อยากไปขายของที่ตลาดนัด

อยากไปขายของที่ตลาดนัด…ต้องรู้อะไรบ้าง!!!

Posted on พฤษภาคม 23, 2019 by administrator in ตลาดนัด, ตลาดนัด-บทความ, ตลาดนัดกรุงเทพมหานคร, ตลาดนัดกลางคืน // 0 Comments

อยากไปขายของที่ตลาดนัด…ต้องรู้อะไรบ้าง!!!

ตลาดนัด…ทำเลขายของ อีกสถานสร้างเงิน สร้างคน สร้างอาชีพ ให้ใครต่อใครร่ำรวยมาแล้ว เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน การปรับตัวก็เป็นสิ่งที่เรียกเลี่ยงไม่ได้…

เพื่อนๆหลายคนที่กำลัง…มองหาทำเลขายของ แบบล็อคในตลาดนัด สำหรับเพื่อนๆที่เป็นมือใหม่ พึ่งเริ่มเข้ามาในวงการ คงจะสับสน จับตนชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องรู้อะไรบ้าง…

วันนี้…ทางทีมงานเว็บไซต์ ทำเลขายของ.com จะพาไปหาคำตอบ ขั้นพื้นฐานของแม่ค้าตลาดนัด สิ่งที่ควรรู้ สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม ว่ามีอะไรบ้าง…ไปเริ่มกันเลยครับ

ใกล้บ้านดีที่สุด…

ทำเลที่ดี…มีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ก็ควรหาตลาดนัดที่ใกล้บ้านซักหน่อย อย่าต้องให้เดินทางไกลมากๆ เพราะนั่นจะทำให้เรามีต้นทุนเพิ่ม และเหนื่อยกลับการเดิน เสียเวลาในการเดินทางอีกด้วย แต่ ถ้าเป็นตลาดทำเลดีจริงๆ อันนี้ต้องดูตามเหมาะสมเอาครับ ไม่ข้ามจังหวัด ก็ยังพอไหว ไม่ข้ามฝั่งเมือง ก็ยังพอสู้ได้

ระยะทาง…จึงมีส่วนสำคัญ ในการตัดสินใจ ที่ลงขาย… “ใกล้ๆ….ยอมได้เปรียบ”

แนวไหน…

ตลาดนัด…ในปัจจุบัน มีด้วยกันหลายแนว “ทั้งแนวตั้ง แนวนอน แนวตะแคง” ฮิ้วๆๆๆ โป๊ะตึ้งๆ 555 ไม่ใช่แหละ เข้าเรื่อง… ตลาดนัดนั้นมีหลายสไตล์ เช่น ตลาดนัดอาหาร ก็จะเน้นขายอาหารนำ ในตลาดจัดพื้นที่โซนอาหารไว้ด้านหน้า มีร้านขายอาหารกว่า 50 % ของพื้นที่ มีโต๊ะนั่งรับประทานอาหารส่วนกลาง ไว้ให้ลูกค้านั่งรับทานอาหารพร้อม

หรือ ตลาดนัดแนวคลาสสิค ตลาดลักษณะนี้มีการตกแต่งพื้นที่แบบมีสไตล์เป็นของตัวเอง เพิ่มความน่าสนใจ แก่ตลาดมากขึ้น ลูกค้าจะมีทั้งกลุ่มคนใกล้เคียง และกลุ่มท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่สลับหมุนเวียนมาเดินตลาดตลอดๆ

ตลาดเชิงท่องเที่ยว ตลาดที่อยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ เช่น พัทยา หัวหิน ประจวบ ตลาดลักษณะนี้ จะมีความพิเศษตรงบรรยากาศ อารมณ์ของลูกค้า ในช่วงที่มาพักผ่อนสบายๆ พร้อมใช้เงินเพื่อความสุขในช่วงวันหยุด สินค้าส่วนใหญ่จะต้องมีสไตล์ มีเอกลักษณ์ มีความแปลกใหม่ จะทำให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น

ตลาดชุมชน ตลาดในลักษณะนี้ จะเปิดขายในเขตใกล้แหล่งชุมชนใหญ่ๆ ขายสินค้า-อาหาร-ของใช้ ในชีวิตปกติของทุกวันของคนทั่วไป กลุ่มพนักงาน กลุ่มแม่บ้าน ผู้ใช้แรงงาน สินค้าที่ขายจึงควรมีราคาไม่แพง สินค้าที่ใช้ง่าย ของกินที่คุ้นเคย

เห็นไหมครับ….แค่ลักษณะของตลาดนัด เราก็ต้องดูให้เหมาะสมกับตัวเรา , ร้านเรา , และตัวสินค้าของเราด้วย

Advertisements

ขนาดล็อค

อ๊ะๆ…อย่าพึ่งหัวเราะไปครับ ขนาดล็อคมีความสำคัญไมน้อย เพราะแค่ขนาดล็อค มันเป็นตัวกำหนดทุกสิ่งเลยก็ว่า…ได้ครับ

โดยทั่วไป ตลาดนัดมีขนาดล็อค ตั้งแต่ 2 เมตร คูณ 1 เมตร , 2 เมตร คูณ 1.5 เมตร , 2 เมตร คูณ 2 เมตร , 1.8 เมตร คูณ 1.8 เมตร

ขนาดเหล่านี้มีความหมายว่าอย่างไร….

ก็จะเป็นตัวกำหนดขนาดโต๊ะ ขนาดของอุปกรณ์ต่างๆ ในการเซ็ตร้าน ถ้าโต๊ะเราหน้ากว้าง 2 เมตร จะไปลงตลาด 1.8 เมตร คงไม่ได้แน่นอนครับ จำนวนของอุปกรณ์ที่เปลี่ยนไปอีก ป้ายหน้าร้าน บน-ล่าง ต้องเซ็ตไปตามขนาดของล็อค อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในร้าน มากน้อยให้เพียงพอกับล็อคด้วยครับ

ทางเดิน

ขนาดล็อค จะต้องสัมพันธ์กับทางเดินอีกด้วยครับ ซึ่งขนาดล็อคที่ดี ควรมีขนาดของทางเดินที่พอเหมาะด้วย กล่าวคือ ถ้าขนาดล็อคดีแล้ว จัดร้านได้อย่างลงตัว แต่ทางเดินแคบเกินไป ลูกค้าเยอะขึ้น ลูกค้าจะเดินไหลไปเรื่อยๆ ดันลูกค้าที่รอซื้อสินค้าได้ ต้องเผื่อทางเดินให้พอเหมาะ มีพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ลูกค้าหน้าร้าน และอีกส่วนให้ลูกค้าสำหรับเดินไปมาได้

งั้นเอากว้างๆไปเลย… อันนี้ก็จะไม่ดีนะครับ ทางเดินที่กว้างเกินไป ทำให้สร้างบรรยากาศความคึกคักได้อย่าง จำนวนคนที่เดินจะโหลงเหลงเกินไป อีกทั้งยังสิ้นเปลืองพื้นที่ด้วยเปล่าประโยชน์ ควรมองตลาดที่เขาจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัวด้วยครับ

ที่เก็บของ

เป็นตัวช่วย…ที่ทุนแรงเราได้เยอะมากๆครับ ตลาดนัดสมัยนี้ ในบางตลาดจะมีการจัดพื้นที่เก็บของให้ด้วย หรือไม่ก็สามารถเอาของไว้ที่เต้นท์ได้เลย ทางตลาดเขาจะมี พี่ๆ รปภ ดูแลให้ 24 ชั่วโมง ทำให้เราไม่ต้องขนของกลับไปกลับมา อาจจะมีค่าฝากของหน่อย ก็ขึ้นอยู่แต่ละตลาด ช่วงที่ติดต่อจะไป เพื่อนๆ ก็ลองสอบถามข้อมูลตรงนี้ดูด้วยนะครับ

ขายอะไรได้บ้าง

ในบางตลาดนัด ที่มีความชัดเจน เขาจะมีข้อกำหนดในเรื่องการขายไว้เลย เช่น ในหมวดอาหาร จะให้สินค้าเหมือนกันไม่เกิน 2 ร้าน หรือ ในหมวดสินค้าทั่วไป เสื้อผ้าแฟชั่น จะต้องไม่เหมือนกันจนเกิน เรียกได้พยายามคัดสินค้าให้มีความหลากหลาย

ก่อนขาย…ตอนที่ไปติดต่อ ก็ถามผู้จัดดูว่า สินค้าเราขายได้ไหม และที่ตลาดมีร้านแบบเรากี่ร้านแล้ว ถ้ามีเหมือนกันเยอะๆ ก็หาตลาดใหม่ต่อไปครับ

ใช้แก๊สได้ไหม

ตลาดนัดบางที่จะไม่อนุญาตให้ใช้แก๊ส ให้ใช้แต่ไฟฟ้าเท่านั้น จะต้องเตาไฟฟ้า ซึ่งมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ในการใช้ไฟฟ้า ต้องเช็คหน้างานให้ดีๆ เคยมีอยู่เคสหนึ่ง เป็นตลาดนัดแนวอีเว้นท์ ช่วงเวลาขาย ไฟฟ้าดับเฉย… ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงไฟถึงมา… พอไฟมา…คนก็กลับหมดพอดี , จุดนี้ก็ต้องดูด้วยเหมือนกัน

ลูกค้าคือใคร มาจากไหน

ต้องอ่านให้ออก…ว่า “ลูกค้ามาจากไหน” มาจากออฟฟิศ บริเวณรอบๆตลาดใช่หรือ , มาจากบ้านพัก หมู่บ้านต่างๆ , มาจากโรงงานในพื้นที่ , เป็นตัวบอกกำลังซื้อได้อย่างดี

ลงพื้นที่ตลาดก่อนไปขายดีที่สุด…ดูคนซื้อ ก็จะเข้าใจได้เองครับ

หน้าตาคนจัด

มีคำกล่าวว่า “หน้าตาไม่ดี…แต่จิตใจดี” คบได้ คนจะงาม…งามมาจากข้างใน ใช่ใบหน้า เฉกเช่นเดียวกันครับ เราจะไปฝากชีวิตไว้กับหัวเรือใหญ่ ต้องดูเขา…ว่า เป็นอย่างไร… จิตใจดีไหม พูดจาให้เกียรติผู้น้อยหรือไม่ อ่อนน้อมถ่อมตนเป็นที่ตั้งหรือเปล่า “คนที่ยิ่งใหญ่…ยิ่งต้องเข้ถึงใจคนให้มก”

เวลามีปัญหาน้อยใหญ่…ก็จะรับปัญหา ของทุกคน ใส่ใจรายละเอียดและรีบแก้ไข “ผู้จัด หรือ เจ้าของตลาด” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพื่อนๆ จะขายที่ตลาดนัด ก็ต้องรู้จักหน้าตา-รู้จักนิสัย-กริยา ของเจ้าของ-ผู้จัดไว้ซักหน่อย “ถ้าอยู่กับคนดีๆ อยู่กันยาวๆ”

อยู่มานานไหม

ตลาดนัด เป็นอะไรที่เปิดง่ายมากๆ ใครๆก็เปิดได้ ถ้าหาตลาดที่เปิดมานาน อยู่มายาวๆ ได้ มีที่ลงก็ลุยไปเลยครับ แต่ส่วนใหญ่จะเต็ม ต้องใช้เวลานานกว่าจะมีที่ว่าง พอมีที่ว่าง ก็ต้องรีบจับจองกันเลย

แต่สำหรับตลาดที่เปิดใหม่…ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไป เปิดใหม่ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน “ความใหม่-ความสด” ก็จะทำให้คนสนใจได้ สำคัญอยู่ความคิดสร้างสรรค์ของตลาด การจัดการ , การตลาด , การครีเอท , การจัดกิจกรรม , เงินทุน , บุคลากร ถ้าเป็นตลาดเปิดใหม่…แต่เตรียมตัว ก็มีโอกาสสำเร็จค่อนข้างสูง เพราะเช่นความต้องการก็ยังมีอยู่ หากรู้…ดูให้เป็น ก็สามารถจับต้องได้ โครงการใหม่ๆ จึงควรดูองค์ประกอบต่างๆให้ครบ ถ้ามีครบ…ก็ลงขายเช่นกัน