bannera1
อยากมี “ธุรกิจส่วนตัว” เริ่มต้นยังไงดี... ( 7 ขั้นตอน เถ้าแก่เงินล้าน )

อยากมี “ธุรกิจส่วนตัว” เริ่มต้นยังไงดี… ( 7 ขั้นตอน เถ้าแก่เงินล้าน )

อยากมีธุรกิจส่วนตัวเริ่มต้นยังไงดี… ( 7 ขั้นตอน เถ้าแก่เงินล้าน )

    เคยมีความรู้สึกแบบนี้กันบ้างไหม? เกลียดวันจันทร์ฝันถึงวันศุกร์ เบื่อเจ้านายขี้บ่น  เบื่อเพื่อนร่วมงานขี้อิจฉา เบื่อลูกค้าเรื่องมาก ต้องแก้งานจุกจิกไม่จบไม่สิ้น ทำงานแทบตายเสมอตัว สร้างรายได้ให้บริษัทปีละสิบๆ ล้าน แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาก็ต้องถูกปลดเกษียน แล้วเก้าอี้ตำแหน่งก็ว่างลง คลื่นลูกใหม่มาแทนที่

     แต่….ถ้าเป็น “ธุรกิจส่วนตัว” ของเราเองล่ะ เราจะบ่นแบบนี้หรือไม่ แล้วถ้าอยากเป็นเถ้าแก่ต้องเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบง่ายๆ มาให้ปรับใช้กัน

1. สำรวจความสามารถของตนเอง
    ข้อนี้ถือว่าเป็นด่านแรกที่เป็นอุปสรรคของหลายๆ คน เพราะหลายคนที่ไม่กล้าเริ่มก็มักจะตอบคำถามข้อนี้ไม่ได้ ว่าตนเองรักอะไร มีความสามารถด้านไหน เป็นการมองในแบบ Inside out คือ เอาความสามารถภายในของตัวเองเป็นจุดแข็ง 

    สมมุติว่า คุณเก่งในเรื่องทำขนม คุณก็เริ่มสำรวจตัวเองว่า ถนัดขนมแบบไหน ไทย หรือ เบเกอรี่ ที่ผ่านมารสชาติขนมของคุณเป็นเช่นไร  โดยวิเคราะห์จากคำชมของหลายๆ คนที่มีโอกาสชิมขนมของคุณ แต่ถ้ายังคิดไม่ออกอีกล่ะก็  ว่าจะทำอะไรดี แนะนำให้ดูประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จไว้เยอะๆ แล้วคิด วิเคราะห์ แยกแยะ แค่นี้แรงบันดาลใจก็ผุดขึ้นแทบไม่หวาดไม่ไหว

 อยากมี “ธุรกิจส่วนตัว” เริ่มต้นยังไงดี... ( 7 ขั้นตอน เถ้าแก่เงินล้าน )

2. สำรวจตลาด
    เมื่อคุณรู้จักความสามารถของตนเอง จนพัฒนามาเป็นโปรดักส์  ที่จะผลิตยึดเป็นอาชีพแล้วล่ะก็ คุณควรมองตลาดรอบๆ ตัว ว่ามีคู่แข่งมากน้อยเพียงไร เช่น ในทำเลที่คุณอาศัยอยู่มีร้านเบเกอรี่นับ 20 ร้าน แล้วคุณจะเป็นร้านที่ 21 ไปแข่งกับเขาเพื่อแชร์ลูกค้ากันทำไม สุดท้ายก็จะกลายเป็นสงครามราคา กดกันไปมา แล้วก็กอดคอกันตายหมู่ คุณควรปรับเปลี่ยนโดยมองหาช่องว่างของตลาด 

     สิ่งที่คนอื่นยังไม่ทำกัน เช่น เบเกอรี่ลูกผสม อย่างที่เขาเรียกกันว่า “ไทยฟิวชั่น” เป็นขนมไทยประยุกต์ที่โรงแรมหรู หรือ สายการบินสัญชาติไทย ชอบทำเสิร์ฟแขกต่างชาติ ดูง่ายๆอย่างครัวการบินไทย ขนมจะสวย น่าตาดี ดูแพง ทั้งๆ ที่เป็นข้าวเหนียวมูลที่ขายราคา 5 บาท 10 บาท แต่ครัวการบินไทยสามารถเพิ่มมูลค่าให้ดูแพงเทียบเท่าขนมนอกได้ นี่คือตัวอย่างของการมองหาตลาด ถ้ายังไม่มีคนทำคุณจะรอช้าทำไม รีบฉวยโอกาสซะ!

 อยากมี “ธุรกิจส่วนตัว” เริ่มต้นยังไงดี... ( 7 ขั้นตอน เถ้าแก่เงินล้าน )

3. มองหาลูกค้า
     คิดสิว่าคุณจะขายให้ใคร กำหนดลูกค้าไว้ซะให้ชัดเจน ถ้าจะทำขนมไทยฟิวชั่นสวยๆ คุณก็ควรขายให้คนสมัยใหม่มีกำลังจ่าย เพราะพฤติกรรมของคนสมัยนี้ชอบของสวยๆ งามๆ ยิ่งรสชาติดีด้วยแล้วควักเงินจ่ายได้สบายๆ แต่ถ้าคุณทำขนมน่าตาหรูหราแต่ไปขายให้เด็กๆ ที่ไม่พิถีพิถันในการเลือกมากนัก คุณก็อาจทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้า

    ฉะนั้นการมองหากลุ่มลูกค้าไว้แต่แรกเป็นเรื่องสำคัญมาก ของสวยๆงามๆสัญชาติไทยลูกผสมแบบนี้ ฝรั่งชอบ ลองไปตั้งช็อปเล็กๆ ขนาด 2×2 เมตร แถวถนนข้าวสารดูสิ รับรองผลิตไม่ทันแน่นอน





Advertisements

4. กลยุทธ์สำรอง
     การทำ “ธุรกิจส่วนตัว” นั้นต้องมีแผน A แผน B ไว้เสมอ ถ้าคุณวางขนมขายหน้าร้านแล้วรอคอยเพียงคนเดินเข้ามาหา ก็ถือว่าเสี่ยงเกินไป คุณควรรุกเข้าหาลูกค้าบ้าง เช่น วางขายหน้าร้านแล้วยังมีบริการรับจัดเบรกตามงานเลี้ยงงานประชุมต่างๆ  วิ่งเข้าหาลูกค้า  เพื่อให้สินค้าระบายทุกวัน  แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มรับงานจัดเบรกจากที่ไหนเพราะไม่รู้จักใครล่ะก็

    แนะนำให้เสิร์ชกูเกิลแล้วหาบริษัท PR ที่ทำประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะ หน่วยงาน  เช่นนี้  ทำการจัดเลี้ยงแทบทุกวัน แล้วคุณก็ทำขนมสวยๆ  ไปผูกมิตรกับเขาซะ เพียงเท่านั้นสภาพคล่องทางการเงินของคุณก็เดินสะพัดแบบง่ายๆ

5. เตรียมตัวหาทุน
    คุณอาจจะมีเงินเก็บ ทุนสำรอง ทุนพ่อแม่ หรืออะไรก็แล้วแต่ ลองวางแผนดูซะว่าจะคุณสามารถเอาเงินก้อนแรกได้มาจากที่ไหน ถ้าย้อนกลับไปดูหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จจะพบว่าล้วนแต่เริ่มจาก 0 กันแทบทั้งนั้น หรือบางคนก็เทหน้าตักเพื่อวัดดวงกันไปเลย

    ในที่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราสนับสนุนให้คุณขายข้าวของเพื่อมาลงทุน แต่เราหมายถึงให้มองหาความเป็นไปได้รอบๆ ตัวเอง แต่ถ้ายังไม่พบคำตอบและอยากให้ชัวร์แนะนำให้เข้าไปปรึกษาสินเชื่อของธนาคารไปเลย ชัวร์!

 อยากมี “ธุรกิจส่วนตัว” เริ่มต้นยังไงดี... ( 7 ขั้นตอน เถ้าแก่เงินล้าน )

6. บริหารเวลา
    ข้อนี้  ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องออกจากงาน ถึงจะเป็นเจ้าของธุรกิจได้ มันขึ้นอยู่กับวิธีการบริหารของคุณ  ถ้าคุณลาออกจากงาน คุณก็มีเวลาลุยธุรกิจของตัวเองแบบ Full time คุณสามารถหาทางหนีทีไล่ได้เต็มสตรีม ว่าจะดำเนินการยังไงบ้าง แต่ถ้าคุณยังทำงานประจำอยู่  คุณก็จะมีเงินเข้าทุกเดือน และอาจหาผลประโยชน์จากช่องทางคอนเน็คชั่นต่างๆ ได้

    ลูกค้าที่บริษัทอาจเป็นลูกค้าธุรกิจของคุณก็ได้ เหล่าบรรดาเจ้านายขี้บ่นทั้งหลายอาจถูกใจขนมของคุณ  จนสั่งจัดเบรกทุกงานและกระจายในกลุ่มผู้บริหารจากปากต่อปากก็ได้ใครจะรู้ เพียงแต่งานประจำอาจกินพลังชีวิตของคุณไปบ้าง จนคุณเหนื่อยไม่มีเวลาทำอะไรเลย อันนี้สำคัญ แต่ทั้งนี้…ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ ที่จะบริหารเวลา 24 ชั่วโมงและคิดจะบริหารเวลาชีวิตอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด…

7. ลงมือทำ
    ข้อนี้สำคัญเหนือข้อใดทั้งมวล ถ้าคุณเขียนแผนธุรกิจชั้นเลิศไว้ในมือ วางลำดับขั้นตอนอย่างดีเยี่ยม ไอเดียแจ่มๆ เห็นช่องว่างทางการตลาดเพียบ แต่…ไม่คิดจะลงมือทำ แล้วจะมีประโยชน์อะไร หลายๆ คนมักจะหาคำตอบมาสนับสนุนตัวเองว่า ไม่กล้าเสี่ยง กลัวไม่รอด ไม่มีทุน ไม่มีเวลา แต่สิ่งเดียวที่เป็นคำตอบจริงๆ ก็คือ “คุณไม่คิดจะทำ” มากกว่า

    จงจำไว้ว่าในโลกธุรกิจใครเร็วใครได้ ถ้าวันนี้คุณไม่ทำ อีกไม่นานคนที่พร้อมกว่าทั้งด้านทุนและความสามารถ เขาจะทำก่อนคุณ แล้ววันนั้นคุณจะได้แต่นั่งเสียดาย รู้งี้…ทำเสียตั้งแต่แรกดีกว่า…





Advertisements

    คำแนะนำ…   สำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ พยายามอย่าทำแบบ Outside in คือ มองหาตลาด กลุ่มลูกค้าเข้ามาหาตัวเอง พยายามอย่าคิดแค่ว่าจะขายอะไรดีที่คนชอบคนซื้อเยอะๆ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณทำในสิ่งที่ไม่ถนัดและไม่ได้รักมันจริงๆ คุณจะทำได้ไม่นาน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่เราทำอะไรที่ชอบก็มักมีไอเดียใหม่ๆ ในการพัฒนาอยู่เสมอ แค่คุณคิดและลงมือทำ เราเชื่อวันมันจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตวันพรุ่งนี้ของคุณได้ และจะไม่ต้องเกลียดวันจันทร์แล้วฝันถึงวันศุกร์อีกต่อไป OK!

เขียนโดย Eskinomiz
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com

copyright

6 Comments on อยากมี “ธุรกิจส่วนตัว” เริ่มต้นยังไงดี… ( 7 ขั้นตอน เถ้าแก่เงินล้าน )

  1. ตอนนี้ อยากทำธุรกิจส่วนตัว มากเลยค่ะ
    แต่ยังไม่รู้จะทำอะไรดีเลยค่ะ
    ขอบทความเพิ่มอีกนะค่ะ

  2. อ่านจบแล้ว
    เดี๋ยวขอนอนคิดอีกวัน
    พรุ่งนี้จะมาสู้ต่อ

  3. อ่านแล้วมีกำลังใจจะทำเลยครับ ขอบคุณครับ

  4. ธุรกิจส่วนตัวคือความฝันในวันนี้ แต่พรุ่งนี้มันจะเป็นจริงหากเราลงมือทำมัน^^

  5. คีตศิลป์ ชัยศิริกูล // สิงหาคม 27, 2016 at 00:16 // ตอบกลับ

    อ่านแล้วมีไอเดียคิดขึ้นมาเลย แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ มันติดที่ไม่มีงบประมาณ อยากเปิดร้านไอติมบุฟเฟ่ คิดรายหัว เป็นนายตัวเอง ในตัวอำเภอ คงจะรุ่ง

  6. อยากผลิตน้ำยำ ที่ สามารถ ยำได้ต่างๆนาๆ หลายแบบหลายเมนู
    แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นเจาะตลาดยังไง เราเคย ทดลอง ขายก็ขายได้ ส่วนใหญ่ ลูกค้าที่จะกินยำมะม่วง ยำๆต่างๆที่ร้านเราแล้ว ก็จะหันมาซื้อน้ำยำสำเร็จของเราติดมือกับไปด้วย เราควรว่างตลาดยังไง ต้องเริ่มยังไง
    เราอยากให้น้ำยำเรา วางขาย แบบจำพวกน้ำจิ้มสุกี้ หมูกะทะ ประมาฯนี้รบกวนแนะนำได้ไหมคะ

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.