ตลาดน้ำวัดตะเคียน 3 สิ่งที่ต้องทำ กราบหลวงปู่,ลอดโบสถ์เก่า,เดินชิว ช้อป ชิม
ตลาดน้ำวัดตะเคียน 3 สิ่งทีต้องทำให้ได้
“กราบหลวงปู่แย้ม เทพเจ้าแห่ง ตะกรุดคอหมา”
ลอดโบสถ์สะเดาะเคราะห์ “หัวเสือ-ปากมังกร”
“เดินชม ชิม ช้อป ตลาดน้ำวัดตะเคียน“
หลวงปู่แย้มท่านกำลังลงยันต์ให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา…
ตลาดน้ำวัดตะเคียน ตลาดน้ำที่เกิดขึ้นจาก ดำริ ของหลวงปู่แย้ว แห่งวัดตะเคียน ท่านเป็นพระเกจิชื่อดัง เก่งกล้าทางด้านเมตตามหานิยม ผู้คนนับถือท่านเป็นอันมาก ท่านได้ช่วยสงเคราะห์ผู้คนทั้งหลายทั้งทางด้านจิตใจ และทางด้านวัตถุ ซึ่งในการเริ่มโครงการ ตลาดน้ำวัดตะเคียน ก็เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชนบริเวณรอบๆ วัด ฟื้นฟูตลาดน้ำบางคูเวียงแต่เก่าขึ้น ในรูปแบบของตลาดน้ำ ในชื่อใหม่ คือ ตลาดน้ำวัดตะเคียน แต่ยังคงวิถีชีวิตคนริมน้ำ
Advertisements
การซื้อแลกเปลี่ยนสินค้าจำเป็น แบบบ้านๆ แบบเพื่อนบ้าน คนสนิท ใครมีอะไรในสวนเหลือจากการบริโภคแล้วก็นำมาขาย ใครมีฝีมือด้านการทำอาหาร สูตรเด็ดที่ตกทอดกันมา จากรุ่นคุณย่ามาถึงรุ่นคุณหลาน ก็นำมาแสดงฝีมือถ่ายทอดความอร่อยให้นักท่องเที่ยวได้ชิม สร้างมิติใหม่ให้แก่วัดตะเคียนเป็นอันมาก ก็เพราะจากดำริของหลวงปู่แย้มโดยแท้
มาเที่ยว ตลาดน้ำวัดตะเคียน 3 สิ่งทีต้องทำให้ได้ ก็คือ
1.กราบสรีระหลวงปู่แย้ม
หลวงปู่แย้มท่านละสังขาร เมื่อวันวันพุทที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๒๐ น. ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ สิริรวมอายุ ๙๗ ปี สังขารของท่านตั้งอยู่ที่วัดตะเคียนและมีผู้คนไปกราบไหว้ตลอดไม่ขาดสาย ท่านมีดี เป็นที่รู้จาก “ตะกรุดคอหมา” “เสือปืนแตก” “ตะกรุดโทน” และเหรียญรุ่นแรกสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๓ ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากมีเรื่องเล่าประสบการณ์จริงทางด้านมหาอุดและแคล้วคลาดเป็นอย่างมาก ถึงสรรพคุณ
สำหรับเรื่องเล่าที่ตำนานของ “ตะกรุดผูกคอหมา” หรือ “ตะกรุดคอหมา” นั้นก็คือ หลวงปู่แย้มท่านเป็นผู้ที่มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย สมัยก่อนท่านได้เลี้ยงหมาไว้หลายตัว และหมาของท่านส่วนใหญ่จะดุมาก ในบางครั้งหมาของท่านก็ไปทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านใกล้ๆกับวัด ซึ่งชาวบ้านที่ไม่ชอบก็ทำร้ายไล่ตีบ้าง ปาก้อนหินบ้าง บางครั้งรุนแรงจนถึงขั้นยิงด้วยปืนก็มี ใช้มีดดาบไล่ฟันก็มาก ทำให้หมาของท่านได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก เมื่อครั้นจะไปห้ามไม่ให้ชาวบ้านมาทำร้ายหมาก็คงไม่เป็นผลอะไร เพื่อไม่ให้เป็นกรรมเวรต่อกัน หลวงปู่จึงได้ทำเครื่องรางของขลังให้ไว้ติดตัวหมา ท่านกล่าวว่า เมื่อยังทำเครื่องรางให้คนได้ ทำให้หมาบ้างก็น่าจะดีอยู่เหมือนกัน ซึ่งตะกรุดของหมาจะแตกต่างจากของคนแต่จะลงยันต์เหมือนกัน แต่วิธีการลงยันต์อาจแตกต่างกันบ้าง
หลวงปู่แย้มได้ผูกตะกรุดไว้ที่คอหมาทุกตัว มาวันหนึ่งหมาของท่านก็เจอดีเข้าจนได้ ก็ชาวบ้านที่ไม่ค่อยชอบหมาของท่านก็นำปืนมายิงหมา ปรากฏว่า “ปืนแตก” สร้างความตกตะลึงแก่ชาวบ้านคนนั้นมาก และเป็นฮือฮาของชาวบ้านกระจายไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างต้องการตะกรุดของท่านกันมาก มาตลอดทุกวันไม่ขาด จนตะกรุดของท่านหมด บ้างคนถึงขั้นไปแย่งเอาที่คอหมาเลยก็มี ทำให้กิตติศัพท์เรื่องความแคล้วคลาดของหลวงปู่ก็ดังกระฉ่อน จนเป็นที่มาของนามกล่าวขานว่า “ปู่แย้ม ตะกรุดคอหมา”
2.ลอดโบสถ์สะเดาะเคราะห์ “หัวเสือ-ปากมังกร” เสริมสิริมงคลที่วัดตะเคียน
วัดตะเคียนเป็นวัดที่มีความเก่าแก่มาก มีอายุนับกว่าร้อยปี โดยคาดว่าสร้างมาก่อนสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ในสมัยเริ่มแรกที่วัดแห่งนี้ก็มีภิกษุมาจำพรรษาบ้างไม่มีบ้างสลับกันไป อาจพูดได้เป็นวัดร้างก็เกือบว่าได้ จวบจนมาถึงในสมัยของหลวงปู่แย้ม ท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาส จึงได้ลงมือพัฒนาวัดให้มีความเจริญทั้งทางด้านสถานที่และวัตรปฎิบัติของพระในวัด
เมื่อครั้นมาถึงวัดตะเคียนแล้วล่ะก็ สิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกอย่าง ก็คือ “การลอดใต้โบสถ์” ซึ่งเชื่อกันว่าการลอดโบสถ์เสริมสิริมงคล โดยมีความเชื่อแต่โบราณว่าการรอดโบสถ์อันเป็นสถานที่ที่สะอาด บริสุทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธ์ เป็นล้างอาถรรพณ์และสร้างความเป็นมงคลให้แก่ผู้ที่ได้ลอดโบสถ์ อันที่จริงแล้วการรอดโบสถ์เป็นคติความเชื่ออย่างหนึ่งของคนไทยมาตั้งแต่อดีตมาแล้ว
“ปากทางเข้าเป็นหัวเสือ ปากทางออกเป็นหัวมังกร”
วิธีการลอดใต้โบสถ์นั้นก็ทำได้ โดยผู้ที่จะรอดโบสถ์ต้องตั้งจิตให้สงบแล้วอธิษฐาน พร้อมกับสวดมนต์ในขณะเวียนรอดใต้โบสถ์ โดยทั้งหมด 3 รอบ เพื่อสร้างความเป็นมงคลให้แก่ชีวิต
พระอุโบสถหลังเก่า ของวัดตะเคียนนี้มีจุดเด่นอีกอย่างก็คือ ทางเข้าด้านซ้ายมือ บริเวณก่อนทางเข้าปั้นเป็นรูปหัวเสือขนาดใหญ่ และส่วนที่เป็นทางออก ก็จะปั้นเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่ เป็นศิลปะสวยงามมาก โดยสร้างมาจากหลักฮวงจุ้ย ที่ว่า “เข้าทางหัวเสือ คือ เพื่อขจัดความชั่วร้ายทั้งปวงให้ทิ้งไป” “ส่วนทางออกมังกร อันเป็นสัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวจีน เพิ่มพูนมงคลและสิ่งดีงามให้แก่ชีวิต”
โดย “พระอุโบสถหลังเก่า” คาดว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ภายในมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่ คือ หลวงพ่อพุทธโคดม
3.เดินชม ชิม ช้อป ตลาดน้ำวัดตะเคียน
ตลาดน้ำวัดตะเคียน เป็นตลาดน้ำเกิดขึ้นจากแนวคิดของหลวงปู่ ที่ต้องการให้ชาวบ้านบริเวณนี้ ที่สมัยก่อนต้องนำข้าวของออกไปขาย บริเวณปากคลองบางคูเวียง หรือตลาดนัดด้านนอก ซึ่งอยู่ไกลออกไป หลวงปู่ท่านจึงได้จัดสรรบริเวณวัดตะเคียนขึ้นมาให้เป็น ตลาดน้ำวัดตะเคียน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
เรือจอด กล้วยหอมจากสวนมาแล้วจ้า…
ร้านค้าเรือริมน้ำ เรียงราย ชายตะลึง
บรรยากาศอารมณ์ริมน้ำ ตลาดน้ำเดิมๆ ที่่ยังคงความเป็นวิถีชีวิตโบราณ
ผัดกันริมน้ำใหม่ๆ ร้อนทุกจานกันเลย
นั่งชิวๆ โซ้ยเตี๋ยว ได้อารมณ์ อยากไป อยากไป…
Advertisements
ตลาดบกอีกส่วน ของ ตลาดน้ำวัดตะเคียน
ขนมกุยช่าย ใหม่ๆ สดๆ น่ารับประทานมากๆ
ทอดมันจากเรือริมน้ำ น่าชิมมาก…
มะม่วงหาว มะนาวโห่ ผลไม้ในวรรณคดี ที่มีสรรพคุณทางยาวมากมาย
ตำลึงทองจากสวน.. เอาทำแกงจืดหมูสับ อร่อยสุดๆ…
ค่าเช่า ตลาดน้ำวัดตะเคียน
จากการที่ทีมงานเว็บทำเลขายของ.com ได้สอบถามไปกับทางวัด ซึ่งได้มีโอกาสคุยกับหลวงพี่พระไก่ ท่านว่าที่วัดเก็บค่าเช่าแพงมาก เดือนร้อยบาท (ทีมงาน…งงเลยครับ ) อะไรแพงแค่ร้อยเดียว ก็คือ ว่าหลวงพี่ท่านอารมณ์ดีนะครับ อันที่จริงไม่ได้เก็บค่าเช่าเลยครับ จะเก็บก็แค่ขยะ 100 บาท/เดือน เท่านั้นเอง โดยล็อคค้า แผงค้า ส่วนใหญ่จะเต็มหมดแล้ว แต่ถ้าใครอยากขายแนะนำให้ลองไปสอบถามที่วัดดูเอาอีกที่ครับ ลองหาสินค้าที่ไม่ตรงกับที่เขามีขายอยู่แล้ว พยายามหาที่เขายังไม่มีขายในตลาดไปจะดีกว่า แจ้งราคาขายต่อหน่วยไม่แพงมาก ก็น่าจะมีโอกาสได้อยู่นะครับ อันนี้ต้องลองดูอีกที
แผนที่ ตลาดน้ำวัดตะเคียน
[mappress mapid=”102″]
Leave a comment