bannera1
ล เยาวราช

ล เยาวราช เปิดคัมภีร์โชห่วย งัดข้อกับ 7eleven ( ถึงคราวที่เซเว่นต้อง “กลัว” บ้าง )

ล เยาวราช เปิดคัมภีร์โชห่วย งัดข้อกับร้าน  7eleven  เป็นตำนานการต่อสู้ทางธุรกิจได้อย่างน่าประทับใจ  และน่าศึกษาเป็นตัวอย่างในการทำธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง

 



Advertisements

ความเป็นมาของ ล เยาวราช

     ร้านขายของชำในแหล่งย่านการค้าอันเก่าแก่  บนถนนเยาวราช  ถนนที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีร้านค้ามากมาย  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนเชื้อสายจีน  ที่อาศัยอยู่ในย่านนี้  เจ้าสัวดังๆของเมืองไทยอย่างคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี(เจ้าของสุรารายใหญ่ของไทย) หรือ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ก็เริ่มต้นมาจากที่เยาวราชนี้เช่นกัน

     ล เยาราช ก็เป็นร้านขายของชำที่มียอดขายที่ไม่น้อยเลย  สามารถทำยอดขายต่อปีถึง 100 ล้านบาท  ซึ่งส่วนใหญ่ของรายได้จะเป็นการขายแบบค้าส่ง  เป็นการส่งสินค้าให้กับผู้ผลิตสินค้าเพื่อใช้เป็นส่วนผสมวัตถุดิบต่างๆ

     ล เยาราช เปิดกิจการมาแล้วกว่า 70 ปี  สืบทอดธุรกิจมาแล้วหลายรุ่น  โดยร้านเป็นอาคารพาณิชย์คูหาเดียว  ขายของแบบร้านชำทั่วไป  ขายของทุกอย่างแบบกองรวมอยู่ในร้านเหลือเพียงแต่ทางเดินเล็กๆ ให้เข้าไปหยิบของได้เท่านั้น  คนขายต้องมีทักษะพิเศษสามารถรู้ตำแหน่งของสินค้าที่ต้องการ  เมื่อมีลูกค้ามาสั่งสินค้า  ก็จัดสินค้าให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งต้องคาดคะเน  สต๊อกว่าสินค้าใดใกล้หมดแล้วบ้าง สินค้าใดอยู่ในสต๊อกมานานมาก แบบขายไม่ได้เลย  เพื่อมาจัดการบริหารการสั่งซื้อสินค้าเข้าร้าน  เรียกได้ว่าคนขายของในสมัยโบราณต้องมีทักษะความจำและบริหารความคิดในสมองแต่เพียงผู้เดียว  ซึ่งโอกาสผิดผลาดมีเปอร์เซนต์สูงมาก

ล เยาวราช
มีอิสระมากในการหาสินค้ามาขายในร้าน สร้างทางเลือกใหม่ๆให้กับลูกค้า

จุดพลิกของ ล เยาวราช

     แต่เมื่อยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนแปลง  ความเจริญต่างๆเริ่มคืบเคลื่อนเข้ามา  การแข่งขันทางธุรกิจเริ่มรุงแรงมากขึ้น  การจะเอาตัวรอดจึงเป็นเรื่องยาก  การเกิดขึ้นของร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก  เกิดขึ้นอย่างมากมาย(เซเว่นอีเลฟเว่น)  ร้านค้าส่งขนาดใหญ่ก็มีเพิ่มขึ้น(แม็กโคร)  ทำให้ร้านโชห่วยน้อยใหญ่ที่มีมาแต่เดิม  เริ่มล้มหายตายจากไปทุกวัน

     ล เยาราช ก็เป็นอีกหนึ่งที่ต้องจากสภาพการแข่งขันแบบนี้  ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่ธุรกิจต้องถูกเปลี่ยนถ่ายมือ  “จากรุ่นลูกสู่รุ่นหลาน”  นี้ไม่พ้นที่ต้องเป็นลูกชายในครอบครัวที่ต้องเข้ามาบริหารกิจการต่อไป  นั่นก็คือ “คุณภาสประภา กันยาวิริยะ” ทายาทรุ่นที่ 3 ชายหนุ่มไฟแรงที่มองเห็นอะไรบ้างอย่างในธุรกิจของครอบครัว  หากจะต้องรับช่วงทำธุรกิจ  คงต้องปรับเปลี่ยนกันขนานใหญ่  ทั้งที่รู้ว่าการเปลี่ยนในครั้งนี้ คงจะมีคนไม่เห็นด้วยหลายคน

     คำพูดแรก ที่ถามกลับไป  กับป๊าและม้าว่า  “แต่ต้องปรับปรุงร้านใหม่น่ะ”   ป๊ากับม้า(คือพ่อกับแม่) ด้วยความที่อยากให้มีคนมาสืบถอดกิจการต่อไป  ก็จึงตอบไปว่า  “ได้…แต่ห้ามปิดร้านแม้แต่วันเดียว  ถ้าจะปรับปรุงร้านให้ทำหลังเวลาสองทุ่ม…แล้วต้องเปิดร้านตอนหกโมงเช้า”

     “ข้อแม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความมุ่งมั่น…มันพุ่งพลาดอยู่เต็มเปี่ยม”  อยากสร้างความสำเร็จและความภาคภูมิให้กลับพ่อแม่  จึงรับงานนี้แบบเต็มตัว…จะทุ่มทุกสรรพกำลังเท่าที่มี…

ล เยาวราช
หน้าร้านที่ต่างจากร้านโชห่วยแบบเดิมๆ 

ล เยาวราช

วิเคราะห์ ล เยาวราช ในแบบเดิมก่อนลงสนามเพื่ออุดรอยรั่วต่างๆ

1.) สัดส่วนการขายส่ง 82% สัดส่วนของการขายปลีก 18 %
มียอดขายต่อปีกว่า 100 ล้านบาท  ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากลูกค้าขายส่ง ที่มีสายสัมพันธุ์กันมานาน (จำนวนเจ้าน้อย,ยอดบัญชีแต่ละเจ้าสูง) ทำให้มีความเสี่ยงสูงหากมีเจ้าใดเจ้าหนึ่งไม่ซื้อต่อ ก็จะทำให้ยอดตกอย่างแน่นอน  การขายปลีกคิดเป็น 18 % จากยอดขายทั้งหมด  และมีที่ท่าว่าจะลดลงไปเลยๆ
วิธีแก้ไข: หาทางเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่  สร้างสัดส่วนการขายปลีกให้มากขึ้น  โดยที่ต้องรักษาลูกค้าขายส่งต่อไป เพื่อเฉลี่ยความเสี่ยงของยอดขาย

2.) การจัดวางสินค้า
เดิมว่างกองแบบไม่เป็นระเบียบ  ยากต่อการดูรักษาและการควบคุม  อีกทั้งยังมีภาพลักษณ์ที่ดูเก่าไม่สวยงาม
วิธีแก้ไข: ออกแบบการจัดวางใหม่

3.) ทำเลที่ตั้ง 
ตั้งอยูในย่านเก่าแก่ที่มีเรื่องราวความเป็นมาที่ยาวนาน  ในเสน่ห์แบบที่ขนานว่า  “ถนนสายมังกร” ปัจจุบันไม่ได้เป็นแต่เฉพาะเรื่องของการค้าเท่านั้น  ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้วชาวไทยและชาวต่างประเทศ  เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยนานาชนิด  เรียกได้ว่า “เยาวราชถนนที่ไม่เคยหลับเลยทีเดียว”
วิธีแก้ไข: เพิ่มมูลค่าจากเรื่องราวและคุณค่าทางวัฒนธรรม

4.) การบริหารระบบภายในร้าน 
เป็นรูปแบบดั้งเดิม อาจยังไม่ละเอียดชัดเจนเท่าที่ควร
วิธีแก้ไข: วางระบบการบัญชี,เพิ่มเครื่องมือช่วยเรื่องการจัดการต่างๆ เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์

รีโนเวทร้านใหม่

1.) ตั้งคอนเซ็ปร้าน  Green china โดยวางตำแหน่งร้านไปที่  ร้านสไตล์จีนแบบเน้นความเป็นธรรมชาติ  
สื่อสารโดยใช้สีเขียวเป็นตัวสอดแทรก  หากมองเยาวราชจะเห็นแต่สีแดงไปหมด  จึงใช้สีเขียวในการออกแบบเป็นหลัก
เพื่อสร้างจุดเด่น  ที่แตกต่างเปรียบเหมือนต้นไม้เขียวที่ขึ้นอยู่ในเมืองใหญ่

2.) ออกแบบการจัดเรียงสินค้าใหม่  ที่สามารถโชว์สินค้าให้ได้มากกว่า 5,000 รายการ  ในพื้นที่ขนาด 1คูหา  
โดยการจัดเรียงสินค้าในแนวสูงสองฝั่ง  เพื่อให้สามารถจัดเรียงสินค้าได้ทั้งหมด  ทำให้เกิดความสวยงาม และง่ายต่อการเช็คสินค้า  
ลูกค้าก็สามารถเลือกชมสินค้าได้ตามใจชอบ

3.) การออกแบบตกแต่งภายในร้าน  ใช้โคมจีนสีเขียวติดเรียงหลายดวงบนพื้นผนังสีดำ  เพื่อให้โคมเด่นสวยงามแปลกตากับผู้พบเห็น  หน้าร้านติดประตูกระจกปิดเปิดด้วยระบบออโต้  มีการประดับด้วยรถจักยานและตุ๊กตาหมีตัวใหญ่  สร้างจุดประทับใจทำให้เกิดการถ่ายภาพจากนักท่องเที่ยว

4.) หน้าตัวตึกแต่งด้วยสีเขียวทั้งตึก  ปลูกต้นไทรไว้ด้วยสร้างปอดธรรมชาติให้แก่ถนนเยาวราช  เกิดภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

5.) เพิ่มเวลาเปิดขาย  จากเดิมที่เคยปิดตอนสองทุ่ม  เปิดขายจนไปถึงเที่ยง  โดยคุณภาสประภา มองว่าในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีนักท่องเที่ยวและลูกค้าเดินกันอย่างมาก  การขายต่อเวลาจึงเพิ่มยอดขายได้ดีทีเดียว

    หลังจากปรับปรุงร้านครั้งใหญ่  ทำให้มีลูกค้าปลีกเข้าร้านมากขึ้น  มีคนมาถ่ายรูปมากมาย  มีสื่อต่างๆมาทำสกู๊ปเผื่อแพร่ไปหลายฉบับ  และยังมีรายการทีวีมาถ่ายทำรายการอีกต่างหาก  นับว่าการสร้างความแตกต่างบนพื้นฐานที่ยังอนุรักษ์ความเป็นจีนอยู่  ได้รับการย่อมรับอย่างมากเลยทีเดียว
    ขั้นต่อไป คุณภาสประภา จะทำนั้น คือ การพัฒนาด้านระบบบัญชี,ด้านการจัดการด้วยระบบคอมพิวเตอร์,ด้านการบริหารบุคคล  และการตลาดประชาสัมพันธ์ ที่ต้องทำควบคู่กันไป  ธุรกิจจึงจะสำเร็จไปได้อีกขั้น

ล เยาวราช
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็มาซื้อสินค้าที่ ล เยาวราช

เปรียยบเทียบระหว่าง ล เยาวราช กับ 7eleven

ล เยาวราช

7eleven

1) โดดเด่นด้วยไชนีสสไตล์หนึ่งเดียวในเมืองไทย

2) ภาพลักษณ์ความเป็นธรรมชาติ

3) ร้านสะดวกซื้อทันสมัยในแนววัฒนธรรมท้องถิ่น

4) มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร..จนเป็นที่พูดถึง 

5) เพิ่มกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยว   

6) ระบบการจัดการภายในยังต้องพัฒนาต่อ

7) บุคลากรยังต้องมีการเพิ่มความรู้และจำนวนคน

 

1) รูปแบบร้านสะดวกซื้อคล้ายกันไปหมด

2) ภาพลักษณ์ความเป็นสากล

3) ร้านสะดวกซื้อทันสมัยในแนวธุรกิจขยายสาขา

4) ทุกสาขาเหมือนกันหมด

5) ลูกค้ากลุ่มบริเวณใกล้ร้าน

6) ระบบการจัดการเป็นระบบและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

7) บุคลากรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมีสถาบันสอนเฉพาะด้านรองรับความต้องการแรงงาน

 



Advertisements

    สำหรับในยุคที่มีการแข่งขันสูง ธุรกิจต่างๆหาทางเอาชนะทุกรูปแบบ แต่การจะต่อสู้กับคู่แข่งที่มีทั้งเงินทุนและวิทยาการต่างๆ พร้อมสรรพไม่ใช่เรื่องง่าย แค่คิดว่าจะสู้อย่างไรก็ถอดใจเสียแล้ว จึงต้องขอยกย่องโชห่วยไทยอย่าง ล เยาวราช ที่กล้าต่อกรสู้กับยักษ์ใหญ่อย่างเซเว่น ได้อย่างชาญฉลาด ไม่ปะทะด้วยราคา แต่หาความมีตัวตน สร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์

    จนกลายจุดเด่นหนึ่งของเยาวราช ที่ทำให้มีการกล่าวถึงอย่างมากมาย ล เยาวราช จึงยังคงยืนหยัดต่อสู้ได้อย่างมั่นคง ไม่ถอดใจเลิกล้มกิจการเหมือนโชห่วยเจ้าอื่นๆ ที่นับวันจะล้มหายตายจากมากขึ้นทุกวัน ล เยาวราช จึงนับได้ว่าเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่ดีอีกหนึ่งธุรกิจ

 “ถ้าคู่แข่งเป็นมวยหมัดหนัก  จงใช้สมองในการชก  อย่าใช้แต่หมัดในการชกอย่างเดียว  ถ้าใช้แต่หมัดผลลัพธ์ที่ได้  ไม่แพ้ก็เสมอ”

        สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวชมร้าน ล เยาวราช ก็ลองติดต่อได้ตามนี้ครับ
        โทรศัพท์    Tel. 02-622-4083, 02-622-4034, Fax. 02-622-4161
        อีเมล    loryaowaraj@hotmail.com
        https://www.facebook.com/loryaowarajbangkok

เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย อาซาดะ ริวอิจิ

copyright

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.