bannera1
แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ

แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน

แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน

         การขายลูกชิ้นหมูปิ้งในตลาดตอนนี้มีมากมาย มีผู้ขายรายใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด บ้างก็สร้างแบรนด์ของตัวเอง บ้างก็เปิดร้านทั่วไปตามตลาดนัด ริมถนน บ้างก็ผลิตขายส่งก็ว่ากันไป แต่จุดที่ทำให้ลูกชิ้นหมูปิ้งเริ่มกลายเป็นแฟรนไชส์ เป็นสาขากระจายไปทั่วประเทศในช่วงแรกๆ คงไม่พ้น แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ ของคุณปู กนกวรรณ ดารานักแสดงชื่อดังของไทย





Advertisements

         จะเรียกว่าความบังเอิญหรือความตั้งใจก็ได้ ด้วยความที่ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่คุณปูกำลังตั้งครรภ์ จึงไม่สามารถรับงานการแสดงได้ ทำให้เกิดความคิดว่างานการแสดงนี้ไม่มั่นคงไปตลอด สักวันก็จะต้องลงจากเวทีนี้ไป เลยต้องหาธุรกิจอะไรทำซักอย่าง และด้วยความบังเอิญหรือเป็นโชคชะตาก็แล้วแต่ ก่อนหน้านี่มีการเชิญไปออกร้านของเหล่าดารานักแสดงในงานกาชาดเป็นประจำทุกปี ซึ่งคุณปูก็ไปด้วยเช่นกัน ตอนนั้นคุณปูตัดสินขายลูกชิ้นหมูปิ้ง โดยที่เป็นรับลูกชิ้นหมูมาทำขายต่อโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นงานเชิญ แต่หารู้ไม่ว่าเสร็จสิ้นงานในเวลาเพียงไม่กี่วันกลับทำยอดขายได้ถึง 4 แสนบาท จึงเป็นจุดกำเนิดของ แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ มาจนถึงทุกวันนี้

แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ

คุณปูลงตรวจคุณภาพแฟรนไชส์ด้วยตัวเองเลย

         จากจุดนั้นคุณปูไม่ได้เพียงแค่ดีใจกับยอดขายที่ทำได้ แต่กลับกลายเป็นการจุดไอเดีย ทำให้คุณปูคิดพยายามค้นหาสูตรของลูกชิ้นหมูขึ้นเอง และเปลี่ยนจากผู้รับสินค้ามาเป็นผู้ผลิตสินค้า พยายามคิด ทดลอง เสาะหาสูตรเฉพาะซึ่งต้องใช้เวลาถึง 1 ปีเต็มๆ ในการพัฒนาสูตรลูกชิ้นหมูให้ได้รสชาติอย่างในปัจจุบัน ในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจแม้จะยากลำบากมาก แต่ด้วยความได้เปรียบของการเป็นดาราที่ทุกคนรู้จัก จึงทำให้คนกล้ามาทดลองชิม เมื่อชิมแล้วจึงเข้าใจได้ว่า “ลูกชิ้นหมู” เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

         จากวันที่เริ่มต้นขายแฟรนไชส์เมื่อปี 2549 จนถึงปัจจุบัน มีผู้สนซื้อแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก กระจายสาขาทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ทำให้เกิดจุดที่ไม่สามารถควบคุมคุณภาพของแฟรนไชส์ได้อย่างทั่วถึง ทำให้บ้างก็นำลูกชิ้นหมูอื่นมาขายแทรกเพื่อลดต้นทุน บ้างลดสูตรน้ำจิ้มออก การทำแบบนี้นั้นไม่ใช่ความหยั่งยืนทั้งของคนทำและเจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ ซึ่งหากแก้ไขในจุดนี้ได้จะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว

“เตือนสักนิดว่าใครที่ซื้อ “แฟรนไชส์อะไรก็ตาม” หรือแม้แต่การสร้างแบรนด์ของตัวเอง แล้วใช้วิธีลดคุณภาพเพื่อเพิ่มกำไร เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายอย่างช้าๆ แม้จะไม่สนใจชื่อเสียงของแฟรนไชส์ แต่สุดท้ายคุณก็กำลังทำลายตัวเอง และแม้จะไปทำธุรกิจอื่นแต่ยังทำนิสัยเดิมก็จะไม่มีวันหยั่งยืนได้แน่นอน”

แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ

การผลิตที่เน้นความสะอาดและสดใหม่เสมอ

รูปแบบการลงทุนของ แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ

ในเรื่องรูปแบบของการลงทุนใน แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ มีทั้งหมด 2 รูปแบบ แบ่งตามพื้นที่การจัดส่งได้แก่
1. สำหรับผู้ลงทุนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ราคาเริ่มต้นที่ 4280บาท รูปแบบนี้ทาง แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ จัดส่งให้ฟรีโดยมีทีมงานจัดส่งของให้ถึงที่
สิ่งที่จะได้รับสำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล
         1. ป้ายโลโก้ลิขสิทธิ์ แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ มูลค่า 2500บาท
         2. วัตถดิบลูกชิ้นหมู จำนวน 10 กิโลกรัม (5ถุง ถุงละ 2กก.) ราคา 1600บาท
         3. น้ำจิ้มลูกชิ้นหมู จำนวน 3 กิโลกรัม ราคา 180บาท

2. สำหรับผู้ลงทุนที่อยู่ต่างจังหวัด ราคาเริ่มต้นที่ 7490บาท รูปแบบนี้จะเป็นการจัดส่งทางบริษัทขนส่ง
สิ่งที่จะได้รับสำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด
         1. ป้ายโลโก้ลิขสิทธิ์ แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ มูลค่า 2500บาท
         2. วัตถดิบลูกชิ้นหมู จำนวน 26 กิโลกรัม (13ถุง ถุงละ 2กก.) ราคา 3120บาท
         3. น้ำจิ้มลูกชิ้นหมู จำนวน 8 กิโลกรัม ราคา 480บาท
         4. กล่องโฟมสำหรับใช้บรรจุของจัดส่ง 1 กล่อง ราคา 100บาท
         5. ค่าจัดส่งต่างจังหวัด 250บาท

ราคาต่างๆ เหล่านี้ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์อื่นๆ เช่น รถเข็น ไม้เสียบ ฯลฯ ท่านสามารถหาซื้อได้เองตามพื้นที่
ลูกชิ้นสามารถเก็บได้นานเกิน 7 วัน ตามอุณหภูมิที่กำหนด
จำนวนสั่งซื้อลูกชิ้นหมูวัตถุดิบแบบจัดส่งขั้นต่ำอยู่ 10กิโลกรัม

แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ

รูปแบบของแพคลูกชิ้นหมูเรียบร้อยพร้อมจัดส่ง

การคำนวณต้นทุนพื้นฐาน
         =>ต้นทุนลูกชิ้นหมู 1ถุง (2กิโลกรัม) ราคา 320บาท
         =>ลูกชิ้นหมู 1ถุง มีทั้งหมด 240 ลูก
         =>ลูกชิ้นหมูปิ้ง 1ไม้ ใช้ลูกชิ้นหมูจำนวน 4 ลูก
              ดังนั้น ลูกชิ้นหมู 1ถุง จะได้ลูกชิ้นหมูปิ้งประมาณ 60ไม้

         =>จากแพคเกจลูกชิ้นหมู 5ถุง ขายพร้อมน้ำจิ้ม 3กิโลกรัม
         =>และแพคเกจลูกชิ้นหมู 13ถุง ขายพร้อมน้ำจิ้ม 8กิโลกรัม
              ดังนั้นลูกชิ้นหมู 1 ถุง ใช้น้ำจิ้มประมาณ 0.6กิโลกรัม

         =>น้ำจิ้ม 0.6กิโลกรัม ราคา 36บาท (1กิโลกรัม 60บาท)
              ดังนั้นต้นทุนลูกชิ้นหมูและน้ำจิ้ม 1 ถุงจะเท่ากับ 320+36บาท

         =>ราคาขาย 1ไม้เท่ากับ 10บาท
         =>ลูกชิ้นหมู 1ถุงจะได้ยอดขาย 600บาท
              เมื่อหักลบกับต้นทุนที่ 356บาท จะได้กำไร (ก่อนหักต้นทุนอื่นๆ) 244บาท

         =>หากต้องการขายได้ให้กำไร (ก่อนหักต้นทุนอื่นๆ) ต่อวัน 1000 บาท
              จะต้องขายให้ได้ประมาณ 4ถุงเศษ หรือเท่ากับ 240ไม้ต่อวัน

         =>หาก 1 วันใช้เวลาขาย 8 ชั่วโมง (ตามเวลาการทำงานพื้นฐาน)
              จะต้องขายให้ได้ชั่วโมงละ 30ไม้

ดันนั้นแล้ว หากขายได้กำไร(ก่อนหักต้นทุนอื่น) วันละ 1000 บาท จะใช้เวลา 5-8 วัน จะได้เท่ากับที่ลงทุนไปตามแพคเกจ และเมื่อรวมค่าต้นทุนอื่นๆ จะใช้เวลาประมาณ 0.5-1เดือนจะถึงจุดคุ้มทุน (ใช้เวลามากหรือน้อยกว่านี้แปรผันตามยอดขายที่ทำได้)

 





Advertisements

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับ แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

         คุณปู กนกวรรณ, คุณเด๋อ ดอกสะเดา (แฟรนไชส์ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ)
         โทรศัพท์ 081-916-2667, 083-137-0008
         https://www.facebook.com/PooDer2007 (Facebook ปัจจุบัน)

copyright

ผู้สนับสนุน หมวดแฟรนไชส์

bannera1

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.