ธุรกิจขายแท็กซี่ป้ายแดง จากเซลล์แมนขายอะไหล่สู่เจ้าของโชว์รูมรถ
ธุรกิจขายแท็กซี่ป้ายแดง จากเซลล์แมนขายอะไหล่รถยนต์สู่เจ้าของโชว์รูมรถ taxi ป้ายแดง
Advertisements
จากจุดเริ่มต้นที่ติดลบ สู่การดิ้นรนเพื่อ ธุรกิจขายแท็กซี่ป้ายแดง
เมื่อครอบครัวเกิดปัญหา ธุรกิจหลักของครอบครัวประสบภาวะล้มละลาย แบกภาระหนี้สินหลายล้าน ทำให้คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 17 ปี ต้องพยายามต่อสู้ โดยได้รับการนำแนะจากญาติไปทำงานเป็นเซลล์ขายอะหลั่ยรถยนต์ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการทำงาน โดยหวังว่าจะทำงานเพื่อปลดหนี้ของพ่อแม่ให้ได้
จากการเป็นเซลล์แมนนี้เอง ทำให้เห็นโอกาสในการทำธุรกิจขายรถแท็กซี่ป้ายแดง เพราะเหตุว่าอะหลั่ยที่ขายนั้น ส่วนใหญ่ก็ขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นรถแท็กซี่ด้วย ซึ่งก็มีเป็นจำนวนมาก และมีสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ถ้าเราขายรถแท็กซี่ป้ายแดงสภาพใหม่ๆ คงขายได้ไม่น้อย..
หาความแตกต่างเพื่อสร้างจุดขายให้กับ ธุรกิจขายแท็กซี่ป้ายแดง
แต่เพียงความใหม่อย่างเดียว คงยากที่จะตีตลาดนี้ “คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล” จึงคิดว่า “แล้วจะทำอย่างไรให้ขายได้” จึงตั้งจุดขายขึ้นมาที่ แบรนด์ KPNMotorCar ต้องทำให้ได้ เพื่อยอดขายที่สูงสุด ก็คือ
1.การตกแต่งรถ :
-ภายนอกตัวรถใช้สีชนิด 2K ที่เป็นสีแบบเดียวกีนกับรถยุโรปเพื่อเพิ่มความสวยกว่ารถคันอื่น
-ภายในบุหนังทุกที่นั่ง ไม่มีวัสดุที่เป็นพรม เพื่อความสะอาดปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ ไม่มีกลิ่มอับให้รำคาญใจลูกค้า และผู้ขับขี่เองด้วย
2.ติดแก๊ส
-ใช้อุปกรณ์ของประเทศอิตาลี 100 %
-พร้อมเข้าเซอร์วิสได้ทั่วประเทศ
3.ติดมิเตอร์
-ใช้มิเตอร์แบบปริ้นใบเสร็จได้ มีระบบสัมผัสดิจิตอล
เทคนิคการขายของ ธุรกิจขายแท็กซี่ป้ายแดง
สำหรับเรื่องการขายนั้น ทาง KPNMotorCar ได้นำเสนอการขายในแบบดาวน์น้อย ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ซึ่งเป็นเงินดาว์น 120,000 (เป็นเงินสด 60,000 บาท รูดบัตร 60,000 บาท) ผ่อนวันละ 600 บาท ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี ซึ่งบัตรเครดิตก็เป็นของเพื่อนหรือคนที่รู้จักก็ได้
ซึ่งนั้นทำให้ง่ายต่อการซื้อ และการตัดสินใจของลูกค้า มีเงินสดเพียงหกหมื่นบาทก็สามารถเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ได้ และผ่อนวันละ 600 บาท เป็นราคาที่พอๆ กับค่าเช่า แล้วจะไปเช่าทำไม สู้ซื้อเลยดีกว่า นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่สร้างลูกค้าได้มาก
กลุ่มเป้าหมายของ ธุรกิจขายแท็กซี่ป้ายแดง
-อู่รถ ซึ่งเฉพาะในเขตกรุงเทพปริมณฑนมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 1,000 อู่
-ปัจจุบันมีจำนวนรถแท็กซี่ประมาณ 100,000 คัน (สัดส่วนเป็นรถอู่ 60,000 คัน ,ส่วนบุคคล 40,000 คัน)
-ในส่วนที่เป็นส่วนบุคคล มีประมาณ 10 %หรือ 10,000 คัน ที่เป็นการขับหลังเลิกงาน
สำหรับกลุ่มลูกค้าของ KPNMotorCar นั้น ในช่วงแรกที่ยังไม่แข่งขันกันรุ่นแรง ก็สามารถขายได้ตั้งแต่ รถระดับ 1.5 ลิตร , 1.6 ลิตร ขึ้นมาเลย แต่ปัจจุบัน เริ่มขายผลิตภัณฑ์ออกไปให้ เป็นรถที่ขนาดใหญ่ขึ้น เช่น คัมรี่, ฟอร์จูนเนอร์ เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้า ที่ต้องการซื้อรถไปขับรับลูกค้าประเภทที่ต้องการนั่งรถระดับ hI-Luxury นั่นเอง
Advertisements
จากจุดเริ่มต้นที่บีบคั้น กับต่อสู้ด้วยความมานะ จุดหมายที่ต้องการใช้ กับการหาความรู้และสะสมประสบการณ์ ประกอบการเรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ทุกวินาทีทุ่มเทกับการทำงาน ผ่านคราบน้ำและรอยยิ้ม จึงไม่แน่แปลกใจที่ “คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล” จะมีวันนี้ “ทุกการทำงานนั้นไม่แบบฉบับตายตัว การเรียนรู้ หาสิ่งถูกผิด เป็นเรื่องที่ต้องพยายาม”
เกร็ดความรู้ธุรกิจขายแท็กซี่ป้ายแดง
-รถแท็กซี่จะหมดอายุ 9 ปี (นับตั้งแต่วันจดทะเบียน)
-รถแท็กซี่ในประเทศไทยมีครั้งแรกใน ปี พ.ศ.2466
-รถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง เป็น รถส่วนบุคคล(บุคคลธรรมดา)
Leave a comment