เจ๊นิด “ปลาร้าเงินล้าน” ต้องนอนที่แผง 7 ปี กว่าจะมี..วันที่ส่งลูกเรียนประเทศญี่ปุ่น
เจ๊นิด “ปลาร้าเงินล้าน” ต้องนอนที่แผง 7 ปี กว่าจะมี..วันที่ส่งลูกเรียนประเทศญี่ปุ่น
เมื่อเกิดมาแล้ว ไม่มีต้นทุนอะไรเลย… ก็ต้องอดทนสู้…. ให้ถึงที่สุด… ไม่ต่างจากสองสามี-ภรรยา ที่ต้องดิ้นรน ทำมาหากินเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น.. จากศูนย์.. ถึงล้าน.. ดิ้นเพื่อให้มีวันนี้…
วันที่ “ปลาร้า” ถูกส่งขายไปทั่ว.. สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ.. จับเงินล้านเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง… สูตรความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา.. มักจะมีค่ากับคนที่กำลังตามหาฝัน.. ไปตามหาเคล็บลับความสำเร็จ ของคนบ้านนอก หัวใจภูธรเงินล้านกันเลยครับ..
7 ปี นอน แบกะดิน
จากความยากลำบากทำให้ต้องดิ้นรน… เมื่อ เจ๊นิด หรือ คุณนิชาภา และ เฮียจำรัส ต้องออกหาอาชีพ ช่องทางทำมาหากิน จากคนขายไข่ไก่ มาสู่การขายปลาร้า หากย้อนไปเมื่อสมัยที่ตลาดไท เปิดใหม่ๆ คนที่เข้ามาขายยุคแรกๆ ก็คือ เจ๊นิด กับ เฮียจำรัส
โดยช่วงยุคบุกเบิก ทั้งสองคนไม่มีบ้านอาศัยหลับนอน ต้องใช้แผงขายของเป็นที่นอน ใช้ห้องน้ำของตลาดเป็นที่อาบน้ำ ใช้แผงขนาดเล็กๆ เป็นเหมือนบ้าน “นานกว่า 7 ปี” จึงเริ่มเก็บหอมรอมริบ มาซื้อตึกในตลาดไทได้ ค่อยๆผ่อนไป จึงได้ตึกมาเป็นที่พัก ก็ด้วยการขายปลาร้านี่หล่ะ..
Advertisements
รวยได้ เพราะ “น้ำปลาร้าสูตรพิเศษ รสนัว ” “ปลาร้าเงินล้าน”
ช่วงแรกๆ ร้านปลาร้าใน “ตลาดไท” มีไม่กี่ร้าน ผ่านมาได้ไม่กี่ปี ก็เริ่มมีร้านขายปลาร้ามากขึ้น จนปัจจุบันมีมากกว่า 20 ร้าน แต่จุดเด็ดที่ทำให้ร้าน ส.นิชาภา ปลาร้า ยืนหยัดต่อสู้จนมีวันนี้ได้ เพราะเจ๊นิดมีสูตรเด็ด อยู่ที่น้ำปลาร้าตัวหนึ่ง เป็นตัวที่คิดค้นขึ้นเองไม่มีใครเหมือน…
“ใครได้ชิม หรือ เอาไปใส่ส้มตำ เป็นต้องติดใจกันทุกคน” ถึงขนาดที่ว่า ลูกค้าที่เป็นร้านส้มตำ ต้องปิดเป็นความลับ ว่า “ปลาร้าที่เจ้า ใช้ได้แต่ใดมา” (เฮียจำรัส เล่าด้วยความภูมิใจ) ทำให้มีคนมาตามหาปลาร้าเจ๊นิด กันอย่างต่อเนื่อง ชื่อเสียงกระจอนกระจาย ใครได้ใช้เป็นได้ติดใจกันทุกคน…
ในแต่ละวันจะมีลูกค้ามารับถึงร้าน
เปิดสูตรลับ “ปลาร้ารสนัว” “ปลาร้าเงินล้าน”
ปลาร้ารสนัว เป็นน้ำปลาที่เกิดจากการผสมสูตร ตามแบบฉบับของเจ๊นิด-เฮียจำรัส คือ เอาน้ำปลาร้า 3 ตัว มารวมกัน คือ
1.ปลาร้าขี้ปลาทู : เป็นปลาเล็กที่บดละเอียดหมักนานกว่า 1 ปี (ไม่ใช่ปลาทูนะครับ เป็นปลาน้ำจืด แต่เขาเรียกกันแบบนี้)
2.หัวปลาร้า คือ ปลาร้าที่ทำจากหัวปลา แล้วหมักกว่า 1 ปี (จะมีกลิ่นฉุ่นหน่อย)
3.ปลาร้าแดง : ปลาสร้อย ปลาซิว ผ่านการหมัก 1 ปี (เมื่อได้ที่จะมีสีแดง)
4. น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี
อัตราส่วน 1 : 1 : 1 น้ำตาลทรายขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ต้องทดลองดูเอา
นอกจากปลาร้ารสนัวแล้ว ที่ร้านเจ๊นิด ยังมีปลาร้าอีกกว่า 10 รส ไม่ว่าจะเป็น ปลารวม(ปลาตำแจ๊ว) , ปลาร้าโหน่ง(ปลาตำแดง) , ปลาร้าสุโขทัย(ปลาแกงเผ็ด) , กระดี่รอง(แกงทุกย่าง) , ปลาร้า 3 ตัว(รสนัว) เป็นต้น ,พร้อมกันนี้ ยังมี เครื่องส้มตำ หน่อไม้ดอง , ปูเค็ม อีกด้วย..
จุดสำคัญของปลาร้าร้านเจ๊นิด เฮียจำรัส กล่าวว่า จะเน้น ปลาน้ำจืด ปลาจากท้องนา ที่ส่งตรงมาจากจังหวัดสุโขทัย เพราะปลาน้ำจืด จะให้รสชาติที่อร่อยกว่าปลาทะเล…
แม่ค้า “ปลาร้าเงินล้าน”
ปัจจุบันมีลูกค้าที่ซื้อไปขายต่อ ทั้งร้านค้าส้มตำ รวมไปถึงลูกค้าซื้อปลีกมาอุดหนุนกันมากมาย โดยขายส่งวันหนึ่งๆ จะขายอยู่ราว 400 – 500 กิโลกรัม , และขายปลีกอีกราว 400 – 600 กิโลกรัม วันหนึ่งจะขายได้ 1,000 กิโลกรัม ขึ้นไป
ซึ่งราคาขายตกอยู่ที่ 30 – 50 บาท/กิโลกรัม หากลองคำนวณเล่นๆ วันหนึ่งๆ จะขายอยู่ราว 50,000 บาท/วัน , เดือนหนึ่งตก 1.5 ล้านบาท เลยทีเดียว.
เจ๊นิด เล่า ด้วยความภูมิใจในความสำเร็จ ตอนนี้มีบ้านอยู่ มีรถขับ พึ่งจะขายตึกไป.. ได้มา 12 ล้าน และไปปลูกบ้านให้ลูกชายหมดไปอีกล้านบาท แถมยังส่งลูกไปเรียนถึงประเทศญี่ปุ่น ในสาขากฎหมาย อีกไม่ถึงปีก็จะกลับเมืองไทยแล้ว.. ยังส่งเสริม ชวนพี่ๆน้องๆ มาขายปลาร้าด้วย จนรวยไปตามๆกัน เป็นเจ้าของตึกได้ก็ปลาร้าเจ๊นิดนี่ละครับ…
เหลือต้องหมั่นทำบุญ…เจ้นิดและเฮียจำรัส ยังคงเดินสายทางบุญอย่างเป็นประจำ
มาขายปลาร้าได้ เพราะ “พระ” วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
เจ๊นิด เล่าว่า ก่อนที่จะมาขายปลาร้าได้นั้น เคยไปดูดวงมาก่อน ซึ่งได้ไปดูกับพระรูปหนึ่งที่ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันท่านไม่อยู่แล้ว.. ตอนไปถึง… ท่านถามว่า “พวกมึงมาทำอะไร”
เจ๊นิด : บอกว่ามาดูหมอค่ะ.. อยากถามว่าจะทำอะไรดีค่ะ..
พระ : ท่านก็พูดสวนกลับมาว่า… มึงขายของมีชีวิตไม่ได้.. ต้องขายของเหม็นของเน่า..
เจ๊นิด : งงมาก.. หันหน้าไปหาเฮียจำรัส เฮียจำรัสเลยบอกว่า ก็ “ปลาร้า” ไง..
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “ธุรกิจปลาร้า” เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ใครยากลองบ้างก็แล้วแต่ศรัทธาเลย…
ลูกค้ามาจากทั่วทุกสารทิศ…
ด้วยความเด็ดขาดของปลาร้ารสนัว ทำให้มีลูกค้ามาจากทั่วประเทศ เอาไปขาย ซื้นกันที่เป็น 200 – 300 โล พอเอาไปแล้วขายดี ก็กลับมาซื้ออีก เรียกได้ว่า “รสนัว” ของเจ๊นิด ดังเข้าขั้นทีเดียว..
เมื่อพอมี จึงแบ่งปัน..
ปัจจุบัน การค้าเริ่มอยู่ตัว ทุกอย่างเดินได้ด้วยดี จึงทำความตั้งใจในอดีต เมื่อครั้งยังไม่ค่อยมีตังค์ ให้เป็นจริง คือ “การให้”
เจ๊นิด กับ เฮียจำรัส จะไปเลี้ยงอาหารที่บ้านเด็กราชวดีทุกเดือน เดือนละครั้ง เพื่อแบ่งปันกับคนอื่นบ้าง ซึ่งทั้งสองคนเข้าใจความรู้สึกอยากลำบากเป็นอย่างดี เมื่อเวลาที่พอมีแล้วจึงตั้งใจที่จะทำบุญ เท่าที่จะทำได้…
Advertisements
เคล็ดลับความสำเร็จ “ปลาร้าเงินล้าน”
“ถ้าไม่สู้ชีวิตคงไม่ถึงทุกวันนี้”
“กว่าจะฝืนขึ้นมาได้.. ทำได้เท่าทุกวันนี้.. ลำบากจริงๆ.. ลำบากมาก… ภูมิใจมาก..”
ประโยคสั้นๆ จากใจเฮียจำรัส เป็นบทสรุปของความสำเร็จ เคล็บลับสั้นๆ ที่เข้าใจ ง่ายๆ คือ “สู้”
มนุษย์มักต้องเจอ 2 ทางเลือกอยู่เสมอ..
จะสู้… หรือ จะยอมแพ้..
“คำตอบ” ได้ถูก “พิสูจน์” มาแล้ว…
แล้วคุณหล่ะ.. จะสู้ หรือ ยอมแพ้…
ทุกวันนี้… เฮียจำรัส ยังไม่กล้าใช้เงินต่อไป.. เพราะกลัวความจน..
ชีวิตยังดำเนินไปยังเรียบง่าย… “เสื้อที่ว่าขาด.. แกว่ายังใส่ได้…“
นี่หล่ะ.. เบื้องหลังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่…
หัวใจที่ต้องขอคารวะ…
“วันนี้ขออนุญาต ไม่สรุป เพราะทุกบทสรุป คุณได้อ่านมันไปหมดแล้ว”
เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
ข้อมูลธุรกิจ
ร้าน ส.นิชาภา ปลาร้าตลาดไท
ติดต่ิอ 54/7 ,.9 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
โทร.084-066-2019 , 086-070-6490 , 02-908-4276
Leave a comment