ธุรกิจไม่ติดกรอบ “Gyudon expres” ขุนกลาง นักสู้คุณธรรม
ธุรกิจไม่ติดกรอบ “Gyudon expres”
Gyudon express เป็นธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นที่ถูกสร้างขึ้นมาจากคำว่า “ทำไม ทำไม และทำไม” ของ ขุน – ขุนกลาง ขุขันธิน ผู้ประกอบการวัย 30 แห่งบริษัท “เฟลเวอริช (Flavourich) ที่กล้าฉีกกฎในการทำธุรกิจในเกิดความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่างสิ้นเชิง เพียงเพราะคำถามที่ต้องการคำตอบจึงทำให้ขุนกลางเดินทางออกตามหาคำตอบ กระทั่งกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เท่าทุกวันนี้
Advertisements
ทำไมต้องเรียนมหาวิทยาลัย
อันที่จริงแล้ว ขุนกลาง ได้เลือกเส้นทางชีวิตในวัยเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น ในขณะที่เด็กในวัยเดียวกันกำลังเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย แต่เขากลับลาออก ณ เวลานั้นเขาตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า ทำไมต้องเรียนมหาวิทยาลัย? ในเมื่อเขาศึกษาหาความรู้ตลอดเวลาอยู่แล้ว อีกทั้งการเรียนในมหาวิทยาลัยไม่ได้ตอบโจทย์ในสิ่งที่เขาต้องการ เขาจึงเลือกที่จะก้าวออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัยอย่างไม่ลังเล แล้วลงมือทำอะไรสักอย่างที่ตอบโจทย์ชีวิต โดยมีอุดมการณ์เป็นตัวขับเคลื่อน
บนโลกนี้มีคนรวยล้นฟ้า แต่ทำไมยังมีคนอดตาย?
ถ้าพูดถึงเรื่องการทำธุรกิจ การเงิน เศรษฐศาสตร์ อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นเรื่องน่าปวดหัว ขุนกลางในวัยเด็กไม่ชอบทั้งนั้น เขามองว่าโลกใบนี้มีคนรวยล้นฟ้ามากมาย ที่กินอาหารแบบกินทิ้งหินขว้าง แต่ทำไมบนโลกใบเดียวกัน กลับมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อดตายเป็นเบือ ทำไมไม่ยุติธรรม? นั่นจึงเป็นที่มาของแนวคิดการทำธุรกิจที่ตอบแทนสังคม มันไม่แฟร์เลยถ้านักธุรกิจจะประสบความสำเร็จอยู่ฝ่ายเดียว แต่เขาไม่สามารถช่วยโลกใบนี้ได้
เขาเคยสมมุติตัวเองว่า ถ้าเกิดเขาตื่นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วพบว่าตัวเองเป็นนายก เขาก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้มากไปกว่านี้ เพราะยังไงก็ต้องพึ่งระบบทุนนิยมอยู่ดี เมื่อคิดได้เช่นนั้นในฐานะที่เป็นคนธรรมดาๆ รากหญ้าคนหนึ่ง ทำไมเขาไม่เปลี่ยนแปลงช่วยเหลือสังคมด้วยสองมือของเขาเองเสียเลยล่ะ
เมื่อระบบทุนนิยมมีอิทธิพลต่อสังคม ถ้าอย่างนั้นเขาก็โดดลงไปในสังเวียนทุนนิยมมันเสียเลย อยากจะช่วยโลกก็ต้องเอาให้มันถึงที่สุด แต่การทำธุรกิจของเขานั้น ไม่ใช่มีแต่คำว่า เงิน ทอง ผลกำไร แต่ต้องมี “ศีล” เป็นเข็มทิศชีวิตเท่านั้น
ทำไมเพิ่งหันมาทำ CSR
ในยุคปัจจุบันหลายๆ องค์กรหันมาให้ความสนใจกับแต่การรับผิดชอบสังคมมาก หรือที่เราคุ้นเคยกันดีกับคำว่า CSR แต่สำหรับขุนกลางแล้ว เขามีจิตสำนึกในการรับผิดชอบสังคมมาตั้งแต่จำความได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก ในเมื่อเขาเป็นลูกชายของ “วีระศักดิ์ ขุขันธิน” หรือน้าวี สองวัย นักแต่งเพลง นักคิด นักเขียน นักต่อสู้ นักเคลื่อนไหวเพื่อสังคม ขุนกลางจึงถูกหล่อหลอมมาจากแม่พิมพ์ที่ดี
สำหรับนักธุรกิจทั่วๆ ไปอาจจะมองว่าการทำ CSR คือกลยุทธ์หนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์ จะเพื่อการตลาดหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สำหรับขุนกลางแล้วเขาเชื่อมั่นว่า การทำเพื่อสังคมไม่ใช่ หน้าที่ หรือการทำการกุศล แต่มันคือจิตสำนึกที่ทุกองค์กรพึงมี เขาจึงคิดที่จะเปลี่ยนโลกไปใบวิถีนอกกรอบของเขาเอง ซึ่งก็น่าแปลก ยิ่งเขาให้เขากลับได้รับคืนกลับมา…
ทำไมความยุติธรรมที่ล้าช้าถึงเท่ากับความอยุติธรรม
หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเปลี่ยนโลกด้วยสองมือของตนเอง ในฐานะคนธรรมดาๆ คนหนึ่งโดยไม่ต้องรอตำแหน่งใหญ่โตอะไร ขุนกลางจึงเลือกทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ เขาเริ่มก่อตั้งธุรกิจในวัยเพียง 20 ปี หลังจากที่ลาออกจากมหาวิทยาลัยตอนปี 1 เรียบร้อย แต่ยี่ห้อของขุนกลาง การเป็นนักธุรกิจต้องไม่ธรรมดา เขาเลือกที่จะไม่ร่วมงานกับหน่วยงานราชการ เพราะเขาปฏิเสธที่จะร่วมงานทุกหน่วยงานธุรกิจที่มีคอรัปชั่นค่อยมาเกี่ยวข้องด้วย
เขาเลือกที่จะทำการธุรกิจบนความอ่อนโยน ด้วยการใช้หมึกพิมพ์ที่สังเคราะห์มาจากถั่วเหลืองซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นั่นแปลว่าต้นทุนการผลิตของเขาย่อมสูงขึ้น แต่ลูกค้ากลับต้องการราคาที่ถูกลง ความขัดแย้งหลายๆอย่าง ทำให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์มีปัญหา แต่ช่วงขาขึ้นก็มี เขาเคยทำรายได้แตะเพดานที่ 20 ล้านบาท แต่ด้วยสภาพคล่องทางการเงินล่าช้า ต้องถือเช็คไว้ในมือนานกว่าจะแปรเป็นเงินสดได้ก็กินเวลาไปไม่น้อย
ประกอบกับเขาได้รับวิกฤติจากลูกค้าของลูกค้าอีกที เป็นเช็คเด้ง ทำให้เขาต้องสะดุดลง เสียเวลาในการขึ้นโรงขึ้นศาลยาวนาน ถึงแม้ว่าเขาจะชนะคดีในครั้งนั้นแต่เงินก็สูญเงินไปเกือบสองล้านบาท เขาบอกตัวเองว่าไม่ได้แล้ว ถ้าขืนยังเป็นอย่างนี้อยู่อีกต่อไปแย่แน่ๆ ถ้าความยุติธรรมมันล่าช้ามันก็ คือ ความอยุติธรรมดีๆ นี่เอง พอกันทีกับธุรกิจที่ต้องรอเงิน ต่อจากนี้ถ้าจะทำธุรกิจอีกครั้งจะต้องเป็นธุรกิจ “เงินสด” เท่านั้น และธุรกิจร้านอาหารจึงเป็นคำตอบแรก
Advertisements
ทำไมต้องธุรกิจร้านอาหาร
เหตุผลแรกที่เลือกทำธุรกิจร้านอาหารก็คือ เขาต้องการทำธุรกิจที่ได้จับเงินสด อย่างที่สองก็คือขุนกลางมีพรสวรรค์ในการเชื่อมโยงกลิ่นเข้ากับรสชาติ ถือเป็นพรสวรรค์ที่น้อยคนจะมีเหมือนเขา ถ้ามองด้านการตลาดก็นับว่าเป็นต้นทุนที่ดี เมื่อเขามองถึงรากที่ตัวเองมีแล้ว ธุรกิจการทำอาหารก็เกิดขึ้น
แต่ทว่าอุดมการณ์ยังคงแน่นเหนียว ถ้าจะทำอาหารทั้งที อาหารนั้นก็ต้องเพื่อสุขภาพ มีประโยชน์ ปรุงจากผักสดออแกนิกค์ ไม่ใช้ผงชูรส อาหารญี่ปุ่นจึงเป็นสิ่งที่เขาเลือก นอกจากนั้นขุนกลางยังเป็นเจ้าของแบรนด์ไอติมเพื่อสังคม “Rabbit in the moon” ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ห่วงใยสุขภาพได้เป็นอย่างดี นอกจากจะเป็นจุดยืนของแบรนด์แล้วยังเป็นโอกาสทางการตลาดที่รองรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่อีกด้วย
ทำไมขุนกลางในวัย 30 ถึงเปลี่ยนไปจากตอนอายุ 20
ถ้าจะพูดถึงความเปลี่ยนก็คงเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่หล่อหลอมวิธีคิดให้เฉียบคมมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าถามถึงเรื่องอุดมการณ์แน่นอนว่าทุกอย่างยังเต็มเปี่ยมไปด้วยการทำเพื่อสังคมอยู่เช่นเดิม เพราะการช่วยเหลือสังคมสำหรับขุนกลางมันไม่ใช่แค่กลยุทธ์ที่ทำเพื่อการตลาด แต่มันคือ DNA ที่มีติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด และมันจะบ่มเพาะชั่วลูกชั่วหลาน เขาจะเป็นผู้ประกอบการตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับการเปลี่ยนโลก ถึงแม้ใครจะมองว่าความคิดเขาแปลกก็ตาม
เขียนโดย Eskinomiz
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
ข้อมูลธุรกิจ
Gyudon Express
Gyudon Express in BigC Ekkamai (กิวด้งเอ็กซ์เพรส สาขาบิ๊กซีเอกมัย)
โทร.086-352-2453
http://www.facebook.com/gyudonexpress
Leave a comment