แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ เครื่องดื่มตีแตกเครื่องดื่มสุขภาพ

Posted on พฤษภาคม 7, 2015 by administrator in แฟรนไชส์เครื่องดื่ม // 0 Comments

แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ สุดยอดเครื่องดื่มตีแตกทุกโจทย์เครื่องดื่มสุขภาพ

สตรอเบอรี่สำเร็จรูปและโยเกิร์ตสดจากธรรมชาติ โยเกิร์ตเบอร์รี่ เป็นเครื่องดื่มที่กำลังออกสู่ตลาดและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยความที่โยเกิร์ตเบอร์รี่ทำจากสตรอเบอร์รี่แท้มาเป็นวัตถุดิบ จึงทำให้มีทั้งรสชาติหวานเปรี้ยวธรรมชาติ และกลิ่นหอมของสตรอเบอร์รี่ รวมถึงโยเกิร์ตสดได้ทั้งคุณประโยชน์และความอร่อยในเวลาเดียวกัน

Advertisements

แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ ใช้สตรอเบอร์รี่และโยเกิร์ตเป็นจุดเด่นดึงความสนใจ และทั้งสองอย่างก็เป็นที่นิยมรับประทานอยู่แล้ว โดยเฉพาะในหมู่ผู้หญิง ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน ทำให้โยเกิร์ตเบอร์รี่เป็นที่สนใจของคนกลุ่มนี้โดยตรง อีกทั้งสภาพอากาศในประเทศไทย การทำตลาดเครื่องดื่มจึงเป็นสินค้าที่สามารถขายได้ตลอดทั้งปี ให้ความสดชื่นในการดื่ม นำคุณสมบัติของโยเกิร์ต มาเป็นตัวดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

ความน่าสนใจในตัวสินค้าสูง

เทรนด์การดื่มเครื่องดื่มที่มาจากธรรรมชาติ และการใส่ใจในสุขภาพมากขึ้นทุกวัน ทำให้โยเกิร์ตเบอร์รี่ที่เป็นเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ทุกข้อแบบแตกกระจายเลยทีเดียวนอกจากนี้การดื่มเครื่องดื่ม การทานผลไม้หรือโยเกิร์ต รวมถึงอาหารเมนูเพื่อสุขภาพต่างๆ ของกลุ่มผู้หญิงที่ใส่ใจทั้งสุขภาพและรูปร่าง กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกจากกันได้แล้วในปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจที่โยเกิร์ตซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ทำให้อ้วน มารวมกับผลไม้นางเอก อย่างสตรอเบอร์รี่จะครองใจบรรดาสาวๆ ได้อย่างง่ายดาย

แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ นอกจากโยเกิร์ตเบอร์รี่แบบเดิมๆ จะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงวัยรุ่น และวัยทำงานแล้ว ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กนักเรียนก็ได้ เพราะมีการเพิ่มท็อปปิ้งหน้าต่างๆ ลงไปสร้างความเป็นวาไรตี้ให้กับเครื่องดื่ม มีรสชาติเพิ่มขึ้น คล้ายขนมทานเล่นมากขึ้น เช่น ช็คอโกเลต ซีเรียลต่างๆ คุกกี้

จุดเด่นของแฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่

แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ นำเอาชื่อของโยเกิร์ตมาผสมกับสตรอเบอรี่แบบตรงตัว ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายมาก อีกทั้งสื่อสารได้ทันทีว่านี่คือ เครื่องดื่มโยเกิร์ตผสมสตรอเบอรี่

ด้วยความที่ แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ ได้เข้าสู่ตลาดเป็นรายต้นๆ ของประเทศ ทำให้ แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ สามารถเปิดพื้นที่ส่วนแบ่งทางการตลาดได้ก่อน ซึ่งจะเห็นได้จากการมีสาขาเฟรนไชส์ทั่วประเทศกว่า 81 สาขา

การตั้งราคาขายปลีก

แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ มีการตั้งราคาที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มอื่นๆ ในตลาดเครื่องดื่มในปัจจุบัน ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นวงกว้าง ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่าย อีกทั้งไม่เป็นภาระต้นทุนกับผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ ตั้งราคาขายต่อแก้วอยู่ที่ 20 บาทเท่านั้น

แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ มีอุปกรณ์สำหรับเปิดร้านน้อย ใช้พื้นที่ก็น้อย มีเพียงแค่ถังโยเกิร์ตเบอร์รี่ โต๊ะและป้าย ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะ ต้นทุนเรื่องค่าเช่าพื้นที่ก็ยิ่งน้อยลงตาม อีกทั้งการที่ใช้พื้นที่น้อย ทำให้เข้าได้ทุกแหล่งทำเล (ถ้าเขาให้เช่านะ) ไม่ว่าจะตามสถานศึกษา แหล่งออฟฟิศ บริษัท ห้าง ร้าน ศูนย์อาหารหรือตามสถานที่ต่างๆ ที่มีผู้คนพลุกพล่าน

จุดที่ควรให้ความสำคัญ

คือเรื่องของคุณภาพและทำเล โยเกิร์ตเบอร์รี่ ส่งมาให้เป็นถังและต้องการความเย็นตลอดเวลา ในจุดนี้ หาปล่อยทิ้งไว้นาน (ตักขายน้อยเพราะลูกค้าน้อย หรือไม่มีการคนทำให้น้ำแข็งจับตัวเป็นก้อน) และตัวโยเกิร์ตเมื่อนำมาใช้งาน (โดนอากาศบ่อยๆ) จะอยู่ได้เพียงแค่ประมาณ 8-13 ชั่วโมงเท่านั้น รวมถึงโยเกิร์ต ต้องเก็บไว้ในอุณภูมิสูงตลอดเวลาเพื่อรักษารสชาติ จึงอาจทำให้มีความลำบากในช่วงการเก็บรักษาหรือในช่วงการขายได้ ดังนั้น ควรแบ่งเก็บแบ่งส่วนที่ขาย เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนอากาศ เพราะตัวโยเกิร์ตที่ปิดสนิท ยังสามารถเก็บไว้ได้เป็นสัปดาห์

(โยเกิร์ตคือเชื้อจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ดี การกระทบเทือน การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ มีความชื้น ฯลฯ จะทำให้จุลินทรี่ย์ตาย รสชาติจะเปลี่ยนและเสียในที่สุด)

เรื่องที่สองก็คือเรื่องทำเลและคู่แข่ง แม้อากาศประเทศไทยจะเอื้อต่อการทำตลาดโยเกิร์ตเบอร์รี่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เครื่องดื่มอื่นๆ ก็ยังคงมีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้นอกเหนือจากโยเกิร์ตเบอร์รี่ ผู้บริโภคยังมีทางเลือกในการดื่มเครื่องดื่มอื่นๆทดแทน ข้อนี้สามารถแก้ได้ด้วยทำเลที่เหนือกว่า

รูปแบบการลงทุนกับ แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่

ลักษณะการลงทุนกับแฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่เป็นรูปแบบขายส่งวัตถุดิบหลักอย่าง สตรอเบอรี่ปั่นและโยเกิร์ตธรรมชาติ ซึ่งแบบแฟรนไชส์จะได้รับสิทธิ์ในการใช้ตราสินค้าโยเกิร์ตเบอร์รี่นั่นเอง ไม่มีค่าธรรมเนียมอื่นๆและจะใช้ชื่อแบรนด์โยเกิร์ตเบอร์รี่หรือใช้แบรนด์ตัวเองก็ได้

1. แบบเฉพาะกล่องโฟมกับวัตถุดิบ ราคาประมาณ 1800 บาท รูปแบบนี้มีให้แค่วัตถุดิบได้แก่ สตรอเบอรี่ปั่นแล้ว และโยเกิร์ตเท่านั้น เหมาะกับผู้ที่อยากทดลองขาย หรือมีอุปกรณ์อื่นๆ เช่น โต๊ะ เคาน์เตอร์ ฯลฯ แล้ว

2. แบบถังไอติมกับวัตถุดิบ ราคาประมาณ 7000 บาท รูปแบบนี้จะได้ถังไอติมแทนกล่องโฟม กับป้ายโลโก้แฟรนไชส์โยเกิร์ตเบอร์รี่ และวัตถุดิบชุดเริ่มต้นเหมือนแพคเกจแรก

อุปกรณ์ที่ใช้ทุกอย่างหากไม่ซื้อกับทางแฟรนไชส์ ผู้ซื้อแฟรนไชส์สามารถจัดหาเองได้ตามสะดวก

คำนวณต้นทุนขั้นต้นกัน
ข้อมูลจาก official site: yoghurtberry.com

        ชุดเริ่มต้น สตรอเบอรี่ 30 กิโล+ โยเกิร์ต 10 กิโล
        >>ต้นทุนสตรอเบอรี่ 30 กิโล ราคา 1050 บาท
        >>ต้นทุนโยเกิร์ต 10 กิโล ราคา 600 บาท
        >>สตรอเบอรี่ 30 กิโลกรัม ทำได้ประมาณ 130 แก้วต้นทุนแก้วละประมาณ 8 บาท
        >>โยเกิร์ตเบอร์รี่ 130 แก้ว ใช้โยเกิร์ตประมาณ 3.25 กิโล ต้นทุนแก้วละประมาณ 1.4 บาท
        ขายปลีกราคาแก้วละ 20 บาท

ต้นทุนขั้นต้นยังไม่รวมถึงรายได้หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การเพิ่มท็อปปิ้ง ค่าเช่าพื้นที่ วัสดุสิ้นเปลือง แก้ว หลอด ฯลฯ