แฟรนไชส์บ้านไอติมทอด ไอติมทอดขายส่งไกลถึงประเทศเพื่อนบ้าน

Posted on กรกฎาคม 4, 2014 by administrator in แฟรนไชส์ขนม, แฟรนไชส์ไอศครีม // 0 Comments

แฟรนไชส์บ้านไอติมทอด ไอติมทอดขายส่งไกลถึงประเทศเพื่อนบ้าน

ไอติมทอด ของกินที่ทานง่าย อร่อยและเย็นชื่นใจ ช่างเป็นขนมที่เหมาะกับอากาศในเมืองไทยจริงๆ วิธีการทำก็ไม่ยุ่งยาก ใครๆ ก็ทำได้ มีแค่ไอติม ขนมปัง แผ่น กระดาษฟอยด์ห่อให้เป็นรูป หรือไม่กระดาษฟอยด์ก็ดัดแปลงเป็นอย่างอื่นก็ได้ ทำให้เป็นรูปแล้วก็ไปแช่ให้ทั้งไอติมและขนมปังแข็งก็เสร็จแล้ว แต่ยังมีง่ายกว่านั้นก็คือซื้อวัตถุดิบสำเร็จ ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำวัตถุดิบอีก ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้ผลิตไอติมทอดขายส่งอยู่ไม่น้อย และหนึ่งในนั้นก็คือ แฟรนไชส์ไอติมทอด บ้านไอติมทอด รายละเอียดเป็นอย่างไรไปดูกัน

Advertisements

หน้าตาของไอติมทอดของ บ้านไอติมทอด แบบโรยท๊อปปิ้งและไม่โรยท๊อปปิ้ง

แฟรนไชส์ไอติมทอด บ้านไอติมทอด นั้นมีเจ้าของคือคุณนันทิตา นาเคนหรือคุณอั้ม สาวสวยนักธุรกิจคนเก่งเป็นคนบริหารจัดการ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากความที่ชื่นชอบทานไอศกรีมมาก และตั้งใจว่าจะมีธุรกิจร้านไอศกรีมเป็นของตัวเอง และในขณะนั้นเทรนด์ของ ไอติมทอด ที่เริ่มมีในตลาดแต่ยังไม่กระจายแพร่หลายเท่าไรนัก เมื่อมองเห็นถึงโอกาสเติบโตของตลาดไอติมทอด จึงได้เริ่มทดลองและพัฒนาไอติมทอด โดยในช่วงแรกนั้นได้เปิดร้านขายเอง ลองผิดลองถูกอยู่ประมาณเกือบ 1 ปี ก็เริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้น เริ่มมีการถามถึงการเป็นตัวแทนจำหน่าย การขายส่ง จึงเป็นไอเดียให้คุณอั้ม ปรับเปลี่ยนจากผู้ขายปลีกมาเป็นผู้ผลิตเต็มตัวโดยใช้ชื่อว่า บ้านไอติมทอด แฟรนไชส์ไอติมทอด จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน มีคนให้ความสนใจมาเป็นตัวแทนจำหน่าย รับไปขายเพิ่มขึ้นกระจายทั่วประเทศ และยังส่งไกลไปถึงประเทศเพื่อนบ้านบางส่วนอีกด้วย

ไอติมทอดของ บ้านไอติมทอด นั้นเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสมีขนาด 3×3 นิ้ว ขนาดเดียว ตอนนี้มีรสชาติให้เลือกซื้อทั้งหมด 7 รสชาติ

        1. ไอติมทอดรสช็อคโกแลต
        2. ไอติมทอดรสวนิลา
        3. ไอติมทอดรสสตอเบอรี่
        4. ไอติมทอดรสมะนาว
        5. ไอติมทอดรสช็อคโกแลตชิพ
        6. ไอติมทอดรสเรนโบว์
        7. ไอติมทอดรสคุกกี้แอนด์ครีม

ซึ่งแต่ละรสชาติสามารถตกแต่งโรยหน้าด้วยท๊อปปิ้งได้ตามความาต้องการ ผู้ลงทุนสามารถเพิ่มท๊อปปิ้ง ออกแบบ ตกแต่งให้สวยงามหน้าทานหรือเพิ่มเมนูท๊อปปิ้ง เพื่อเพื่อราคาขายได้อีกตามความเหมาะสม โดยไอติมทอดนั้นสามารถเก็บไว้ได้นาน 1 เดือนในอุณหภูมิที่กำหนด

มีท๊อปปิ้งไม่กี่อย่างก็สามารถเปิดร้านได้แล้ว

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของ แฟรนไชส์ไอติมทอด บ้านไอติมทอด นั้นจะมุ่งเน้นไปที่ ครอบครัว วัยรุ่น วัยเรียน นักศึกษา วัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเหมาะสมกับสินค้า มีความต้องการในการทานของหวาน และตัดสินใจง่าย ดังนั้นทำเลที่เหมาะสมก็เป็นแหล่งรวมตัวของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก ศูนย์อาหาร โรงเรียน มหาลัย นอกจากนี้ยังมีตามแหล่งท่องเที่ยว เพราะสินค้าตัดสินใจซื้อง่ายกรอปกับประเทศไทยมีอากาศร้อน ไอติมจึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจอีกตัวเลือกหนึ่ง

แน่นอนว่าทุกอย่างไม่มีข้อดีทั้งหมด หากต้องการเลือกทำเลที่เหมาะสมควรเข้าใจถึงตัวสินค้าและพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในทำเลนั้นๆ เพราะไอติมทอดมีคู่แข่งทางอ้อมจำนวนไม่น้อย มีขนมหวาน ของทานเล่นอื่นๆ อีกหลายอย่าง จึงควรพิจารณาทำเลนั้น และเพิ่มจุดเด่นที่แตกต่าง สร้าง Story ขึ้นมา เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้มากกว่าคนอื่น ซึ่งในจุดนี้ควรปรึกษากับเจ้าของแฟรนไชส์จะเป็นตัวช่วยที่ดีสุด เพราะทราบถึงคาแรคเตอร์ของไอติมทอดเป็นอย่างดี

รูปแบบของเคาน์เตอร์และป้ายตั้งพื้นของแฟรนไชส์บ้านไอติมทอด

รูปแบบการลงทุนกับ แฟรนไชส์ไอติมทอด บ้านไอติมทอด

แฟรนไชส์ไอติมทอด บ้านไอติมทอด เป็นแฟรนไชส์ในรูปแบบขายส่งวัตถุดิบ คือผู้สนใจธุรกิจไอติมทอดสามารถสั่งซื้อวัตถุดิบพร้อมขาย ในราคาสมาชิกแฟรนไชส์ โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าแรกเข้า (ค่าแฟรนไชส์) หรือค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ หรือส่วนแบ่งจากยอดขายโดยใช้ชุดเคาน์เตอร์แบบถอดประกอบได้ ขนาดมาตรฐาน 87×220 ซม. พร้อมป้ายโฆษณาแบบตั้งพื้น 60×150 ซม. หรือไม่ใช่เคาน์เตอร์ บ้านไอติม แต่ไปสร้างแบรนด์ของตัวเองก็ทำได้เช่นกัน

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ เช่น หม้อทอดไฟฟ้าหรือแก๊ส ตะแกรง ที่คีบจับ ถุง หน้าท๊อปปิ้ง ครีมซอส นมหวาน ฯลฯ ผู้ลงทุนสามารถหาซื้อในพื้นที่ได้ตามต้นทุนที่ถูกกว่ากันหรือสะดวกกว่ากัน

มาดูต้นทุนเฉพาะไอติมกัน
ข้อมูลจาก official site bannitim.com

        =>ต้นทุนไอติมทอด ขนาด 3×3 นิ้ว ลูกละ 9 บาท
        =>ต้นทุนถ้วยกระดาษโลโก้บ้านไอติม ถ้วยละ 1 บาท
        ราคาที่ขายสามารถปรับได้ตาม ทำเล หรือ วัตถุดิบที่ใส่เพิ่มเติม ประมาณ 20-30 บาท

(ยังไม่รวมต้นทุนอื่นๆ เช่น ช้อนพลาสติก ท๊อปปิ้งโรยหน้าไอติมทอด(สามารถเพิ่มราคาขาย เพิ่มกำไรได้) ค่าน้ำ ค่าไฟสำหรับตู้แช่หรือค่าน้ำแข็งแห้ง ค่าเช่าพื้นที่(ถ้าไม่มีที่ของตัวเอง) ค่าพนักงาน(ถ้ามี) ค่าไฟฟ้าหรือค่าแก๊สสำหรับทอดไอติม ค่าน้ำมัน ค่าโสหุ้ยอื่นๆ เป็นต้น)