bannera1
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ธุรกิจมาแรง ข้าวสายพันธุ์ทำเงิน กับรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ธุรกิจมาแรง ข้าวสายพันธุ์ทำเงิน กับรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ( riceberry ) ธุรกิจมาแรง ข้าวสายพันธุ์ทำเงิน กับรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ





Advertisements

    ช่วงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ข้าวไรซ์เบอร์รี่” ข้าวกล้องสายพันธุ์ผสมน้องใหม่ที่กำลังมาแรงสุดๆ แบบฉุดไม่อยู่  จากสายพันธุ์ข้าวธรรมดา สู่การต่อยอดทางธุรกิจ สร้างเม็ดเงิน ให้กับหลายๆคน อยู่ในตอนนี้  ทั้งขายผ่านออนไลน์ ทั้งขายฝาก หรือแม้กระทั้งเปิดบูธตามงานต่างๆ ก็ตาม  
    อะไรที่ทำให้ สินค้าพื้นๆ กับ สร้างคุณค่าและรายได้  คงต้องมาทำความรู้จักกับเจ้า “ข้าวไรซ์เบอร์รี่” ข้าวสายพันธุ์ทำเงิน ก่อนที่จะไปลงมือทำกันจริงๆ

 จุดกำเนิดของ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ( riceberry )
    ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวเมล็ดเรียวยาว สีแดงเข้มจัด  ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างข้าวเจ้า ข้าวขาวและข้าวหอมนิล ถูกคิดค้นขึ้นภายใต้การควบคุมดูแลของศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในช่วงแรกของโครงการนั้นเมล็ดพันธ์ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ได้ถูกแจกจ่ายแก่เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการซึ่งโดยมากเป็นชาวนาที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย

 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ธุรกิจมาแรง ข้าวสายพันธุ์ทำเงิน กับรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ

ประโยชน์ของ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ( riceberry ) (จุดเด่น)
    ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ อาทิ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี แทนนิน สังกะสี และโฟเลตสูง มีดัชนีน้ำตาลต่ำ-ปานกลาง อีกทั้งนำมันรำข้าวที่ได้จากข้าวพันธุ์ผสมชนิดนี้ยังช่วยให้ผู้ที่บริโภคอย่างต่อเนื่องเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาว ป้องกันและช่วยยับยั้งความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง
    รวมไปถึงการนำน้ำมันรำข้าวนี้ไปเป็นส่วนผสมสำคัญของการรักษาโรคแผนแพทย์ทางเลือกอย่างโภชนาการบำบัดอีกด้วย นอกเหนือจากจากนี้แล้วข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ยังมีสารอาหารที่สำคัญอีกมากมาย เช่นโอเมก้าสามซึ่งสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล กรดไขมันที่จำเป็นต่อการพัฒนาของสมองและระบบประสาท
      สำหรับสาวๆที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้เต่งตึงและเปล่งปลั่งอยู่เสมอนั้น ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ยังเป็นตัวช่วยที่สำคัญอีกด้วย เพราะประกอบไปด้วยโปรตีนซึ่งทำหน้าที่ในการช่วยสังเคราะห์คอลลาเจนต่อไป

 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ธุรกิจมาแรง ข้าวสายพันธุ์ทำเงิน กับรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ

สร้างรายได้ สร้างชีวิต สร้างธรรมชาติ ด้วย ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ( riceberry )
    นอกจากจะมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคนานัปการแล้ว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ยังเป็นการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ชั้นเยี่ยมอีกหนทางหนึ่งด้วย ในปัจจุบันเกษตรกรและชาวไร่ ชาวสวนจำนวนมากหันมาปลูกพืชโดยยึดวิถีเกษตรอินทรีย์เป็นหลัก  เพราะนอกจากจะให้ผลผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมอีกด้วย
    การทำการเกษตรอินทรีย์นี้จะไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างหรือปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและไม่มีการใช้สารเคมีสังเคราะห์ในขั้นตอนการปลูก การทำเกษตรอินทรีย์นับเป็นหนึ่งหนทางดีๆที่สามารถคืนสมดุลให้แก่ระบบนิเวศน์อีกด้วย

 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ธุรกิจมาแรง ข้าวสายพันธุ์ทำเงิน กับรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ

จบทุกขั้นตอนเพื่อสร้างเม็ดเงิน กับ ข้าวไรซ์เบอร์รี่
    หากผู้ที่สนใจขาย ข้าวไรซ์เบอร์รี่ คงต้องมีลงมือทำแบบครบวงจรธุรกิจ กล่าวคือ เป็นทั้งชาวนา > เป็นทั้งพ่อค้าซื้อข้าวเปลือก > เป็นทั้งโรงสี > เป็นทั้งพ่อค้าขายข้าวสาร ฟังดูมันชั่งยาก แต่เปล่าเลย…

    อันที่จริง ก็เป็นวิถีชีวิตคนไทย ที่มีมาตั้งแต่อดีตอยู่แล้ว  ก็แค่ ปลูก>เกี่ยว>ตำ>กินได้

    1.ปลูก       หาพันธุ์ข้าวที่ต้องการ ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์
    2.เกี่ยว     เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้
    3.ตำข้าว  ในสมัยก่อนใช้การตำเพื่อกะเทาะข้าวเปลือก ให้ได้ข้าวกล้อง แต่สำหรับสมัยใช้เครื่องสีกันแล้ว ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดเล็กๆ  จนถึงขนาดใหญ่ หากเริ่มต้นใช้เครื่องสีขนาดเล็กก็เพียงพอ  แต่ถ้าใช้การตำข้าว ก็นำมาเป็น จุดขาย ที่โด่ดเด่นกว่าใครได้มากที่เดียว “ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ทุกกระบวนการธรรมชาติ 100%” ถูกใจนักบริโภคกลุ่มเป้าหมายสุดๆ
    4.กินได้    สมัยก่อน พอได้ข้าวกล้องแล้ว ก็นำมากินเลย เหลือก็แบ่งขายบ้าง  
       ในส่วนของเรา ก็ มุ่งเน้นไปทางขายสินค้า ฉะนั้น การบรรจุหีบห่อ แบรนด์สินค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย ก็เป็นกระบวนสุดท้ายที่ต้องเตรียมพร้อมให้ดี





Advertisements

คิดแบบบ้านๆ คำนวนแบบคราวๆ
    ปกติ ข้าวเปลือก 1,000 กิโล จะได้ข้าวสารประมาณ 500 – 600 กิโลกรัม ที่เหลือเป็นเป็แกลบ, รำ , ปลายข้าว แต่สำหรับ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ไม่ต้องขัดขาว ส่วนที่ได้จนเป็นข้าวกล้องล้วนๆ  
    หากข้าวเปลือกไรซ์เบอร์รี่ 1 ตัน มีตุ้นทุนการผลิตตกอยู่ 20,000 บาท/ตัน จะได้ ราคาข้าวสารกล้อง เท่ากับ 20,000บาท/600กิโล = 34 บาท/กิโลกรัม
    หมายเหตุ:ราคาแปรผันตามต้นทุนปัจจัยการผลิต

    เห็นไหมครับ ที่จริงไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก สามารถนำมาประกอบธุรกิจได้ และด้วยคุณสมบัติเด่นและคุณประโยชน์ที่อัดแน่นในทุกๆเมล็ด จึงทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากหันมาสนใจบริโภค ข้าวไรซ์เบอร์รี่ กันอย่างมากมาย  ทำให้เกิดกระแสนิยมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผนวกกับกระแสรักสุขภาพ ทำให้ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ติดตลาดได้ไม่ยากเลย หากแต่อยู่ที่ว่า วิธีการขาย รูปแบบการจัดจำหน่าย จะเป็นอย่างไร การสร้างรายได้จึงอยู่ในเมื่อคุณ

เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย อาซาดะ ริวอิจิ
สนับสนุนเนื้อหาโดย:
ทำเลขายของ.com

copyright

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.