ทิ้งเงินเดือนวิศวะ หันมาจับ “ธุรกิจเกษตร” จนมีวันนี้ “ตะไคร้เงินล้าน 100 ไร่”
ทิ้งเงินเดือนวิศวะ หันมาจับ “ธุรกิจเกษตร” จนมีวันนี้ “ตะไคร้เงินล้าน 100 ไร่“
“พยนต์ มูลเกิด” ชายหนุ่มที่ทำงานวิศวกรประจำโรงงานมากว่า 10 ปี หันเหชีวิตมาเป็นเกษตรกร ด้วยความคิดที่ว่า “อาชีพเกษตรกร ก็ รวยได้ เหมือนกัน” ด้วยประสบการณ์ทำงานกับการหมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ ทำให้การเป็น “เกษตรกรเงินล้าน” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากทุกองค์ประกอบในการทำงาน… ความสำเร็จที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ.. จึงทำให้มีวันนี้.. วันที่สามารถจับเงินล้านได้อย่างภาคภูมิ…
บทแรกของชีวิต (ธุรกิจเกษตร ตะไคร้เงินล้าน 100 ไร่ )
จากลูกชาวสวนส้มเขียวหวาน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ที่มุมานะเรียนจนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะวิศวกรรมสื่อสารโทรคมนาคม ทำงานในสาขาที่เรียนกว่า 11 ปี ผ่านงานด้านควบคุม และงานด้านการขาย แต่สุดท้าย..
ถึงวันตกผลึกของชีวิต ความคิดหวนคืนสู่ถิ่นเก่า.. กับความรู้พื้นฐาน.. และต้นทุนด้านที่ดินของพ่อแม่ เป็นเหตุจุดฉนวนความฝัน ที่จะสร้างธุรกิจของตนเอง ด้วยการเป็นเกษตรกร..
Advertisements
หาข้อมูลก่อนลงมือทำ…
จะทำอะไรก็ตาม ควรรู้จักสิ่งนั้นให้ที่สุด.. “คุณพยนต์” ลงตลาดหาข้อมูล ว่าพืชชนิดไหนมีความเป็นไปได้ ปลูกแล้วน่าจะประสบความสำเร็จ โดยมีตัวแปรที่ว่า ต้องมีตลาดรองรับ , เหมาะกับพื้นที่ดินที่จะปลูก ตัวเลือกที่สรุป คือ “ตะไคร้” โดยเริ่มปลูก ครั้งแรกเพียง 5 ไร่
ทำไมถึงเลือกปลูก “ตะไคร้”
“คุณพยนต์” เล่าว่า การที่เลือกปลูก “ตะไคร้” เพราะ เป็นพืชที่ ลงทุนน้อย , มีช่องทางตลาดทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ,ปลูกง่าย , แตกกอไว , ให้ผลผลิตงาม , ราคาไม่ตกมาก , และ เป็นพืชที่ทุกครัวเรือนต้องใช้ เพราะเป็นส่วนประกอบของเครื่องแกง อีกทั้งตะไคร้ยังพืชเชิงสมุนไพร ให้คุณประโยชน์มากมาย จึงทำให้สามารถหาตลาดรองรับได้หลายรูปแบบ
ผลิตได้เทาไหร่
สำหรับ “สวนกายกานต์” ปัจจุบันขยายพื้นที่จากครั้งแรกที่เริ่มต้นปลูก 5 ไร่ จนตอนนี้มีถึง 100 ไร่ ซึ่งสามารถเก็บ “ตะไคร้” ได้วันหนึ่ง ประมาณ 1 – 2 ตัน ( 20,000 กิโลกรัม) ซึ่งราคาตลาดของตะไคร้จะมีทั้งขาขึ้น และขาลง โดยช่วงราคาจะอยู่ที่ 10 – 20 บาท/กิโลกรัม หากคิดเป็นตัวเงิน ก็จะมีรายได้อยู่ที่ 2 – 4 แสนบาท เลยทีเดียว
หากมีการตัดแต่งตะไคร้ก่อนขายก็จะขายได้ในราคา 40 บาท/กิโลกรัม
ทั้งนี้ ยังได้มีการจัดรวมกลุ่มผู้ปลูกตะไคร้ เพื่อที่สามารถจะป้อนผลผลิตให้กับตลาดได้ทันตามความต้องการ ซึ่งปัจจุบัน ทางกลุ่มสามารถทำยอดการผลิตได้ถึง 5 ตัน/วัน
ทำตลาดอย่างไร ถึงสามารถขายได้เยอะขนาดนี้
“คุณพยนต์” กล่าวว่า ช่วงแรกก็ค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจาก…
ตลาดใกล้บ้าน แผงค้าในตลาดสด โดยที่ตะไคร้ของเราจะเน้นคุณภาพและความใหม่ ที่ต้องแข่งกับเวลา เพราะตัดตะไคร้แล้วต้องส่งขายให้ไวที่สุด จะช่วยเรื่องคงคุณภาพที่ดีของตะไคร้
ร้านขายน้ำพริก ซึ่งก็เข้าไปติดต่อ นำตะไคร้ของเราไปให้เขาทดลองใช้ ดูคุณภาพของตะไคร้ ว่าดีแค่ไหน พอเขาติดใจ ราคาพอสมควร ออร์เดอร์ก็เริ่มไหลเข้ามาเอง
แหล่งค้าส่ง ซึ่งได้วิ่งเข้าตลาดค้าพืชส่งที่ใหญ่ที่สุด คือ ตลาดไท เข้าไปติดต่อ การันตีปริมาณส่ง คุณภาพ และเวลานัดที่ต้องตรงตามนัด กับ ร้านค้าส่ง ทำให้เพิ่มยอดขายอีกทาง
บริษัทและโรงงานส่งออก ก่อนที่จะปลูกในจำนวนที่มากขึ้น ต้องวิ่งเข้าโรงงานรายใหญ่ที่ทำผลิตภัณฑ์แปรรูปส่งออก ที่มีตะไคร้เป็นวัตถุ หรือ โรงงานที่ตัดแต่งและแพ็คขายแบบตะไคร้สดๆ ไปต่างประเทศ ซึ่งทั้งสองแบบต้องไปติดต่อ เสนอตัวอย่าง และทำคอนแทคฟาร์มมิ่ง(สัญญาซื้อขายล่วงหน้า) เพื่อการันตีราคารับซื้อ และ จำนวนที่เขาจะรับซื้อ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนนี้กว่า 50 % ของยอดการผลิตทั้งหมด
หากมีผู้สนใจปลูก “ตะใคร้” บ้าง ทำยากไหม…
“คุณพยนต์” พูดถึงเรื่องนี้ว่าไม่ยากเลย ให้คำนึงถึง 2 ปัจจัยเป็นหลัก คือ
1.ปลูกให้เป็น :
อาจทดลองปลูก ต้นสองต้นในกระถางดู ให้รู้จักธรรมชาติของต้นตะไคร้ , รู้จักโรค , รู้จักดิน หาความรู้จากการปลูกให้มากที่สุด และต้องเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม ของสวนเราใช้ “พันธุ์ขาวหยก” และที่สำคัญต้องเน้นคุณภาพ ต้องให้ได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการ แล้วค่อยขยับมาเป็นไร่ โดยเริ่มจาก 1 – 3 ไร่ ก็ได้ (อ่านต่อในวิธีการปลูก)
2.ต้องมีตลาดรองรับ :
ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากใหญ่เลย หาตลาดเล็กๆแถวใกล้แหล่งปลูกก่อน เพราะจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และยังทำให้ไม่เสียเวลาในช่วงขนส่ง ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้ลดคุณภาพของตะไคร้ แล้วค่อยขยับขยาย ตามแนวทางการทำตลาดของคุณพยนต์ก็ได้ แต่หากสนใจสามารถเข้ามารวมกลุ่ม คุยกันก็ได้ ยินดีให้คำปรึกษา (โทร.081-806-9899)(แจ้งไปว่าทราบมาจากเว็บ ทำเลขายของ.com)
Advertisements
วิธีการปลูก “ตะไคร้” (ธุรกิจเกษตร ตะไคร้เงินล้าน 100 ไร่ )
1.เตรียมพื้นที่ปลูก โดยการ “ยกร่อง” หรือ “ปลูกแบบแนวราบ” ก็ได้ แต่ถ้าแบบยกร่องไม่ต้องทำระบบให้น้ำ แบบพื้นราบอาจต้องเดินท่อให้น้ำ แต่ก็จะประหยัดเรื่องแรงงาน
2. ต้องทำพื้นที่หน้าดินให้พร้อม กำจัดหญ้าและวัชพืช ต่างๆ ให้หมด ขุดหลุม 20 x 20 cm ใส่ดินเลนลงในหลุ่ม
3.นำต้นพันธุ์ ความยาว 15 cm ใส่เข่งแนวตั้ง แล้วรดน้ำประมาณ 3 วัน จนรากใบเริ่มแตก ให้นำไปปักหลุมละ 2 ต้น ซึ่งถ้าหากตายไปหนึ่งต้น ก็ยังมีเหลืออีกต้นนั่นเอง ระยะแตกรากให้รดน้ำมาก เช่า-เย็น จนครบ 7 วัน , หลังจากนั้น 20 วัน ให้เริ่มใส่ปุ่ยไข่ไก่ ปุ๋ยยูเรีย พวกสารเคมีให้ใส่น้อยที่สุด ให้เน้นการกำจัดวัชพืชแทน และใส่ปุ๋ย 1 ครั้ง/เดือน
4.ให้แปลงปลูกทั้งหมดเป็น 8 ส่วน แล้วทยอยปลูกไปที่ละแปลง เพื่อให้ผลผลิตไล่ออก ป้องกันความเสี่ยงเรื่องราคา และให้สามารถมีผลผลิตอย่างต่อเนื่อง.
ปัญหาโรคและแมลง (ธุรกิจเกษตร ตะไคร้เงินล้าน 100 ไร่ )
ในช่วงแรกของการปลูกจะมีปัญหาเรื่องของแมลง แต่จะมีมากในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น หนอนเจาะลำต้น , เชื้อรา , แมงมุมแดง
วิธีแก้ไข :ต้องหมั่นดูแลแปลงให้สะอาด กำจัดวัชพืช เป็นการป้องกันตั้งแต่เริ่มต้น และอาจใช้สารเคมีที่ย่อยสลายได้ง่าย สารตกค้างน้อย ทั้งนี้ต้องให้เกณฑ์ที่โรงงานกำหนด
การปรับปรุงดินหลังเก็บผลผลิต
ไถดินให้ร่วนซุย จากนั้นตากดินไว้ 7 วัน เพื่อพักดิน อันที่จริง “ต้นตะไคร้” เจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด
การตัดแต่ง “ตะไคร้” ให้ได้ตามมาตรฐานการส่งออก
1.ตัดแต่งให้เหลือเฉพาะลำต้น มีความยาว 10 นิ้ว
2.ใบ นำมาตากแดด 2 วัน แล้วส่งไปยังโรงงานอาหารไก่ชน ใน จังหวัดปราจีนบุรี
“ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไร.. จะเรียนมามากน้อยแค่ไหน…”
“ถ้าตั้งใจทำจริงๆ… มันต้องทำได้..”
เช่นเดียวกันกับ คุณพยนต์ มูลเกิด เจ้าของสวนกายกานต์ ที่พิสูจน์ความคิด ด้วยการลงมือทำ ทำอย่างตั้งใจ และใส่ใจ ในงานที่ลงมือทำ เป็นบทเรียนชีวิต บทเรียนธุรกิจ ที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง หากใครที่กำลงเผชิญกับปัญหาที่หนักหน่วง จงอยู่พักซักนิด แล้วมองออกไปหาไอดอลที่ประสบความสำเร็จ นำกลับมาเป็นแรงบันดาลใจ เป็นพลังในการต่อสู้กับปัญหา แล้วพิสูจน์มันด้วยตัวคุณเอง แล้วความ “ภาคภูมิใจ” ก็จะป็นของคุณ..
เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
ข้อมูลธุรกิจ
สวนกายกานต์
คุณพยนต์ มูลเกิด
Tel : 0818-06-9899
Leave a comment