แฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด ฉีกรูปแบบเดิมๆ เพื่อก่อกำเนิดชีวิตใหม่
แฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด ฉีกรูปแบบเดิมๆ เพื่อก่อกำเนิดชีวิตใหม่ การพัฒนาสินค้าแบบไม่มีกรอบ สร้างสรรค์สินค้าขึ้นมาใหม่แบบแตกต่างๆจากท้องตลาด เป็นจุดเด็ดขาดของธุรกิจ
Advertisements
“แฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด อร่อยเวอร์สลัดซูชิ” จากคำพูดของคนดูแลตลาดนัดว่า “ที่นี่มีขายสลัดเยอะแล้ว ไม่ให้ขายแล้ว” นั่นจึงทำให้เกิดธุรกิจ แฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากหนุ่มเมืองจัน…นามว่าคุณภูดิศ บุญร่วม(กับคุณจันทร์ศรีภรรยา)ที่เริ่มต้นทำมาหากินเหมือนคนทั่วไป อาชีพเริ่มต้นของเขาก็คืออาชีพทำซูชิขาย แต่ด้วยความที่มีการขายซูชิกันมาก ทำให้มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง สุดท้ายก็จบโดยสงครามราคา…ตายกันหมด คุณภูดิศจึงมองหาอาชีพใหม่ ว่าจะทำอาชีพอะไรดี สองคนช่วยกันคิด…สองคนช่วยกันทำ สรุปคำตอบที่ขาย “ผักสลัก” ดีกว่า
จึงเริ่มต้นขายผักสลัดแบบที่มีน้ำสลัดด้วย แบบร้านทั่วๆไป เริ่มต้นด้วยการไปลงขายตามตลาดนัด ไปกี่ตลาดคนที่ดูแลตลาดนัดก็บอกว่า ที่นี่มีร้านขายผลักสลัดหลายเจ้าแล้ว ไม่สามารถให้ลงขายได้อีกแล้ว เป็นเช่นนี้ทุกตลาดที่ไปติดต่อขาย แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความท้อแท้กับคุณภูดิศเลย ด้วยความที่ต้องการขายผักสลัดเป็นอย่างมาก เพราะมองเห็นว่าสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพยังไงก็มีความยั่งยืน คนเราทุกคนก็ต้องรักร่างกายตัวเอง ต้องการมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นอาหารเพื่อสุขภาพยังก็มีโอกาสเติบโตได้สูง
กว่าจะมาเป็น “แฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด อร่อยเวอร์สลัดซูชิ” เมื่อเขาไม่ให้ขายสลัดผัก “เราก็ไม่ขายก็ได้…แต่เราจะซูชิสลัด” ด้วยความมุ่งมั่นไม่ท้อถอย(อันเป็นคุณสมบัติของผู้ที่จะทำธุรกิจควรมี) ทั้งสองคนจึงคิดดัดแปลงจากผักสลัด ที่เวลากินต้องมาผสมน้ำสลัดในชามแล้วคลุกเคลาให้เข้ากัน เปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เป็นซูชิ อาชีพในครั้งแรกที่มีประสบการณ์การทำอยู่แล้ว โดยทำให้เป็นคำๆแล้วมาจิ้มกับน้ำสลัด(ลักษณะเหมือนซูชิเลย)(หรืออาจดูเป็นค็อกเทล)
สินค้าหลักของ“แฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด มีตัวของซูชิ_3แบบ
1.ซูชิผักสลัดแบบพันด้วยแป้งแหนมเนือง
2.ซูชิผักสลัดแบบพันด้วยแครอท
3.ซูชิผักสลัดแบบพันด้วยขนมปังโฮวีท
สินค้าพระเอกของแฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด ก็คือน้ำสลัดที่ทำขึ้นด้วยความพิถีพิถันและใส่ใจเรื่องคุณภาพวัตถุดิบ ที่ผลิตจากน้ำมันถัวเหลืองไขมันต่ำ และเพิ่มความหลากหลายด้วยรสชาติใหม่ที่แตกต่างจากท้องตลาดทั่วไปเช่น,น้ำสลัดโยเกิตบลูเบอรี่,น้ำสลัดแบลคเคอร์เร้นทร์,น้ำสลัดวาซาบิ,น้ำสลัดพริกไทยดำ,น้ำสลัดงาดำ ส่วนของผักสลัดก็เป็นผักไฮโดรจากฟาร์มเอชทูโอผู้ที่ได้รับมารตราฐานอาหารแลละยา ซึ่งเป็นผักที่มีรสหวานแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป
คำมั่นสัญญาของแฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด ที่ว่า “อยากขายของดีดี…ก็เอาของดีดีมาขาย” จากคำมั่นสัญญาของเจ้าของธุรกิจ(คุณภูดิศ) ที่ตั้งมั่นมาแต่เริ่มต้นทำธุรกิจว่า จะคัดสรรเอาแต่วัตถุดิบที่ดี มีประโยชน์ปลอดภัยต่อสุขภาพ มาให้กับคนที่จะมาซื้อของ เชื่อได้เลยว่ายังไงคนที่ได้ลองกินผักสลัดของมิสเตอร์สลัดแล้วต้องกลับมาซื้ออีกอย่างแน่นอน
การลงทุนของแฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด มี_2รูปแบบ
1.คีออสชุดเล็กราคา_25,000บาท.
2.คีออสชุดใหญ่ราคา_50,000บาท.
-โดยเป็นค่าแรกเข้าร่วมธุรกิจ_5,000บาท(สำหรับกรุงเทพ)
-โดยเป็นค่าแรกเข้า_7,000บาท(สำหรับต่างหวัด)
-โดยผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องรับวัตถุดิบคือ,ผักสลัดและน้ำสลัดจากบริษัทแม่เท่านั้น
-จะมีการอบรมการทำให้เป็นเวลา_3วัน
-ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องหาซื้อตู้เย็นเองน่ะค่ะ
สนใจสอบถามติดต่อแฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด(Mr.Salad)
เลขที่:89/194 หมู่บ้านเพอร์เฟ็กพาร์คพระราม5_บางใหญ่ ซอยวัดพระนอน อำเภอบางบอน จังหวัดนนทบุรี
โทร.08-8916-4246,โทร.08-4636-4264
ความเป็นไปได้ทางธุรกิจของแฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด(ลองขาย_100กล่องต่อวันค่ะ)
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการขาย “มิสเตอร์สลัด”ใน_1วัน
1.ค่าเช่า_400บาท.
2.ค่าแรงงาน_300บาท.
3.ค่าต้นทุนวัตถุดิบมิสเตอร์สลัด_100กกx25บาท=2,500บาท
4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ(เผื่อไว้ซัก_100บาท)
รวมค่าใช้จ่ายคราวๆเท่ากับ_3,300บาท.
รายได้ที่เกิดขึ้นจากการขาย “มิสเตอร์สลัด”ภายในหนึ่งวัน
1.ขายราคากล่องละ_40บาท
ดั้งนั้นหนึ่งจะขายได้จำนวนเงินทั้งหมดเท่ากับ 100กล่องx40บาท=4,000บาท
Advertisements
สรุปการประเมินความเป็นไปได้ของธุรกิจแฟรนไชส์มิสเตอร์สลัดดั้งนี้
-รายจ่ายต่อวัน_3,300บาท
-รายได้ต่อวัน_4,000บาท
-มีกำไรเท่ากับ 4,000-3,300=700บาท/วัน
ข้อคิดธุรกิจแฟรนไชส์มิสเตอร์สลัด
1.การล้มเป็นเพียงการเริ่มต้นใหม่
2.เมื่อเข้าด้านหน้าไม่ได้ ก็ให้หาทางเข้าทางอื่น
3.ตั้งตำแหน่งสินค้าให้ชัดเจน แล้วยึดตำแหน่งนั้นให้ดีที่สุด
ขอให้ผู้อ่านลองอ่านข้อคิดธุรกิจแล้ว ลองคิดตามไปด้วยว่า แต่ละข้อคิดจะแปรเปลี่ยนมาใช้ได้อย่างไร
Leave a comment