เมื่อเด็ก ปี.1 ขายปลาหางนกยูง ทำรายได้ 50,000 บาท/เดือน (ธุรกิจคนล่าฝัน)

Posted on กรกฎาคม 21, 2015 by administrator in ธุรกิจ SME น่าสนใจ, ธุรกิจค้าปลีก // 0 Comments

เมื่อเด็ก ปี.1 ขายปลาหางนกยูง ทำรายได้ 50,000 บาท/เดือน (“น้องต้นกล้า” ธุรกิจคนล่าฝัน)

ทุกคนมีความใฝ่ฝัน..
อยู่ที่ต้องหา.. ให้เจอว่า.. ฝันนั้นคืออะไร..

เช่นเดียวกันกับ “ น้องต้นกล้า ” นักศึกษา ปี.1 จาก ม.เกษตร ที่กำลังลงมือทำ ทำทุกอย่าง เพื่อไปสู่เป้าหมาย ด้วยก้าวแรกกับการธุรกิจ “ขายปลาหางนกยูง” ที่ ทำรายได้ 50,000 บาท/เดือน ไปแกะเปลือกชีวิตของ “ต้นกล้า ธุรกิจ คนนี้” กันเลยครับ

“ น้องต้นกล้า ” เป็นใครกันน่า…
เด็กชาย “ต้นกล้า” ( วิรภูมิ หงส์ศุภางค์พันธ์ ) ที่เกิดในครอบครัวข้าราชการครู ฐานะปานกลาง มีคุณพ่อรับราชการครู ที่ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม และ คุณแม่รับราชการครู วิทยาลัยพณิชการธนบุรี เด็กชายที่กำลังเติบโต เพื่อออกหาเส้นทางเดินของชีวิต

ไม่ต่างจาก เด็กผู้ชายทั่วไป ในวัยเรียน ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเล่าเรียน แต่ที่ดูจะต่างจากคนอื่น คือ การชอบหากิจกรรมทำ เช่น ไปออกค่ายสัมมนา , ไปแค้มป์เยาวชน , และชอบเลี้ยงปลาสวยงามมากๆ โดยเฉพาะปลาหางนกยูง ชอบทำกิจกรรมในโรงเรียนจนได้เป็น ประธานสภานักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์

ได้ แรงบันดาล ในชีวิต…
ช่วงที่ “น้องต้นกล้า” เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ได้มีโอกาสไปสัมมนา ไปออกค่ายเยาวชนหลายครั้ง โดยมีอยู่ครั้งหนึ่ง…

พี่ที่เป็นวิทยากร ถามว่า
“น้องคนไหน อยากมีเงิน ไว้เลี้ยงตนเองบ้าง”
“น้องคนไหน อยากมี กิจการเป็นของตัวเองบ้าง”
ซึ่งทุกคนต่างยกมือขึ้น.. ว่า “ อยากมี ”

แต่พอ พี่วิทยากร ถามอีกครั้งว่า…
“แล้วน้องคุณไหน หาเงินเองได้แล้วบ้าง”
“หรือ น้องคุณไหน มีกิจการเล็กๆ เป็นของตนเองแล้วบ้าง”
คำตอบ ที่ได้ คือ “ ความเงียบ ” ทุกคนในที่นั้น.. ไม่มีใครเลย ที่เคยหาเงินเองได้เลย…

วันนั้นเป็นวันที่ “ต้นกล้า” เฝ้าบอกกับตัวเองว่า เราจะต้องมีรายได้ ต้องมีธุรกิจเป็นของตนเองให้ได้.. ( แม้จะอยู่เพียงชั้นมัธยมก็ตาม )

แล้วจะทำอะไรดี…
เมื่อมีเป้าหมาย..
ต้องทำไปให้ถึง… “ปลายทางแห่งฝัน”

จุดเริ่มในแค้มป์สัมมนา กลายมาเป็นแรงขับ ของเด็กอายุ 15 , 16 ที่อยากมีรายได้เสริม , อยากมีค่าขนม , อยากมีกิจการเล็กๆ ที่เป็นของตนเอง
“ต้นกล้า” จึงเริ่มคิด.. แล้วจะทำอะไรล่ะ ที่เราทำได้บ้าง…
น้องต้นกล้า มองไป.. ในสิ่งใกล้ตัวที่พอทำได้.. และชอบที่จะทำ คือ การเลี้ยงปลาหางนกยูง ด้วยเหตุผลที่ว่า
    1. ใช้พื้นที่น้อย เริ่มต้นจากพื้นที่เล็กๆ ในบ้านก็ได้
    2. ใช้เงินลงทุนไม่สูง
    3. มีความรู้พื้นฐานอยู่บ้างแล้ว หาความรู้เพิ่มเติม อีกหน่อยก็น่าจะทำได้

ลงมือปฏิบัติ ปลาหางนกยูง คู่แรกที่เริ่มเพาะ ด้วยตัวเอง…

2,000 บาท การลงทุนครั้งแรก
    ในการเริ่มต้น ต้องมีปลาขาย ด้วยการเพาะขึ้นเอง น้องต้นกล้าใช้เงินทุน 2,000 บาท ในการลงทุนครั้งนี้ เงินจาก “แต๊ะเอีย” ตอนตรุษจีนกลายมาเป็นเงินทุน, ซึ่งต้นกล้า เล่าว่าปลาหางนกยูงในบ้านเรา จะแบ่ง 2 กลุ่ม คือ
    1.ปลากะละมัง : ราคาถูก
    2.ปลาเกรดประกวด : ราคาแพง

น้องต้นกล้า จึงเลือกขายปลาเกรดประกวด เริ่มจากการซื้อพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ สายพันธุ์ “Full Red” ในราคา 1,200 บาท , ที่เหลือจะเป็นค่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ปั๊ม , ตู้ , ท่อ , สายอ๊อก , เครื่องมือก็หาเอาในบ้าน เน้นใช้เงินทุนให้น้อยที่สุด หาพื้นที่เล็กๆ หลังบ้านตั้งตู้ปลา , ติดออกซิเจน วางแบบตามที่ได้หาความรู้มา
ใช้เวลาอยู่ 1 เดือนกว่า ปลาชุดแรกก็ออก โดยในหนึ่งคอก จะได้ปลาเกรดสวยๆ ออกมาประมาณ 5 – 10 คู่ เมื่อได้ปลามาแล้ว.. ที่นี้จะขายยังไง..

Advertisements

อุปสรรคมา.. ตั้งแต่คอกแรก…
“ปัญหาของคนทำธุรกิจ คือ การขาย”

เช่นเดียวกับน้องต้นกล้า เมื่อได้ปลาชุดแรกมาแล้ว แต่ไม่มีคนรู้จัก “ผู้ขาย” เลย แล้วจะขายให้ใคร.. ดังนั้นน้องกล้าจึงเริ่มหาช่องทางการขาย โดยเริ่มจากการโพส “เฟสบุ๊ค” หากลุ่มคนที่ชอบปลาหางนกยูง แล้วเข้ากลุ่ม และโพสรูปปลาหางนกยูงที่ตัวเองเพาะได้ คล้ายเป็นการอวดปลา ว่า เรามีปลาสวยๆ , รูปทรงได้ตามความนิยมของตลาด

ใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน ปลาคู่แรก ก็ขายได้ ด้วยราคา 3,800 บาท คืนทุนในฉับพลัน จากนั้นก็ขายมาได้เลยๆ โดยน้องต้นกล้า จะส่งสินค้าโดยนัดลูกค้าตามสถานี BTS , เป็นช่วงมัธยมที่ทั้งเรียน และหาค่าขนมไปพร้อมๆ กัน…

ร้านที่ “จตุจักร” ตลาดศรีสมรัตน์ ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์เด็ก ซอย 2

ก้าวไปอีกขั้น… เปิดร้านที่ “ จตุจักร ”
เด็กมัธยมที่มีหน้าที่เรียนเป็นหลัก..

เมื่อจบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ก็ไปต่อที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะประมง ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตามความชอบตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังไปเดินดูปลาที่จตุจักร เป็นประจำ จนเมื่อโอกาสมาถึง…

ร้านปลาหางนกยูง ที่ไปบ่อยๆ เขาบอกขายร้านต่อ ในราคาไม่แพง เพราะเป็นพี่คุ้นเคยกัน “น้องต้นกล้า” จึงรีบตัดสินใจซื้อ ด้วยเงินเก็บสะสม โดยให้เหตุผลว่า
1.จะได้มีหน้าร้าน มีความน่าเชื่อถือ
2.จะได้ลูกค้า ซึ่งจะเป็นลูกค้าจากต่างประเทศ
3.ร้านเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ก็จะมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว
ในที่สุด… ได้ซื้อร้านมาใน เดือนมีนาคม ปี.2558 ที่ผ่านมีนี้เอง ซึ่งเข้ามาขายเดือนแรก ก็ทำยอดขายได้ 42,000 บาท

เตรียมส่งมอบลูกค้า

5 เดือน ที่เปิดร้านขายปลา
“น้องต้นกล้า” เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เปิดร้านมายังไม่ขาดทุน สามารถ ทำยอดขายเกินกว่ารายจ่ายทุกเดือน ยังเหลือเงินเก็บอีกด้วย โดยร้านจะมีค่าใช้จ่ายประจำ คือ ค่าเช่า , ค่าน้ำ , ค่าไฟฟ้า ประมาณ 11,000 – 12,000 บาท/เดือน และอีกส่วนจะเป็นค่าปลา ที่ต้องซื้อเข้ามาเพิ่ม จากการไปทำ “Contact Students” คือ การติดต่อ เหล่าบรรดาเพื่อนๆ ที่ชอบเลี้ยงปลาหางนกยูง ให้เอาพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ไปเพาะ แล้วรับซื้อกลับ เข้ามาขายที่ร้าน เพื่อให้เพียงพอกับปริมาณการขายออกไป

กายพร้อม.. ใจพร้อม…

จากการที่เปิดร้านมา 5 เดือน ยอดขายอยู่ที่ราว 35,000 – 50,000 บาท/เดือน มีทั้งลูกค้าทั้งคนไทย และลูกค้าชาวต่างชาติ ต่างประเทศจะเป็น รอบเพื่อนบ้านเรา ที่ต้องมีการส่งไปให้เขาด้วย จากหลายประเทศ เช่น กัมพูชา,มาเลเซีย หรือ ญี่ปุ่น ก็มี ซึ่งยอดตัวเลขยังไม่สูงมากนัก แต่ก็เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น เลยๆ

กำไรจากขาย
“น้องต้นกล้า” เล่าว่า ตัวเองเป็นคนที่เก็บเงินไม่ค่อยเก่ง เลยใช้วิธี… นำเงินจากขาย ไปให้คุณแม่เก็บ สัปดาห์ละ 2,500 บาท ทุกเดือน ก็จะมีเงินเหลือเดือนละ 10,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือ หลังจากที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในร้าน กับ หักค่าใช้จ่าย ต้นทุนค่าปลาทั้งที่เพาะเอง กับที่ซื้อเข้ามา จะเหลือประมาณ 7,000 – 8,000 บาท ก็จะนำมาเป็นเงินหมุนภายในร้านต่อไป

“น้องผักกาด” พื่สาวเปิดร้านขายขนมที่ siam square one ชั้น LG โซนแฟชั่น ซอย 2

ยังไม่หยุด บุกต่อด้วยร้านเบเกอรี่
ปัจจุบันยังไปเปิดร้านขายเบเกอรี่ บูธเล็กๆ ที่ siam square one ชั้น LG ติดลาน กิจกรรม ประตู 4 , เป็นการเปิดรวมกับพี่สาว คุณผักกาด ( วิรยา หงส์ศุภางค์พันธ์ ) ในชื่อแบรนด์ว่า PuckDessert บูธโต๊ะเล็กๆ ที่พึ่งเริ่มตั้งไข่ ด้วยขนมพี่สาวเป็นจะคนทำเอง ดูแลในส่วนการผลิต

โดยมีน้องต้นกล้าช่วยดูแลด้านการตลาด การบริหารจัดการ จากเดิมที่พี่สาวเคยขายผ่านทางเฟสบุ๊ค และรับทำตามออเดอร์ จนเริ่มมาเปิดร้านที่ siam square one เป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่น้องต้นกล้า หมายมั่นจะพัฒนาต่อไป เพื่อเป็นอีกช่องทางในการสร้างตัว

กิจกรรมในมหาวิทยาลัย
นอกจาก “น้องต้นกล้า” ยังมีอีกกิจกรรมที่ชอบทำ คือ พิธีกร ประจำมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นพิธีกรในงานต่างๆ ในมหาวิทยาลัย เช่น งานเกษตรแฟร์ เป็นต้น

เป้าหมายต่อไป..
อนาคต.. “น้องต้นกล้า” กล่าวว่า คงยังพัฒนาทั้ง 2 ธุรกิจ ให้ดียิ่งขึ้น ทั้ง “ร้านขายปลาหางนกยูง” และ “ร้านขนม PuckDessert” พยายามเพิ่มยอดขาย , พัฒนาระบบให้ธุรกิจเดินได้ตัวเอง , พัฒนาตัวสินค้าให้ดียิ่งขึ้น
หากว่า พอเงินทุนซักก้อน ก็จะลองมองในหมวดธุรกิจอสังหา อาจซื้อ “บ้าน” หรือ “อาคารพาณิชย์” เพื่อเป็นการออมเงิน หรือ ขายออกเมื่อมีกำไร ค่อยๆ หัดทำไป.. ค่อยๆ ดูลู่ทาง… ก็น่าจะมีโอกาสที่ทำเงินได้เหมือนกัน…

Leave a comment ยกเลิกการตอบ