ธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House
ธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House
Advertisements
เส้นทางความสำเร็จของ ธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House ชั่งเป็นเรื่องที่น่าบันทึกอยู่ในกลยุทธ์การทำธุรกิจ จากหญิงสาววัยเพียง 26 ปี ที่มุ่งมั่นอย่างเด็ดเดียวที่จะต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และธุรกิจนั้นต้องเป็นเครื่องสำอางค์เท่านั้น จากช่วงที่กำลังศึกษาในต่างประเทศ สาขาบริหารธุรกิจ ก็เริ่มตะเวนทดลองสินค้าเครื่องสำอางค์ในห้างสรรพสินค้าที่ต่างประเทศหลายชนิดหลายแบรนด์ ทั้งระดับบนและระดับล่าง พยายามศึกษาเรียนรู้คุณสมบัติต่างๆของเครื่องสำอางค์แต่ละชนิด ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
“แรงบันดาลใจ คือ สิ่งที่จะทำให้เราเริ่มต้น แต่นิสัยจะเป็นสิ่งให้เราทำมันต่อไป” จิม โรห์น(Jim Rohn)(นักธุรกิจเครือข่ายชื่อก้องโลก)
จากความฝันที่อยากเป็นเจ้าของ ธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House เมื่อคุณชัญญาพัชญ์ ณัฐจีราวัฒน์ (คุณก้อย) สำเร็จการศึกษาจึงเริ่มมองสินค้าที่จะนำมาขาย ครั้นได้มีโอกาสไปงานแสดงสินค้าที่เกาหลี ได้ไปเจอสินค้าแบรนด์ อีทูดี้เฮาส์ Etude House จากการได้ทดลองใช้ด้วยตัวเอง ก็รู้ถึงคุณภาพของเครื่องสำอางค์ที่ตรงกับความต้องการ เป็นเครื่องสำอางค์ที่เหมาะกับหญิงสาวไทย
อีกทั้งมีราคาอยู่ในระดับกลางๆ แต่คุณภาพสินค้าอยู่ในระดับไฮเอนด์เทียบเท่าแบรนด์ยุโรป จึงเริ่มติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย แต่หนทางย่อมมีอุปสรรค์เป็นบทพิสูทธิ์วัดคุณค่าแห่งความสำเร็จ
“เรื่องการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ต้องศึกษาข้อมูลแบบรอบด้าน และรู้จักช่องทางการตลาด”
การนำเข้าสินค้าที่มีชื่อเสียงในประเทศเกาหลี มาเป็น ธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House ต้องผ่านการคัดสรรจากบริษัทแม่เสียก่อน อีกทั้งในตอนนั้นคุณก้อยมีอายุน้อยทำให้ทางเกาหลีไม่ค่อยแน่ใจซักเท่าไร แต่ด้วยความพยายามและพื้นฐานการด้านบริหารธุรกิจที่ได้เรียนมา คุณก้อยจึงได้ทำแผนธุรกิจทั้งหมด ทั้งการตลาด,การประชาสัมพันธ์ รูปแบบการจัดจำหน่ายในประเทศ,กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนในประเทศ ทุกด้านที่จะทำให้เห็นว่า ถ้า”อีทูดี้เฮาส์”เข้ามาขายในไทยแล้วจะมีทิศทางเป็นอย่างไร หลังจากส่ง “business plan” ไปแล้ว ก็ต้องรอการตอบกับของทางเกาหลี ใช้เวลาซักพักใหญ่ทางเกาหลีก็ให้ไปพูดคุยแนวทางการทำธุรกิจ อีกถึงสามครั้ง จนในที่สุดก็ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศแต่เพียงผู้เดียว
ครั้งแรกที่เข้ามาขายในไทย คุณก้อย ได้วางตำแหน่งสินค้าอยู่ในระดับกลาง จากคอนเซ็ปที่ว่า “สินค้าคุณภาพระดับสูง แต่ราคาระดับกลางๆ” ซึ่งในขณะนั้น(12ปีก่อนหน้านี้) เครื่องสำอางค์จะมีแค่ 2กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มราคาแพงไปเลย กับราคาถูกเลย
ฉะนั้นในการวางสินค้าเพื่อจัดจำหน่าย จึงมองไปที่ห้างสรรพสินค้า ด้วยเหตุว่าจะสร้างภาพลักษณ์ของสินค้า อีทูดี้เฮาส์ Etude House ให้ดูดี แบบเกาะติดภาพลักษณ์ของห้างสรรพสินค้าที่ดูดีมีระดับอยู่แล้ว ครั้งแรกใช้เงินลงทุน 2 ล้าน แบบที่ต้องอยู่ในงบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าสินค้า ค่าพนักงาน ค่าประชาสัมพันธ์ ค่าตกแต่งตัวร้าน
ซึ่งห้างแรกที่ไปขายก็คือ ห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วาน เพียงการขายใน 7 วันแรกมีอยู่ขาย หลักแสนบาท
และภายในหนึ่งปีแรก ขยายสาขาไปกว่า 10 สาขา และใช้เวลา 3ปี มีสาขากว่า 40 สาขา
“การสร้างแบรนด์ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ต้องเน้นเรื่องคุณภาพ บรรจุภัณฑ์ต้องมีเรื่องราว มีความเป็นมา และมีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้”
“การวางแผนการตลาด ด้วยการประชาสัมพันธ์ โฆษณา เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยสำหรับการสร้างความเติบโตของธุรกิจ”
สินค้าที่เป็นที่นิยมของ ธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House ก็คือ บีบีครีม (BB cream)และ ซีซีครีม(CC cream) มียอดขายกว่า พันหลอด/เดือน สินค้าของอีทูดี้ยังมีกว่า 500รายการ(pass moving) และยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เน้นแนวทางด้านนวัตกรรม ซึ่งเป็นส่วนงานของบริษัทแม่ที่ประเกาหลีเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนในปี 2557 อีทูดี้ ยังมีการรีโนเวทร้านสาขาในประเทศไทย ให้มีภาพที่ดูเรียบหรู่ จากการใช้โทนสีขาวเป็นหลักเติมแต่งด้วยสีชมพูเล็กน้อย เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้าตั้งช่วงอายุ 15-35ปี
สถิติจากสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ปี 2555 |
“การจะชนะคนอื่นได้เราต้องคิดมองเหตุการณ์ล่วงหน้า จะกี่ก้าวเราก็ต้องทำให้ได้ เพราะถ้าเมื่อไรที่เราหยุดคิดก็จะพบกับความพ่ายแพ้เมื่อนั้น”
อุปสรรคของ ธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House
คุณก้อย ได้กล่าวว่า ปัญหามีทุกวัน และเข้ามาแบบ 360 องศา มีความรู้สึกว่า ทำไมต้องมาเป็นเป้านิ่ง ให้ทุกปัญหามายิ่งใส่รอบตัวทำไม แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้ เดินมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องทำให้สำเร็จให้ได้
-ปัญหาเรื่องของเครื่องสำอางค์เกาหลีที่หิวเข้ามาในไทยแบบไม่เสียภาษี เข้ามีตีตลาดในไทย
-การแก้ไขโดยการสร้างสินค้าให้ภาพลักษณ์ที่ชัดเจน สร้งความน่าเชื่อถือในตัวสินค้า ทั้งด้านผู้ผลิต,ด้านองค์กรที่ให้การรับรอง,ด้านคุณภาพสินค้า
-จัดกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง เช่น การประกวดสาวผิวสวย การจัดนำชมโรงงานและกระบวนการผลิต เหล่านี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
เคล็บลับธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House
1.ความชอบ
จงทำธุรกิจอะไรก็ได้ในเรื่องที่เราชอบ ซึ่งนั่นจะเป็นการที่จะทำให้เรา ทำสิ่งนั้นได้เป็นเวลานานๆ ธุรกิจไม่ได้สำเร็จแค่เพียงวันเดียว หากแต่ต้องใช้เวลาในการสร้าง ถ้ายิ่งนานก็จะยิ่งทำให้ท้อถอย แล้วถ้ายิ่งไม่มีความชอบที่จะทำด้วยแลัว ธุรกิจที่ตั้งใจคงจบสิ้นอย่างแน่นอน
2.ความสามารถในการบริหารจัดการ
สำหรับส่วนตัวมองสิ่งสำคัญในการบริหารจัดการนั้นก็คือ การบริหารความคิด และ การบริหารเรื่องคน
3.ความโชคดี
หรือก็คือ การมองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ถ้าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ถูกต้อง โอกาสสำเร็จของธุรกิจก็เป็นไปได้
Advertisements
สำหรับ ธุรกิจเครื่องสำอางค์เกาหลี อีทูดี้เฮาส์ Etude House จะเห็นได้ต้องมีต้นทุนบ้างอย่างในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะของคุณก้อย ต้นทุนที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ความหลงไหล ความมุ่งมั่น เป้าหมายที่ชัดเจน ความอดทนที่ไม่เคยหันหลัง การศึกษาที่ต้องเกี่ยวข้อง แล้วก็ทำ…ทำแบบให้สุดๆไปเลย สิ่งเหล่าเป็นหัวใจในการทำธุรกิจ หลังจากนี้ก็อยู่ที่ว่า ใครจะมองเห็นถึงโอกาส ความต้องการของลูกค้าที่ถูกต้อง หากจับกระแสทิศทางในอนาคตได้ การเป็นนักธุรกิจร้อยล้านก็ไม่ไกลเกินเอื้อม |
เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย อาซาดะ ริวอิจิ
ทำเลขายของ.com
มีสาขาที่ไหนบ้างค้ะ
อยากเป็นตัวแทนขายสนใจค่ะ