“ Lucky Bunny Café ” คาเฟ่กระต่าย ธุรกิจแนวใหม่ เจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ต
“ Lucky Bunny Café ” คาเฟ่กระต่าย ธุรกิจแนวใหม่ เจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ต
“การแข่งขัน” เป็นสิ่งที่ต้องเจอในการทำธุรกิจ การทำธุรกิจแนวใหม่ จึงเป็นอีกหนทางในการสร้างธุรกิจส่วนตัว เช่นเดียวกับ “ Lucky Bunny Café ” ” คาเฟ่กระต่าย ธุรกิจแนวใหม่ ” ที่เจาะพื้นที่การแข่งขันใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครลงไปยึดพื้นที่ตลาด ด้วยสไตล์และวิธีคิดที่ชาญฉลาด แยบยลในเชิงชั้นธุรกิจ แบบที่ทำให้โด่งดัง ได้อย่างรวดเร็ว
มุมมอง , แนวคิว , จุดตัดสินชี้ชะตา คืออะไร… มาค้นหาคำตอบเชิงกลยุทธ์กันเลย…
Advertisements
เริ่มธุรกิจเพราะเพียงคำพูด…
“ Lucky Bunny Café ” ” คาเฟ่กระต่าย ธุรกิจแนวใหม่ ” ก่อร่างสร้างตัวมาจาก สองคู่ชีวิต “คุณกัลยานี เจียมสินสกุล” และ “คุณศุภโชค อินทรัตนพล”
จากคำพูดเพียงไม่กี่คำจากลูกสาว ที่เธอได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ได้ไปร้านคาเฟ่แมว แล้วรู้สึกประทับใจ กลับมาเล่าเรื่องประสบการณ์ให้ คุณกัลป์ยานี และ คุณศุภโชค ว่าอยากจะทำบ้าง ครอบครัวน่าจะทำบ้างนะ… แต่อยากทำเป็น “คาเฟ่กระต่าย” เพราะทุกคนชอบกระต่าย ถึงแม้ว่ายังไม่รู้จักกระต่ายมากเท่าทีควรก็ตาม…
ก่อนจะมาเป็น “ Lucky Bunny Café ” ” คาเฟ่กระต่าย ธุรกิจแนวใหม่ “
อันที่จริงก่อนที่จะมาทำธุรกิจร้านคาเฟ่กระต่าย ทั้งคู่ก็มีธุรกิจส่วนตัวมาก่อนหน้านี้ คือ โรงงานผลิตเซรามิก และโรงงานเย็บผ้าสำหรับงานส่งออก แต่ประสบปัญหาต้นทุนด้านราคาค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องยุบธุรกิจโรงงานผลิตเซรามิก เหลือเพียงโรงงานเย็บผ้าส่งออกเท่านั้น ทำให้มีเวลามากขึ้น จึงคิดหาธุรกิจมาเสริม “ธุรกิจส่วนตัว” ที่ลงทุนไม่มาก , ทำที่บ้านก็ได้ , และเป็นสิ่งที่ทุกคนในครอบครัวชอบ…
บทสรุปจึงจบอยู่ที่ “คาเฟ่กระต่าย” ร้านกาแฟของคนรักกระต่าย คอนเซปเรื่องต้นในหัว ภาพเล็กๆ ที่จะวาดฝันให้เป็นจริงได้ ซึ่งการทำธุรกิจ ให้ได้ดี ให้อยู่ได้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ การเตรียมการครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้น…
เตรียมตัวก่อนทำ “ Lucky Bunny Café ” ” คาเฟ่กระต่าย ธุรกิจแนวใหม่ “
การจะเปิดร้านคาเฟ่กระต่าย ชักไม่ง่ายอย่างที่คิด การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนลงมือทำเป็นธุรกิจ จึงต้องตระเตรียมให้พร้อม ดังต่อไปนี้
1.สถานที่
เรื่องของสถานที่นั้น ได้ตกลงใจใช้บ้านทำเป็นร้านตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เรื่องที่ต้องจัดการในส่วนนี้ คือ การจัดสรรพื้นที่ , การตกแต่งออกแบบ ทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่ถนัดอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาในการออกแบบ โดยเน้นธีมร้านไปในโทนสี สดใส,ร่าเริง,สบายๆ
2.สินค้าและบริการ
ในเรื่องของสินค้าและบริการได้แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ
การขายเครื่องดื่มและอาหาร
ในช่วงแรกๆ ก็จะมีเพียงแต่เครื่องดื่ม กาแฟ ,น้ำผลไม้ปั่น , ขนมเค้กต่างๆ หลังๆ เริ่มมีอาหารจานเดียวเข้ามาเสริมตามคำเรียกร้องของลูกค้าที่มาใช้บริการ
การขายกระต่ายและบริการต่างที่เกี่ยวกับกระต่าย
เป็นส่วนที่ยาก และต้องลงลึกรายละเอียดมากๆ สิ่งที่กลัวในเบื้อง คือ เรื่องของกลิ่นฉี่กระต่าย ที่เคยได้ยินมาว่ากลิ่นแรงมากๆ แต่ก็โชคดีที่ได้ partner เป็นฟาร์มกระต่าย “Rabbit Instinct จังหวัดเพชรบุรี” ที่มาค่อยสนุบนสนุนทุกเรื่อง เช่น ความรู้ในการเลี้ยง , การดูแลความสะอาด โดยเฉพาะเรื่องของกลิ่นที่กลัวนั้น มีทิคอยู่นิดเดียวเท่านั้น จึงหมดปัญหาไปสำหรับเรื่องกลิ่น , และยังค่อยส่งเจ้ากระต่ายสายพันธุ์ต่างๆ มาให้ขายด้วย
สายพันธุ์ที่ได้นำมาขายมรอยู่ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ Mini Rex, Netherland Dwarf, Holland Lop และ Dutch เริ่มต้นนำมาขายเพียง 10 ตัว ในช่วงแรก และยังได้มีการร่วมมือกับโรงพยาบาลสัตว์ขวัญคำ ที่จะส่งคุณหมอมาตรวจสุขภาพน้องต่ายเป็นประจำ เพื่อคัดกระต่ายที่สุขภาพไม่ดี ไม่ได้เกณฑ์ที่เหมาะสม จะถูกส่งกับไปที่ฟาร์มนั่นเอง
นอกจากการขายกระต่ายแล้ว ยังบริการ อื่นๆที่เกี่ยวกับน้องต่ายอีก คือ
spa Rabbit :
สปากระต่าย ทำเล็บ , ทำผม , อาบน้ำ ,ปะแป้ง แหม.. เหมือนจะทำให้คนเลย ก็คล้ายๆ นะครับ เขามีบริการตัดแต่งเล็บ , ตัดแต่งขน , อาบน้ำทำความสะอาด ดูไปก็คล้ายกับคนเข้าไปทุกที
hotel Rabbit :
มีบริการ รับฝากเลี้ยง พักค้างคืนด้วย แต่สำหรับกระต่าย อาจต้องมีการเลือกน้องต่าย และเจ้าของที่จะมารับบริการด้วย เพราะน้องต่ายนั้น มักเป็นโรคชอบคิดถึงบ้าน คิดถึงเจ้าของ เปลี่ยนที่นอน อาจซึมเซาถึงขั้นเสียชีวิตกันทีเดียว ส่วนนี้จึงต้องคัดสรรกันพิเศษหน่อย
Show the Rabbit
โชว์การแสดงพิเศษ จะมีการแสดงโชว์เล็กๆ น้อยๆ จากน้องกระต่าย ตัวที่ขี้เล่น ซุกซน จะถูกนำมาฝึกให้สามารถพบปะผู้คน อวดฝีมือลายมือ ให้กับลูกค้ากลุ่มรักกระต่าย ซึ่งอยู่ในการควบคุมของคุณศุภโชค
3.ประชาสัมพันธ์
ในเริ่มแรกใช้การเปิด facebook แล้วบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ภายในร้าน ด้วยความแปลกใหม่ ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย ผสมกับความน่ารักของกระต่าย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่หลงรักกระต่าย แต่ยังไม่กล้าเลี้ยง ยังกลัวๆ กล้า ๆ อยู่ เพราะด้วยเหตที่ว่าไม่ที่จะเลี้ยง หรือ เพราะกล้วว่าเลี้ยงแล้วจะทำให้น้องต่ายตายได้นั้น
เมื่อรู้ว่ามีร้านกาแฟที่มีกระต่ายให้ดู ให้จับแบบตัวเป็นๆ จึงทำให้เกิดกระแสการบอกต่อ ในกลุ่มคนรักกระต่าย สามารถมานั่งดื่มกาแฟ , มานั่งทำงาน แล้วมาสัมผัสกระต่ายได้ โดยที่ยังไม่ต้องซื้อเป็นเจ้าของก็ได้ กลายเป็นผลตอบรับที่ดีเกินความคาดหมายของเจ้าของเลยทีเดียว
Niche Market สูตรสำเร็จ “ Lucky Bunny Café ” ” คาเฟ่กระต่าย ธุรกิจแนวใหม่ “
ธุรกิจ “ Lucky Bunny Café ” เป็นธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบจับกลุ่มเฉพาะเจาะจง บวกกับการขายรสสัมผัสความสุข ประสบการณ์ก่อนซื้อ กล่าวคือ Lucky Bunny ได้ขายความน่ารักของน้องกระต่าย แบบให้คนที่ชอบในสิ่งเดียวกัน มาจับต้อง มาเรียนรู้การเลี้ยง สร้างความคุ้นเคยกับน้องต่ายกันก่อน ลดความกลัวของผู้ที่ยังลังเลอยู่ เมื่อกลุ่มลูกค้ามีจำนวนมาก การใช้เวลาในสิ่งที่ตนรักก็มีมากขึ้น สินค้าอื่นๆ ก็ขายได้ด้วย กาแฟ อาหาร ขนม เครื่องดื่ม เป็นสินค้าที่ขายได้ในช่วงเวลานี้
การจับกลุ่มเล็กๆ บุคคลที่ชอบกระต่าย แล้วขยี้แบบเน้นๆ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกระต่าย ความรู้ในการเลี้ยง สิ่งของที่เกี่ยวกับกระต่าย จึงเป็นจุดที่สร้างฐานลูกค้าได้อย่างมากมายนั่นเอง
“ความมืดอาจทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย แต่สิ่งได้มา คือ ความสงบ”
“การรบ หากไม่อาจเอาชนะในสนามรบที่ใหญ่ได้ ก็จงเลือกสนามรบที่เล็กๆ เพื่อกำชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน”
ไม่ต่างจากธุรกิจ “ Lucky Bunny Café ” ” คาเฟ่กระต่าย ธุรกิจแนวใหม่ ” ที่เจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ต สร้างสรรค์ทุกกิจกรรมให้เกี่ยงเื่องกับลูกค้า แล้วนำพาเรือธุรกิจลำนี้ให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ถือเป็นอีกวิธีการทำธุรกิจที่น่าประทับใจมาก
Advertisements
สำหรับ เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาธุรกิจ แล้วมองหาธุรกิจที่ต้องเติบโตให้ยิ่งใหญ่ให้ได้ อาจรู้สึกว่ามันยากมาก ที่จะมองหาให้เจอ ก็ลองมองหาในสิ่งที่เล็กๆ ดูบ้าง ตลาดกลุ่มที่เล็กลงมาหน่อย แล้วค่อยๆ ขยายฐานความต้องการให้ใหญ่ขึ้น โอกาสประสบความสำเร็จก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน…
เขียนโดย เชื่องช้าแต่หนักแน่น
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
ข้อมูลธุรกิจ
Lucky Bunny Cafe’ Restaurant
โทร.085-195-5465
FB:Lucky Bunny Cafe’ Restaurant
Leave a comment