bannera1

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊ง.. ไม่เป็นท่า…

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊งไม่เป็นท่า…

    เมื่อหาทุกหนทางแล้วก็ยังไม่รวยซะที….  
    มิหนำซ้ำยัง…  เจ๊งไม่เป็นท่าอีก…  
    ความรู้ทางธุรกิจก็อ่านแล้วอ่านอีก…  ก็ไม่นำพาเอาเสียเลย…

    วันนี้  “ผู้เขียน” จึงจะขอนำเสนอศาสตร์อีกแขนง  ศาสตร์ของการดู “ลายมือ” ที่เขาว่ากันว่า เป็นหลักของการเก็บ “สถิติ” มาเป็นหลายร้อยปี แล้วนำมาทำนาย  “อนาคตความเป็นไปของแต่ละบุคคล” มาเป็นตัวช่วยในการประกอบธุรกิจ  ว่าจะทำธุรกิจไปแล้ว  “รุ่ง หรือ ร่วง” , “จะ รวย หรือ เจ๊ง”  กันแน่…
    งั้นเราไปเริ่มกันเลยครับ…





Advertisements

1.ยอดศิลปินตลก
    สำหรับ ชื่อ ขออนุญาตละไว้น่ะครับ  เพราะถือว่าเป็นครู ทางด้านบันเทิง และที่เรากำลังจะเรียนรู้จากลายมือของท่าน ก็ถือว่าเป็นครูทางด้านลายมือเช่นกัน  
สำหรับ ศิลปินท่านนี้  ต้องต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆ  ปากกันตีนถีบ หาเลี้ยงครอบครัวและน้องๆ  จนโชคเข้าข้าง “ดังเป็นพุ่งแตก”  จากกการจับกลุ่มกับตลกอีก 2 ท่าน  จนเป็นคณะที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักเมื่อซัก 30 ปีก่อน เป็นอย่างดี…

“เมื่อมีชื่อเสียง เงินทองก็หลั่งไหล”
“การอยากให้มีเงินงอกเงย  ก็เป็นธรรมดาของทุกคน”

    เช่นเดียวกับ “ป๋า” ที่ต้องการลงทุน “ทำธุรกิจ” ซึ่งก็ทำมาหลายธุรกิจแล้ว  ทั้ง สร้างอาคารพาณิชย์ขาย , สร้างหนัง , ขายข้าวกล้อง , ก็ล้วนแล้วแต่  “เจ๊งไม่เป็นท่า…” เมื่อใดที่ต้องนั่งแท่นเป็นเจ้าของธุรกิจเอง  ก็จะมีข่าวว่า  “ได้ปิดกิจการแล้ว” ในเวลาต่อมาไม่นาน…  เส้นลายมือแบบไหน ที่ชี้ว่า “เจ๊งไม่เป็นท่า..” กันแน่ ไปเริ่มดูกันเลย…

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊งไม่เป็นท่า...
ขาดช่วงตรงกลาง…

     เส้นลายมือที่สำคัญ ในมือของศิลปินท่านนี้ คือ เส้นตรงที่ลากจากโคนมือด้านล่าง  วิ่งตรงไปยังเนินใต้นิ้วกลาง (เส้นวาสนา) เป็นเส้นที่ใช้ดูในเรื่องของการทำมาหากินนั่นเอง  เป็นเส้นตรงใช้ได้ ยาวตลอดถึงเนินบน แต่เส้นมีลักษณะบางเกินไป  อีกทั้งยังจางหายตรงกลางเส้น  เปรียบเสมือนการทำธุรกิจไม่ต่อเนื่อง มีอุปสรรคต่างๆ  ในช่วงระหว่างการทำธุรกิจ ในลายมือลักษณะนี้  ไม่ว่าจะลงทุนอะไร โอกาสจะประสบความสำเร็จเป็นไปได้ยากมาก

    แต่ยังถือว่าโชคยังดี  ที่เส้นไม่ได้ขาดหายไปเลย  ไม่เช่นนั้นจะหนักกว่านี้  เงินที่ลงทุนไปจะไม่มีเหลืออะไรเลย..  ปัจจุบัน ท่านได้ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด เลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ ไปตามประสา… เห็นหมาโดนรถชนเป็นไม่ได้ ต้องเก็บกลับมาเลี้ยง ถือเป็นบุญในการช่วยเหลือเพื่อนรวมโลก  ก็น่าจะเป็นตัวเกื้อนุนให้ชีวิตได้ดำเนินต่อไป…

2. เจ๊ง เพราะ คู่ครอง
    สำหรับ “ลายมือ” ต่อมา เป็นลายมือของนักธุรกิจสาวใหญ่ท่านหนึ่ง ที่ประกอบธุรกิจใหญ่โต ในหัวเมืองต่างจังหวัด  ซึ่งประกอบธุรกิจกับสามี  โดยแยกกันบริหาร บริษัทใคร บริษัทมัน ต่างคนต่างบริหารกันเอง  ในช่วงแรกผลกำไรของทั้งสองบริษัทถือว่าดีทั้งคู่

    แต่ต่อมาไม่กี่เดือน บริษัทของสามี กับเริ่มขาดทุน ต้องนำเงินจากบริษัทของนักธุรกิจสาวท่านนี้  มาโป๊ะอยู่ตลอดเวลา  ไม่นาน บริษัทของนักธุรกิจสาวท่านนี้ ก็เริ่มขาดทุนไปด้วย เข้าขั้นวิกิต..ถึงขั้นล้มละลาย  ต้องหย่ากับสามี จากเศรษฐีนีกลายเป็นยาจกในชั่วพริบตา  เส้นลายมือแบบไหนที่ทำกับเธอได้ ถึงขนาดนี้…  ไปเริ่มพิจารณากันเลย…

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊งไม่เป็นท่า...
สามเส้นตัด.. พึงระวัง…

เส้นลายมือที่ทำให้ “หายนะ” มาเยือนหญิงสาวท่านนี้ มีทั้งหมด 4 เส้น คือ
     2.1 เส้นวาสนา : เริ่มเป็นเกาะยาวตลอดเกือบทั้งเส้น  เป็นลักษณะหนึ่ง ที่ทำลายเส้นวาสนา(เส้นทำมาหากิน) ยิ่งเป็นเกาะใหญ่เท่าไร  ยิ่งเจ๊งเป็นเท่าทวีคูณ..
     2.2 เส้นฆาตเรื่องคดีความ :  เป็นเส้นเริ่มจาก “เนินใกล้นิ้วโป้ง”  วิ่งตรงไปยัง “เนินใต้นิ้วกลาง” เป็นเส้นที่บ่งชี้ถึงเรื่องการถูกฟ้องร้อง
     2.3 เส้นฆาตเรื่องชื่อเสียง : เป็นเส้นเริ่มจาก “เนินใกล้นิ้วโป้ง”  วิ่งตรงไปยัง “เนินใต้นิ้วนาง” เป็นเส้นเสียที่วิ่งเข้าไปทำลาย เนินใต้นิ้วนาง หรือ เนินอาทิตย์  บ่งบอกการเสียหายที่มาจากคู่ครอง การค้าที่ล้มเหลวจากสามี  จนไม่อาจเข้าสังคมได้อีกต่อไป
     2.4 เส้นฆาตเรื่องเลิกร้างกับคู่ครอง : เป็นเส้นเริ่มจาก “เนินใกล้นิ้วโป้ง”  วิ่งตรงไปชน “เส้นหัวใจ ที่เนินใต้นิ้วก้อย” เป็นเส้นที่บ่งชี้ว่า “ต้องถึงขั้นเลิกร้างกับสามี”

3.เจ๊ง เพราะ เปิดร้านเพชร
    เป็นถึงข้าราชการมาหลายปี  แต่กลับเลือก “early retire” เพื่อจะมาประกอบกิจการเป็นของตัวเอง เพื่อหวังรวยกับเขาบ้าง  นำเงินเก็บ , ทรัพย์มรดกของพ่อแม่ (ที่ดิน), เงินจากการเกษียนก่อนเวลา  เพื่อจะมาลงทุนเปิดร้านเพชร  ด้วยที่ว่า “เพชร” เป็นสินทรัพย์ที่ไม่เสื่อม และราคาไม่ตกด้วย  จึงเป็นสิ่งเย้ายวนใจ  ที่ทำให้ข้าราชการท่านนี้  มาเปิดร้านขายเพชรในครั้งนี้

     แต่เมื่อพอเวลาเปิดร้านจริงๆ แล้ว  “สิ่งคาด กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง” ปัญหาอุปสรรคตามมามากมาย  เจอปัญหาเพชรปลอม , ปัญหาด้านยักยอกจากคนใน , ผนวกกับเริ่มเข้ายุควิกิตของเศรษฐกิจ ปี 40 ผู้คนใช้เงินด้วยความระมัดระวัง  “เพชร จึงเป็นสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อในขณะนั้น”  ทุกปัญหาต่างรุมเร้า สุดท้ายจึงต้องปิดกิจการไปในที่สุด

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊งไม่เป็นท่า...
เกาะต้นเส้น..

     เส้นลายมือ ที่เป็นจุดทำลายชีวิตของ “ข้าราชกาลท่านนี้”  คือ เส้นวาสนาที่เป็นเกาะ ช่วงต้นนั้นเอง  เส้นที่ลากยาวจากต้นข้อมือจนถึง ใต้เนินเสาร์ แสดงให้เห็นว่า ในการทำงานประจำจะทำไปได้เลยๆ  แต่เมื่อใดที่คิดจะเริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจของตัวเอง  “เกาะ” ที่ต้นเส้นวาสนาจะทำหน้าที่ของมัน  เป็นเหตุให้ใครต่อใครหลายคน “เจ๊งไม่เป็นท่ามามากต่อมากแล้ว”

4.เจ๊ง เพราะ เพลิง..
การทำธุรกิจจนใหญ่โต… ไม่ใช่เรื่องง่าย…
ต้องใช้เวลา..  สะสมประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาอย่างโชคโชน…

     สำหรับ “นักธุรกิจใหญ่ท่านนี้” เป็นเจ้าของโรงงานเสื้อผ้าส่งออก ในลักษณะรับจ้างผลิต พึ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัว จนเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง  ด้วยความรู้แค่ ป.4  แต่อาศัยการเรียนรู้และความพยายาม  ก้าวไปที่ละขั้น
     แต่มนุษย์หนอ… มนุษย์..  ชะตาชีวิตเหมือนเล่นตลก  โรงงานเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่  เผาพลาญวอดวายทุกอย่างสูญสิ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง  ด้วยเสื้อเป็นเชื้อไฟอย่างดี จึงทำให้ไม่มีอะไรเหลือ  ประกันอัคคีภัยที่ทำไว้ก็ขาดอายุ และยังคงไม่ไปต่อ เพราะหวังยืดเวลาค่าใช้จ่ายไปอีกซะหน่อย  คงไม่เป็นไร  เพราะโรงงานเราระมัดระวังอย่างดี  
“แต่ความประมาท เป็นเหตุแห่งหายนะ” จุดจบจึงต้องมาแพ้ไฟ
โชคยังดีที่ยังเหลือ “ที่ดิน” กับ เงินสด ไว้บ้าง ที่สำคัญยังมีลูกค้า และพนักงาน โอกาสกลับมาใหม่ก็ยังเป็นไปได้…

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊งไม่เป็นท่า...

สำหรับ เส้นลายมือที่ทำลาย นักธุรกิจท่านนี้ มีอยู่ 2 จุด คือ

มือซ้าย : เส้นวาสนาเป็นเกาะที่ต้นเส้น  เป็นลักษณะการแจ้งเหตุเสียหาย หนึ่งในนั้นอาจเป็นเรื่องไฟไหม้  โดยจากการที่มีคนเคยเก็บสถิติ ลายมือของคนที่บ้านถูกไฟไหม้  จะมีรูปเกาะเล็กๆ  ที่ต้นเส้นวาสนาเป็นส่วนใญ่ ความรุนแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาด

มือขวา : ที่เนินใต้นิ้วกลาง มีกากบาทใหญ่ที่กลางเนิน  เป็นเครื่องที่บ่งบอกรวมกับลายมือในมือขซ้ายว่า  จะต้องเสียหายอย่างหนัก  เพราะเนินใต้นิ้วกลาง เป็นเนินแห่งทรัพย์  เหมือนหีบเก็บเงินของบุคคลนั้นๆ  ใครที่มีกากบาทอยู่เนินนี้ต้องระวังให้ดี  ห้ามลงทุนใดๆ เด็ดขาด

5.เจ๊ง เพราะ หุ้น
การเล่นหุ้น เขาว่า… กันว่า.. เป็นการลงทุนอีกแบบเหมือนกัน  
มีทั้งคนที่รวย..  จากเล่นหุ้นไปก็มาก.. 
มีทั้งคนที่เจ๊งไม่เป็นท่า…   ก็มาก..  

    สำหรับนักลงทุนท่านนี้  ทำธุรกิจจนรวยอยู่ในระดับร้อยล้านก็ว่าได้ แต่ด้วยเห็นเขาบอกกันว่าถ้ามีเงิน  ต้องนำเงินไปลงทุนให้งอกเงยมากขึ้น  อย่างการ “เล่นหุ้น” ซึ่งช่วงเวลานั้นมีแต่คนรวยจากตลาดหุ้นมากมาย

     อันที่จริงมันเป็นขาขึ้นของตลาดหุ้นเสียมากว่า  ไม่ว่าจะซื้อตัวไหนก็มีกำไร มากน้อยก็แล้วแต่ตัวที่เลือกเล่น  ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีความรู้อย่างลึกซึ้งในหุ้นเลย  อาศัย “มาร์เก็ตติ้ง” ช่วยซื้อให้  ตัวไหนดีก็บอกให้ซื้อไว้ได้กำไรแน่ (ก็ใช่ซิ.. ไม่ว่าจะซื้อ.. หรือขาย.. มาร์เก็ตติ้งก็ได้คอมทุกเม็ด)
    เช่นเดียวกับนักลงทุนรายนี้  ที่นำเงินจากการค้า  ไปลงทุนในตลาดหุ้น  แบบทีละเล็กทีละน้อย  แรกๆ ก็มีกำไร..  ก็เริ่มลงเงินให้มากขึ้นกว่าเดิม..  
“ยิ่งลงเงิน… ยิ่งมีกำไร”  
“แต่โชคชะตา หรือจะเท่าฟ้าลิขิต”
    ธุรกิจเข้าสู่ยุคฟองสบู่แตก  ธุรกิจล้มระเนระนาด  ทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ขาดทุนกันทั่วหน้า  ทุกคนกันต่างพากันเทขายหุ้นกันอย่างเจ้าระหวั่น  ทำให้นักลงทุนขาดทุนอย่างยับเยิน เช่นเดียวกันกับนักธุรกิจท่านนี้

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊งไม่เป็นท่า...
สามเกาะสุดมหาประลัย…

เส้นลายมือของนักธุรกิจท่านนี้ จะแปลกนิดหน่อย คือ
จะมีเส้นวาสนาที่โคดไปโคดมา บอกถึงการลงทุนที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ราบเรียบเหมือนเส้นตรง
และเริ่มมีรูปเกาะขึ้น ตามกาลเวลา ถึง 3 เกาะ  โดย เส้นของรูปเกาะจะค่อยๆ ปิดตัวโดยสมบูรณ์ เมื่อเจ๊งอย่างที่สุด กล่าวคือ
    เกาะที่ 1 อยู่ที่ต้นเส้นวาสนาเหมือนสัญญาณเตือนครั้งแรก  การลงทุนครั้งนี้ อาจไม่เป็นอย่างที่คิด
    เกาะที่ 2 อยู่ที่กลางเส้นวาสนา เปรียบเหมือน การลงทุนเริ่มจะมีปัญหา  ผลกำไรที่ได้ไม่เป็นไปตามหวัง
    เกาะที่ 3 อยู่ที่ปลายเส้นวาสนา บนเนินให้นิ้วกลางพอดี  เป็นสัญญาณสุดท้าย ของการ “เจ๋ง” ในครั้งนี้นั่นเอง
ซึ่งในแต่และรูปเกาะจะค่อยๆ แสดงตัวอย่างชัดเจน และปิดเป็นรูปเกาะ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน  หากใครที่รูปเกาะนี้ต้องระวังให้ดี

6.เจ๊ง เพราะ ถูกโกง
    สำหรับ เศรษฐีท่านนี้  เป็นถึงเจ้าของธุรกิจส่งออกรายใหญ่  ที่รวมหุ้นกับเพื่อนสนิท รู้จักกันมาน ซึ่งช่วงแรกๆ  การทำงานเป็นไปได้ด้วยดี  กิจการไปได้สวย…  บริษัทเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง…

    “แต่อย่างที่เขาว่าครับ..  เงินไม่เข้าใครออกใคร…”

    เพื่อนตัวดี  มีช่องทางทำมาหากินที่ใหญ่กว่า..  จึงวางแผนไปเปิดบริษัทใหม่  แต่ก่อนไปก็วางยาไว้อย่างเรียบร้อย  ผันเงินจากบริษัท  ด้วยการจัดซื้อวัตถุดิบจากบริษัทที่ตัวเองจัดตั้งขึ้นมาเอง  กินกำไรส่วนต่างอย่างต่อเนื่อง  แถมยังส่งวัตถุดิบเข้าสต๊อกไม่เต็มจำนวน และไม่ได้คุณภาพอีกต่างหาก ได้เม็ดเงินไปเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายทิ้งไว้มากมาย  แถมเอารายชื่อลูกค้าไปด้วย กลายคู่แข่งกันอีกต่างหาก “มันน่าเจ็บใจสุดๆ…”

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊งไม่เป็นท่า...
หอกข้างแคร่ที่จ้องทำลาย…

สำหรับเส้นลายมือที่บ่งบอกถึงการถูกโกง คือ
รูปเกาะขนาดใหญ่ที่มีหาง  เป็นรูปเกาะคล้ายเม็ดข้าวสารที่ปลายแหลม ที่มีจุดเริ่มต้นมาจาก  “เนินอังคารใน” หรือ “เนินใกล้นิ้วโป้ง”  เป็นจุดบ่งบอกว่าจะต้องทำให้ถูกเสียหายจากคนใกล้ชิด ญาติพี่น้อง หรือ เพื่อนฝูง

เกาะที่กลางเส้นวาสนา ปลายแหลมของเกาะยังวิ่งไปทำลายเส้นทำมาหากิน(เส้นวาสนา)  จนทำให้เป็นเกาะที่เส้นวาสนาอีกด้วย บ่งบอกว่าจะต้อง “เสียเงินเสียทรัพย์” ไม่ใช่น้อย  จะเสียมากเสียน้อยก็ขึ้นอยู่ทกับขนาดของเกาะนั่นเอง

7.เจ๊ง เพราะ “ภัยธรรมชาติ”
“การทำธุรกิจอย่างเต็มที เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำอยู่แล้ว…”
“แต่สิ่งที่มันอยู่นอกเหนือการควบคุมนี้  มันสุดที่จะหยั่งรู้”

    เช่นเดียว กับ ภัยธรรมชาติ  เช่นเมื่อครั้ง “ซึนามิ” ในไทย  ทำเอานักธุรกิจหลายๆ ท่านต้องหมดสินเนื้อประดาตัว  ยังกับนักธุรกิจท่านหนึ่ง  ที่ปั้นปลายชีวิต คิดจะไปลงหลักปักฐานทำธุรกิจรีสอร์ทเล็กๆ กับเขาบ้าง   ใช้เงินลงทุนที่เก็บมาทั้งชีวิต หมดไปกับการซื้อที่ดิน และก่อสร้างรีสอร์ท  

     เตรียมพร้อมเปิดรับช่วงเทศกาลวันปีใหม่  เปิดให้บริการใน วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ “ซึนามิ” เข้าไทยเวลา 07:58 น.  ทุกอย่างราบเป็นหน้ากอง ความสูญเสียแผไปทุกย่อมหญ้า  เสียงร้องไห้.. ดังไปทุกที..  เช่นเดียวกันกับ “นักธุรกิจท่านนี้”  ที่สูญเสียทรัพย์สิน และพนักงานไปหลายชีวิต  แต่ก็ถือว่าโชคยังดี  ที่เหลือชีวิตให้มาต่อสู่ต่อไป… แต่คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องช่วยปลอบประโลมจิตใจซักพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว…

7 ลายมือ “ทำธุรกิจ” เจ๊งไม่เป็นท่า...
กากบาท กับ เส้นตัดขวาง ต้องระวัง

เส้นลายมือที่ทำลายธุรกิจของนักลงทุนท่านนี้ คือ
    7.1 กากบาทที่เนินเสาร์ (มือขวา) เป็นเครื่องบอกถึงความเสียหายอย่างรุนแรง และฉับพลัน เมื่อไปอยู่เนินใต้นิ้วกลาง  ซึ่งเป็นเนินเรื่องของทรัพย์สิน ก็จะหมายความว่า ต้องเสียเงินทองอย่างไม่คาดคิด  ยิ่งถ้ารูปกากบาทใหญ่  ความเสียหายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

    7.2 เส้นตัดขวางการเส้นเสาร์ (มือซ้าย) เป็นเส้นที่บอกถึงอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในการทำธุรกิจ  ในกรณีนี้ได้มาตัดจนเส้นเสาร์ขาดหายไป  แสดงว่าธุรกิจต้องประสบปัญหาจนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้  จะรุนแรงแค่ไหนก็อยู่ที่เส้นที่มาตัด ว่าสั้น-ยาวแค่ไหนนั้นเอง…





Advertisements

    ทั้งหมดที่อ่านมานี้ เป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลและนำมาวิเคราะห์ของผู้เขียนเท่านั้นน่ะครับ  ผู้เขียนไม่ได้เป็น “หมอดง-หมอดู” อะไรกับเขาหรอกครับ เพียงแต่เห็นว่า “มีประโยชน์” อยู่เหมือนกัน..  หากเพื่อนคนไหนสนใจ…  ก็ลองจดจำเครื่องหมายต่างๆ  ข้างต้น  ไว้พิจารณาประกอบการลงทุนดูครับ…  น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ…

    ขอเพิ่มเติมอีกนิดครับ..  สำหรับเพื่อนคนไหน..  ที่เกิดมีลายไปตรงกับที่กล่าวมาข้างต้น..  แล้วรู้สึกว่าทำธุรกิจอะไร… ก็ไม่ค่อยจะสำเร็จ  ผู้เขียนแนะนำให้ไปอ่านเรื่อง “เคล็ดลับเศรษฐี” จะมีวิธีที่ช่วยได้  (ซึ่งผู้เขียนได้ทดลองทำมาแล้ว ได้ผลดีทีเดียวเลยครับ)

    สุดท้ายที่นี้ ประโยชน์ใดใดที่เกิดกับผู้อ่าน  ข้าพเจ้าขอยกคุณงามความดีให้กับ ท่านอาจารย์ทั้งหลาย , ลายมือครู , บิดา-มารดา , และเพื่อนสมาชิกเว็บ ทำเลขายของ.com ทุกท่าน จงประสบแต่ความสุข และ ความสำเร็จ  จะทำกิจการงานใด  ขอให้จงสำเร็จ… จงสำเร็จ… จงสำเร็จ…  ทุกประการเทอญ…

เขียนโดย เชื่องช้าแต่หนักแน่น
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com

copyright

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.