ธุรกิจร้านอาหาร 14 แห่งทั่วโลก เชฟเอียน เชฟมืองทอง

ธุรกิจร้านอาหาร 14 แห่งทั่วโลก เชฟเอียน เชฟมืองทอง

    “จากความเกลียดสู่ความชอบ จากความลำบากนำมาซึ่งความสำเร็จ”  ชื่อเสียงและความสำเร็จที่ได้มานั้น ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชคโชน กับสมญา “เชฟมือทอง เชฟกะทะ เชฟเอียน”  พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย จากเด็กที่ต้องทำงานช่วยแม่อย่างหนัก ผกผันชีวิตสู่เจ้าของร้านอาหารชื่อดังกว่า 14 สาขาทั่วโลก ที่ได้รับรางวัลการันตีติด 1 ใน 50 อันดับ ร้านอาหารดังทั่วโลก ปี 2005 อะไรที่ทำให้เขามายืน ณ.จุดนี้ได้ ผู้ที่กำลังตามหาฝันเช่นเดียวกับเขาผู้นี้ คงต้องศึกษาให้ดี มาเริ่มต้นหาคำตอบความสำเร็จกันได้เลย…

Advertisements

ความลำบากที่ไม่เคยลืม
    เชฟเอียน หรือ คุณพงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย ปัจจุบันอายุ 47 ปี เกินในครอบครัวร้านขายข้าวแกง ต้องช่วยคุณแม่ตั้งเช้ามืดทุกวัน ตลอด 356 วัน ไม่มีวันหยุดแม้ซักวัน ช่วงนี้เป็นช่วงชีวิตที่เชฟเอียนรู้สึกไม่ชอบอาชีพการทำอาหารเลย ทุกวันเฝ้าคิดแต่ว่าเราต้องดีกว่านี้ แต่ไม่ใช่ด้วยอาชีพเกี่ยวกับอาหารแน่นอน
    พออายุได้ 13 ปี ทางครอบครัวของเชฟเอียน หาเงินกู้ได้ก่อนหนึ่ง เพื่อที่จะส่งเชฟเชิญเอียนไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ  โดยหวังว่าจะได้การศึกษาและภาษาที่ดี เชฟเอียนจึงได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษ กรุงลอนดอน

โอกาสมาต้องคว้าไว้ให้ได้
    เมื่อมาที่ลอนดอน ต้องทำงานพิเศษไปด้วย งานแรกที่ทำ คือ ล้างจาน ซึ่งทำงานในตำแหน่งนี้กว่า 3 เดือน ไม่ได้ฝึกภาษาเลย จึงพยายามก้าวไปเป็นเด็กเสิร์ฟหน้าร้าน ในระหว่างที่เป็นคนเสิร์ฟ ก็ได้ไปช่วยเชฟพอล เชฟใหญ่ทำโน้นทำนี่บ้าง ถือโอกาสฝึกภาษาไปในตัว  
    และแล้ว โอกาสก็มาจนได้  เมื่อผู้ช่วยเชฟขาดงานไม่มาทำงาน เชฟพอล(หัวหน้าเชฟ)จึงให้เชฟเอียน(ขณะนั้นเป็นเด็กเสิร์ฟ)มาช่วยงาน  ซึ่งผู้จัดการมารู้ทีหลัง จึงได้เสนอให้เชฟเอียนไปเรียนการทำอาหารมาก่อน เพื่อมาทำงานในหน้าที่เชฟอย่างจึงจัง

เรียนไม่จบ แต่ยังคงอยู่ในเส้นทาง ธุรกิจร้านอาหาร
    ระหว่างเรียนนี้ เกิดประสบอุบัติเหตุ ทำให้ไม่สามารถเรียนจบได้  จึงได้บินไปประเทศออสเตเรียเพื่อไปช่วยพี่สาวที่ทำร้านอาหารอยู่ที่นั่น ช่วงนี้ได้มีโอกาสฝึกฝนการทำอาหาร และหาความรู้ใหม่ๆ  ออกไปเป็นเชฟตามที่ต่างๆ  จากประเทศออสเตเรีย ไปจนถึงประเทศฝรั่งเศส

กลับเมืองไทยสานฝัน ธุรกิจร้านอาหาร
    หลังจากนั้นได้กลับประเทศไทย มาเป็นเชฟอยู่ที่โรงแรมระดับห้าดาว ในตำแหน่งเดมี่เชฟ ที่มีฐานเงินเดือนแค่ 8,000 บาท เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ค่อยๆ ก้าวหน้าไปที่ละตำแหน่ง ถูกส่งไปแข่งขันรายการ International Cooking Competition สามารถเอาชนะตัวเต็งจากสิงค์โปร ได้ที่ 1 มา เลื่อนตำแหน่งจนมาสู่ตำแหน่ง Executive Chef
    แต่เป้าหมายไม่ใช่ที่สุด  ต้องหาหนทางของตัวเองให้ได้  อิสระของการทำอาหารที่เป็นสไตล์ของตัวเอง บทสรุปจึงไปอยู่ที่ “ต้องเปิดร้านของตัวเอง” ทำกลางเสียงคัดค้านจากทุกคน ว่าตำแหน่งที่ได้รับอยู่นี้ ก็ดีที่สุดแล้ว ไม่น่าต้องดิ้นรนอีก แต่มันไม่ใช่สำหรับชายที่ชื่อ “เชฟเอียน”

ร้านแรกของตัวเอง Kittichai Restaurant
    จากนั้นจึงไปเปิดร้านอาหารที่นิวยอร์ก( New York City) เป็นร้านแรกในชื่อร้าน Kittichai Restaurant ในช่วง 6 เดือนแรก เป็นช่วงที่ทำลำบากมาก ทุกอย่างไม่เป็นตามที่ขาดหวัง ปัญหาสาระพัดเข้ามาตลอด ทั้งเรื่อง คนงานที่มาๆหยุดๆ ทั้งเรื่องของกฎหมายท้องถิ่น ทำให้ท้อมาก จนโทรกลับมาคุยกับคุณแม่  คุณแม่ให้กำลังใจลูกอย่างมาก “ลูกทำได้”
    เชฟเอียนจึงกลับมาสู่ต่อ ตั้งระบบให้ดี เข้าใจกฎหมายให้ชัดเจน แล้วมุ่งไปที่อาหาร ตามความต้องการของคนในท้องถิ่นนั้น นำเสนอในสไตล์ของตนเองที่ต่างออกไป จนทำให้ลูกค้าบอกปากต่อปาก จนทำให้ร้านกิตติชัยก็ได้รับการยกย่องผ่านนิตยสาร Conde’ Nast Traveller ให้เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงนิวยอร์ก ได้รางวัล The Best Asian Restaurant ปี 2005 จนโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นั่นเอง

14 สาขาทั่วโลก ธุรกิจร้านอาหาร ของ  เชฟเอียน
    จากนั้นก็เริ่มพัฒนาก้าวต่อไป จนปัจจุบันมีร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์แตกต่าง ในการนำเสนอประสบการณ์ การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร จนมีกว่า 14 สาขาทั่วโลกดังนี้
1.ในประเทศไทย 7 สาขา
    -ร้าน HYDE&Seek ,Peek-a-Boo  
    -น้ำซ่าส์ บอทเทอลิ่ง ทรัสต์ Namsaah Bottling Trust ซอยสีลม 7
    -ห้องอาหาร smith สุขุมวิท 49
2.ในต่างประเทศ
    -spot dessert bar (นิวยอร์ก ) เป็นร้านขนมหมดเลย
    – มุมไบ อินเดีย โรงแรมอินเตอร์คอน

Advertisements

ซึ่งร้านทั้งหมดนี้ จะมีดีไซน์ที่ต่างกันออกไป ทั้งตัวอาหาร และทั้งตัวร้าน โดยมีจุดสำคัญของธุรกิจอยู่ 3 ประการ คือ
1.ต้องเข้าใจ ภูมิประเทศ วัฒนธรรมประเพณี  เข้าใจความต้องการผู้บริโภคในท้องถิ่นนั้น
2.อาหารที่นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร
3.ทีมงานที่เข้มแข่ง และเป็นหนึ่งเดียว

    สำหรับผู้ที่สนใจทำธุรกิจร้านอาหาร ให้ประสบความสำเร็จแบบเชฟเอียนนั้น สิ่งที่สำคัญในธุรกิจนี้ คือ ควรมีความชัดเจนของอาหาร ว่าจะโชว์อะไรเป็นจุดขาย , ต้องมีระบบที่ดี คือ ต้องศึกษาหาความรู้และวางแผนให้เป็นระบบ , ต้องมีคน คือ มีทีมงานที่รู้จักหน้าที่ของตน พร้อมขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน , ต้องมีความมุมานะ คือ ทำให้มันถึงสุด เมื่อถึงที่สุดแล้ว ก็จงทำต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิม การเปิดร้านอาหารถึงจึงมีโอกาสสำเร็จได้อย่างเชฟเอียน…

เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย อาซาดะ ริวอิจิ
ทำเลขายของ.com