไปแจกใบปลิว ให้เริ่มต้นนับ 1 ให้ได้ เริ่มจากไปแจกที่จุดขึ้นลงรถ ที่ใกล้ถนนข้าวสาร ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะ “Say No” อย่างเดียว ไม่ไม่ไว้ก่อน ด้วยความแปลกหน้า ใครก็เป็นเหมือนกันทั้งนั้น ใช่ว่าแค่กับคนต่างชาติเท่านั้น
“ความพยายามยังไม่สิ้นสุด”
วันต่อมาคุณนพดลไปหาลูกค้าอีก โดยการเข้าให้ถึงตัว ดูนักท่องเที่ยวที่ออกจะมึนหน่อยๆ ก็แบบว่ามีแอลกอลฮอล์สูงน่ะครับ จนได้มาหนึ่งราย ลูกค้ารายแรกของ suneta hostel khaosan ลูกค้าคนเดียวบริการสุดชีวิต สร้างความประทับใจแบบสุดๆ พักอยู่ 3 วัน หลังจากนั้นเขากลับมาพักอีก พาเพื่อนมาพักด้วย เกิดการบอกต่อเป็นทอดๆ สร้างลูกค้าให้มาพักที่นี่ระดับหนึ่ง
ยิ่งให้ ยิ่งคุ้ม งบโฆษณาไม่ต้อง
“กลยุทธ์ทีดูจะแตกต่าง ฉีกไปจากตำราเรียน”
อันที่จริงมันเป็นเบสิคพื้นฐานที่ใครๆ ก็เข้าใจได้ แต่ยากที่จะทำใจ เพราะความอยากได้ใคร่มีมันมาบังตา ทำให้ไม่เห็นสัจจะธรรมความเป็นจริง
คุณนพดลเปิด suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร) ก็ไม่ต่างจากโฮลเทลทั่วไปมากนัก แต่ที่เห็นจะต่างออกไป คือ “หัวใจ” กับ “ความจริงใจ” กล่าวคือ โฮลเทลทั่วไปจะเป็น concept ที่พักราคาประหยัด จึงมีราคาพักที่ถูกแล้วมาคิดราคาในส่วนบริการอื่นๆเพิ่มเติม
แต่กับ สุเนต์ตา โฮสเทล จะเปิดให้ใช้ facility (สิ่งอำนวยความสะดวก) ของส่วนกลางให้ใช้ฟรีทั้งหมดแบบไม่อั้นอีกต่างหาก มีหลายครั้งที่นักท่องเที่ยวแบบใช้เกินความพอดี กินทิ้งกินขว้าง พนักงานจะเข้าไปห้ามและเตือนแขกที่มาพักว่าให้ใช้แต่พอดีก็พอ แต่คุณนภดล กับบอกว่า ให้ลูกค้าใช้ไปเต็มทีเลยไม่ต้องห้ามเขา ของก็มีอยู่แค่ที่โต๊ะไม่กี่บาทอย่าไปคิดมาก ซึ่งที่จริงลูกค้าลักษณะนี้ก็มีไม่มาก ไม่ 1 % ของที่มาพัก แต่การให้ครั้งนี้ ผลที่ได้รับกับมามากยิ่งกว่าที่เราคิด “ทำดีกับลูกค้า 99 คน ทำไม่ดีกับลูกค้าคนเดียว ความเสียหายอาจเกิดเท่าทวีคูณ ฉะนั้นจงให้บริการแบบสุดๆ กับทุกคน”
อีกครั้งหนึ่งมีการพยายามลดต้นทุนด้วยการเปลี่ยนเครื่องดื่ม “น้ำส้ม” ที่เคยใช้ของดีราคาแพง มาเป็นน้ำส้มแบบธรรมดาหน่อย เพราะดื่มกันมากจนทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น พอเปลี่ยนมาใช้น้ำส้มถูกลงมา ผลปรากฏว่ามีน้ำส้มเหลือ ลูกค้าดื่มน้อยลงไปมาก น้องสาวผู้เสนอความคิดนี้ก็รู้สึกว่าดี สามารถลดการบริโภคไปได้มาก ช่วยประหยัดต้นทุนไปได้เยอะ
แต่คุณดลนพ กับบอกว่า มันเป็นผลเสียอย่างมาก การที่ลูกค้าไม่ดื่ม แสดงว่าเขาไม่ชอบ เขาไม่ถูกใจ เขาไม่ประทับใจ แต่ถ้าเราใช้ของที่ดี ใช้น้ำส้มอย่างดี ลูกค้าจะดื่มได้มาก และลูกค้าจะประทับใจกับสิ่งที่เขาได้รับ เขาจะกลับมาพักกับเราอีก แถมบอกต่อให้คนอื่นๆมาพักอีกด้วย เขาจะนำไปคอมเม้นท์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโฮสเทลของเรา
“การจ่ายมากไปให้กับลูกค้า จึงเป็นการทำโฆษณาแบบคุ้มค่ามากๆ” ไม่ต้องตั้งงบโฆษณามากๆ แล้วไปจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ให้ สู้เราอัดงบโฆษณาไปให้กับลูกค้าดีกว่า ลูกค้าจะเป็น “คนโฆษณา” ให้เราเต็มๆ แถมได้ผลดีที่สุด การซื้อโฆษณาจึงไม่ใช่แนวทางการทำตลาดของ suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร)
ดีไซน์ Suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร)
การออกแบบ จะเป็นการออกแบบที่ย้อนยุคสไตล์บ้านไม้เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ของกรุงเทพ จัดออกเป็นสัดส่วนเพื่อความชัดเจนและการใช้ โดยเฉพาะ “ธุรกิจโรงแรม” แบบโฮสเทลต้องมีการใช้พื้นที่ร่วมกันหลายส่วน เช่น พื้นที่ส่วนกลาง , พื้นที่ห้องน้ำร่วม , และห้องพักสไตล์แบบแคปซูล การดีไซน์จึงเรื่องที่สำคัญ
พื้นที่ส่วนกลาง
เป็นพื้นที่ จัดสิ่งอำนนวยความสะดวกไว้อย่างมากมาย เช่น Notebook,Wifi,กาแฟ,ของว่าง,เครื่องพริ้นเตอร์ไว้ให้ปริ้นท์ได้ ซึ่งทุกอย่างฟรีหมด ใช้ได่ไม่อั้นด้วย จุดเด่นของพื้นที่ตรงกลางนี้ มี Map แผนที่กรุงเทพขนาดใหญ่ ที่มีรายละเอียดว่า สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ตรงไหนบ้าง ร้านอร่อยๆ อยู่ตรงไหน แผนที่นี้มีให้หมด แต่ไม่มีแผนพับแจกน่ะ การไม่ทำพับแจกให้ลูกค้า มีนัยสำคัญซ่อนไว้อย่ 2 ประการ
ข้อ1.ต้องการให้ลูกค้าถ่ายเองจากกล้องมือถือ ซึ่งปัจจุบันก็มีกันทุกคนอยู่แล้ว
ข้อ.2 การถ่ายภาพเก็บไว้อาจทำให้เกิดการแชร์ภาพไปให้เพื่อนๆ เป็นการบอกต่ออีกทางหนึ่ง
พื้นที่ห้องพัก
จะเป็นการออกแบบคล้ายกับตู้พักบนรถไฟ แต่สามารถ เปิด-ปิด ประตูได้ ให้มีความเป็นส่วนตัว คล้ายเป็นห้องขนาดจิ๋วเลย แถมมีทีวีให้ดูอีกต่างหาก ไฟฟ้า ที่เก็บของมีให้พร้อมเสร็จ
Advertisements
บริหารอย่างไร ให้ทำกำไร
การทำ “ธุรกิจโรงแรม” แบบโฮสเทล ในแบบของ suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร) คุณนพดลได้บอกจุดสำคัญในการตัดสินใจทำธุรกิจนี้ว่า ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ถึงจะทำได้สำเร็จ คือ
1.ต้องทำต้นทุนให้ต่ำที่สุด
ค่าเช่าอาคารต้องหาแบบที่ ค่าเช่าไม่เกิน 20 % ของรายได้ที่จะเข้ามา เช่น
หากเราทำโฮสเทลรับคนได้ 100 คน ราคาเช่า 400 บาท/วัน เราจะมีรายได้ 1,200,000 บาท/เดือน
ฉะนั้นควรที่พื้นที่เช่าไม่เกิน 120,000 บาท/เดือน นั่นเอง
2.พนักงาน
สำหรับกรณีที่โฮสเทล ที่ตั้งเป้าจำนวนคนพักมากหน่อย พนักงานก็เป็นสิ่งสำคัญ “การจะทำให้ลูกค้ามีความสุขได้ ผู้ให้บริการก็ต้องมีความสุขก่อน” การทำให้พนักงานมีความสุขเกิดจากหลายสิ่ง เช่น ความรักในงานบริการ , รายได้ที่ดี , สวัสดิการที่ควรได้รับ , คุณนพดลจะเน้นเรื่องการให้เป็นหลัก ถ้าทุกคนได้รับสิ่งที่ดี เขาก็จะมีความสุขเอง
3.เช่าอย่างเดียว ไม่ซื้อ
ในการธุรกิจโรงแรม โฮสเทล คุณนพดลจะเน้นไปที่การเช่าสถานที่ แทนการซื้อขาด เพราะต้องการใช้เงินให้คุ้มที่สุด ไม่นำเงินก่อนไปจมในครั้งเดียว อาศัยว่าใช้เงินไปขยายธุรกิจในหัวเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆดีกว่า จะทำรายได้มากกว่า ทำได้แค่ที่เดียว เงินก็จม ดอกเบี้ยก็วิ่งทุกวัน การเช่าจึงคุ้มค่ามากกว่าการซื้อขาด
นับได้ว่า “ธุรกิจโรงแรม” แบบโฮสเทล ในแบบของ suneta hostel khaosan (สุเนต์ตา โฮสเทล ข้าวสาร) เป็นการทำธุรกิจในสไตล์ตัวเองมากๆ ความคิดแบบกลับมุมมอง ที่ไม่ได้เน้นที่ต้องเห็นตัวเลขกำไรมาเป็นอันดับแรก กลับสร้างพลังโฆษณาอย่างมหาศาล ที่ใครๆก็มองข้ามคำว่า “ให้” ซึ่งเป็นคำที่ไม่ได้อยู่ในสาระบบของธุรกิจใดใดเลย แต่การให้นี้มันได้สร้างคุณค่า ความประทับใจให้กับผู้มาพักอย่างมากมาย
“จากที่เริ่มเข้ามาพักเป็นเพียงนักเดินทาง เป็นแขกที่เข้ามาพักเท่านั้น แต่เมื่อวันกลับ เขาเหล่านั้นกลายมาเป็นเพื่อน” และ เพื่อนนี่หล่ะที่จะทำกำไรให้เราอย่างไม่รู้จบ จ่ายแบบเต็มใจ ไม่หนำซ้ำยังหาคนมาช่วยจ่ายอีกด้วย นี่จึงเป็นบทพิสูจน์อีกกลยุทธ์หนึ่งที่นำไปใช้
“ธุรกิจโรมแรม โฮลเทล suneta hostel khaosan” “ทำให้ลูกค้ามีความสุข นี่คือพันธกิจของเรา”
เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
ข้อมูลธุรกิจ
Suneta Hostel Khaosan
209-211 Kraisi Road, Phranakorn
Bangkok, 10200 TH
http://www.sunetahostel.com/
Leave a comment