bannera1
รวม 12 ไม้เด็ด ของ “ธุรกิจทำเงิน” [ จากคนธรรมดา สู่เศรษฐีหน้าใหม่ ]

เปิด 12 กลยุทธ์เด็ด “ธุรกิจทำเงิน” [คุณตัน อิชิตัน,คุณต๊อป เถ้าแก่น้อย ฯลฯ]

รวม 12 กลยุทธ์เด็ด ธุรกิจทำเงิน[ จากคนธรรมดา สู่… เศรษฐีเมืองไทย ]

ปัจจุบัน  ธุรกิจทำเงิน”  ที่จะทำให้คนธรรมดาอย่างเราๆ
พลิกสถานะทางการเงินกลายเป็นเศรษฐี  นั้นเริ่มเห็นน้อยลงไปทุกที
เพราะอาจมีคู่แข่งในทุกสนามมากขึ้นทุกวัน…

ส่วนคนที่ทำธุรกิจแล้วกลายเป็นเศรษฐี ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย…
ก็ย่อมต้องมีอย่างแน่นอน  แต่อาจมีจำนวนไม่มากซักเท่าไหร่
ซึ่งแต่ละคน-แต่ละทุกธุรกิจ ที่ฝ่าฟันมาได้นั้น
ล้วนแต่มีจุด “พลิกผัน” ที่ทำให้ธุรกิจของเขารุดหน้าอย่างก้าวกระโดด

ไม้เด็ด หรือ กลยุทธ์ธุรกิจ ใดกันเล่า…ที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จ จากการขายแบบธรรมดาๆ สู่ธุรกิจทำเงินที่เหนือกว่าคู่แข่ง 1 ก้าว อยู่เสมอ… [ ไปติดอาวุธลับความคิดทางธุรกิจ..กันเลยครับ ]





Advertisements

1.) จับกระแส
    จะสร้างธุรกิจทำเงินต้องจับกระแส หมายถึง ต้องสามารถมองเห็นถึงความต้องการ ของคนหมู่มากได้อย่างชัดเจน ก่อนคนอื่นจะมองเห็น

    อย่างเช่น…คุณตัน แห่งอิชิตัน ที่ทำธุรกิจมาหลายอย่าง ทั้งร้านแผงหนังสือ , ธุรกิจอสังหา , ร้านอาหารญี่ปุ่น ต้องล้มรุกคลุกคลาน เป็นหนี้เป็นสินหลักร้อยล้านบาท ก็มีจุดเปลี่ยนอยู่ที่การ “จับกระแส” ในช่วงที่คุณตัน หันมาทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นนั้น กิจการถือไว้ไปได้สวย แต่ดูจะที่จะฉายแววขึ้นมาอย่างแรง..คือ “ชาเขียว”

    คุณตัน…เคยเล่าว่า สมัยที่ทำร้านอาหารญี่ปุ่น เขาสังเกตเห็นว่า..ลูกค้าส่วนใหญ่ จะขอซื้อชาเขียวกลับบ้านกันเกือบทุกคน ซึ่งในขณะนั้นชาเขียวยังบรรจุขวดใสๆ ไม่มีโลโก้ ไม่มีฉลากใดๆ เรียกว่า…ธรรมดาสุดๆ แต่ลูกค้าก็ยังจะขอซื้อกลับบ้านกันเกือบทุกโต๊ะ แถมยังขายได้ราคาดีอีกด้วย

    เมื่อเห็นกระแส…ว่ามีแนวโน้มมาแน่ ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มี…ใครทำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มบรรจุขวดเลย คุณตันจึงลงทุนสร้างโรงงานที่ถือว่าเป็นเจ้าแรกๆของเมืองไทยเลยทีเดียว ผลจากการมองเห็นครั้งนี้ ทำให้คุณตันสร้างบริษัทผลิตชาเขียวที่มีกำลังผลิตมากที่สุดในไทย มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอับดับ.1 “พลิกธุรกิจ…ให้เกิดได้อย่างรวดเร็ว”

2.) สร้างกระแส
    “ธุรกิจทำเงินมีอีกหนึ่งไม้เด็ดที่ชอบใช้กันมากในยุคนี้ หากทำตามข้อ.1 ไม่ได้ ก็สร้างมันขึ้นมาเองซะเลย มีทั้งทำแบบในแง่บวกและในแง่ลบ แต่จะกล่าวแต่เฉพาะในด้านเชิงบวกเท่านั้น ในด้านเชิงลบขอไม่พูดถึงนะครับ

    สำหรับ…กลยุทธ์สร้างกระแส ขอไม่ยกต้องอย่างนะครับ แต่จะบอกถึงวิธีการที่เขานิยมทำ…ให้พอรู้เท่านั้นครับ (เดี๋ยวงานเข้า..หละซวยเลย เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง เอากระดูกมาแขวนคอซะงั้น )

    สมมุติว่า…เรามีครีมตัวหนึ่งที่ดีมากๆ อยากจะเอาออกวางขายในชื่อแบรนด์สินค้าเราเอง งานนี้ต้องเตรียมตัวกันก่อนนะครับ ว่าจะใช้อะไรบ้างในการสร้างกระแส โดยมีเป้าหมายว่า “ครีมอะไร…ดีเวอร์ใครๆ ก็ใช้กัน”

    เครื่องมือที่ถูกที่สุด…ก็คือ “สื่อออนไลน์” แต่การจะสร้างกระแส…ต้องเป็นไปอย่างกลมกลืน ห้ามขายแบบดื้อๆ หรือยัดเยียดการขายเด็ดขาด ต้องทำให้กลมกลืน…ทำให้เขาหลงรักเอง ดังนี้
    – รีวิวเรื่องราวของสินค้า จากบล็อกเกอร์ชื่อดังทั้งหลาย
    – ไปรีวิวผลการใช้งานสินค้า ในเว็บสังคมออนไลน์ใหญ่ๆ ( ลักษณะเชิงเปรียบเทียบ,หรือให้ความรู้,หรือขอความเห็น )
    – วีดิโอแนะนำ แล้วไปให้เพจเฟสบุ๊คดังๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้าเรา โพสให้(จ้างโพส)
     ซึ่งอาจต้องใช้ทุนบ้าง แต่ก็ถือว่าลงทุนน้อยกว่าสื่อสารตัวอื่นแล้ว อีกทั้งต้องทำในปริมาณที่มากพอสมควร(เร็ว-แรง-หนักหน่วง) ตรงกลุ่มเป้าหมาย ในช่วงเวลาที่กำหนดด้วย [ ถ้าอย่างได้ปลาฝูงใหญ่…ก็ต้องลงทุนกันหน่อย ]

    หรือกรณี..อย่างร้านเสื้อผ้าออนไลน์เจ้าหนึ่ง ที่สร้างกระแสนิยม page-facebook ให้มีคนรู้จักมากๆ โดยเริ่มจากการโพสเรื่องที่น่าสนใจ , เรื่องดารา , เรื่องข่าวที่น่าติดตาม อีกทั้งยังมีการซื้อโฆษณาของเฟสบุ๊ค จนทำให้มีคนติดตามมากถึง 1 ล้านคน ภายในเวลาไม่กี่เดือน จากนั้นก็เปลี่ยนแฟนเพจ…มาเป็นลูกค้า ปัจจุบันมียอดขายหลักร้อยล้านบาทต่อปีเช่นกัน

    ในเรื่องการสร้างกระแสยังมีอีกหลายวิธีการ…ที่ไม่อาจพูดถึงได้ เพราะมันอาจกระทบกับอีกหลายฝ่าย แต่ความสำเร็จของวิธีการนี้ สุดท้ายแล้วต้องวัดกันที่คุณภาพของสินค้าด้วย หากคุณทำให้คนจำนวนมาก มาทดลองใช้สินค้าได้แล้ว สินค้าต้องตอบความต้องการของลูกค้าได้จริง แต่ถ้า…ในทางกลับกัน ถ้าเจอสินค้าที่แย่ๆ ผลกระทบในเชิงลบ..ก็จะหนักหน่วงไม่แพ้กัน…

3.) time
    “ธุรกิจทำเงินที่ทำให้คนรวย..ได้ อีกวิธีหนึ่ง…คือ “จังหวะเวลา” เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนประสบความสำเร็จ พลิกชีวิตกลายเป็นเศรษฐีอย่างรวดเร็ว… หากใครที่รู้ว่า ช่วงเวลาไหน…. ควรทำธุรกิจอะไร ที่ทำเงินได้มาก ช่วงเวลาใด…ที่ทำธุรกิจนี้แล้วรุ่งแน่ ย่อมมีโอกาสมากกว่าคนอื่น

    เหมือนอย่างสองนักธุรกิจที่มีชื่อว่า “สุรศักดิ์-สุรชัย นิตติวัฒน์” จากค่าย energy-reform บริษัทที่รับติดตั้งแก๊สรถยนต์ครบวงจร แบบมีศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน ในช่วงเวลาที่น้ำมันมีราคาแพงมากๆ ทำให้คนหันมาติดแก๊สในรถยนต์กันมาก ซึ่งในช่วงนั้นมีอู่รับติดอยู่บ้างแล้ว แต่อุปกรณ์และการให้บริการยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร

    ทำให้สองพี่น้องหันมาจับธุรกิจนี้ ในจังหวะที่ดี  เปิดศูนย์บริการติดตั้งแก๊สรถยนต์แบบได้มาตรฐานจากประเทศอิตาลี่ จนสามารถสร้างยอดขายได้แบบชนิดถล่มทลาย…แตะระดับ 1,200 ล้านบาท/ปี

4.) ป่าล้อมเมือง
     “ธุรกิจทำเงินที่สามารถเข้ามาตีตลาดเจ้าใหญ่ได้อย่างสวยงาม โดยใช้วิธีการเด็ด…คือ “ป่าล้อมเมือง” หมายถึง…การทำตลาดจากหัวเมืองต่างจังหวัด แล้วค่อยรุกคืบมาสู่เมืองหลวงศิวิไล..

    ในกรณีนี้…ขอยกตัวอย่างของคุณ “สกุณา บ่ายเจริญ” เจ้าของแบรนด์สุกี้ Hot Pot ที่เปิดสาขาแรกในห้างตะวันออกคอมเพล็กซ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยใช้ชื่อร้านว่า “โคคาเฟรช สุกี้” เนื้อที่ 300 ตารางเมตร ตั้งแต่ปี 2538

    ซึ่ง…สมัยแรกที่ทำนั้น ยังไม่ค่อยมีคนทำร้านสไตล์นี้ในต่างจังหวัดซักเท่าไหร่ มีแต่ในกรุงเทพเป็นส่วนมาก ทำให้ร้านของคุณสกุณาเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย ประกอบกับอาหารที่ได้คุณภาพ ทำให้ได้ผลตอบรับที่ดี จึงขยายสาขาออกไป ตามหัวเมืองต่างตามจังหวัดใหญ่ๆ จนรุกคืบเข้ามาสู่กรุงเทพได้ในที่สุด ( ข้อมูลวันที่ 31 ธันวาคม 2557 hot-pot มีสาขาให้บริการ 144 สาขา )

5.) หาของใหม่
    “ธุรกิจทำเงินที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก หรืออาจคลิ๊กขึ้นมาเองในบัดดล จากสิ่งใกล้ๆตัว หรือความชอบอย่างบ้าคลั่งก็เป็นได้

    การหาของใหม่..เพื่อจะมาขาย นั้นอาจจะยากเหมือนกัน แต่ที่เห็นสำเร็จเป็นรูปธรรมแล้ว ก็อย่างเช่น…คุณต๊อบ(เถ้าแก่น้อย สาหร่ายอบกรอบ) , อีกเคสที่ทำท่าจะมาแรงอย่าง…โอคุสโน่ ผลิตภัณฑ์ขนมคางกุ้ง ของคุณแพร

    มาว่ากันที่…สาหร่ายอบกรอบกันก่อนครับ คุณต๊อบเคยบอกว่า…ตอนแรกที่คิดจะทำสาหร่ายอบกรอบมาขายนั้น มาจากเป็นคนชอบกินสาหร่ายมาก และเวลากินต้องเอามาทอดให้กรอบก่อน จะอร่อยมากๆ ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีขนมสไตล์นี้ คุณต๊อบจึงเริ่มพัฒนาสินค้า และนำไปเสนอให้ร้านสะดวกซื้อ เมื่อได้วางขาย ผลตอบรับจากลูกค้าก็ดีมาก ทำให้มียอดขายแบบสูงสุดๆ ( ปัจจุบันบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 3,000 ล้านบาทต่อปี )

    ส่วนขนมคางกุ้ง…ที่ทำมาจากส่วนข้างใต้หัวของกุ้ง ผ่านการทอดและอบ เพื่อไล่น้ำมัน และรอยผงปรุงรส ก็กำลังเป็นสินค้าใหม่ที่กำลังมาแรเช่นกัน จากของกินเหลือ…ที่จะทิ้ง คุณแพรกลับคิดว่า…น่าจะทำอะไรมากกว่านั้น เพราะส่วนหัวกุ้ง บ้างคนชอบดูดรสชาติมันมาก ต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายเดือน จึงได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เริ่มกำลังเป็นที่รู้จักมากขึ้นเลยๆ

ปัญหาอาจเจอยักษ์ใหญ่
     “ธุรกิจทำเงินในกรณีที่ใช้การหาของใหม่ๆ มาขายนั้น… ปัจจุบันอาจต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนปล่อยสินค้าสู่ตลาด เพราะอาจถูกพวกยักษ์ใหญ่ คาบไปกินได้ เขาไม่ได้ก๊อปของคุณไปทั้งหมด เขาแค่เอาไอเดียคุณไป พวกนี้เขามีขุมกำลังพร้อมสรรพ ทั้งเงินทุน ทั้งฝ่ายวิจัยและพัฒนาสินค้า พอเห็นสินค้านิดเดียว อีกไม่นานเขาก็ผลิตสินค้า ที่คล้ายของเราออกมาขายได้แล้ว เผลอๆ จะดีกว่าด้วยซ้ำ ฉะนั้นต้องเตรียมตัวให้มากก่อนลงสนาม…มากๆ

6.) อิงนิยาย ( เข้าให้ถูกช่องทาง )
    เรื่องจริงไม่อิงนิยายธุรกิจทำเงินที่ใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายของเจ้าใหญ่ในตลาด โดยอาศัยความช่วยเหลือ ที่เจ้าตลาดเป็นผู้สนับสนุนอย่างเต็มใจ

    อย่างเช่น….โครงการประกวดนวัตกรรม ของร้านค้าปลีกรายใหญ่เจ้าหนึ่ง ผู้ที่ชนะจากโครงการนี้จะได้รับโอกาสให้เอาสินค้าเข้าไปขาย ในร้านของเขาทั้งหมด

    ตัวอย่างเมื่อไม่นานนี้…มีผู้ที่ชนะเลิศ ประเภทเครื่องสำอางท่านหนึ่ง ได้รับโอกาสให้เอาสินค้าที่ประกวดชนะไปขายในร้านของเขาทั้งหมดได้ แต่ด้วยทุนน้อยมาก เธอคนนี้จะต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์เอง ซึ่งก็ต้องแก้แล้วแก้อีก แต่ทางร้านค้าปลีกรายใหญ่…เขาก็พยายามช่วยบอกทิศทางที่ถูกต้อง จนแก้ไขได้สำเร็จ

    ส่วนตัวสินค้าก็ต้องไปจ้างเขาผลิต เธอเล่าว่า…สินค้าล็อตแรกยังต้องไปส่งด้วยตัวเองเลย จนพนักงานที่โกดังรับสินค้ายังไม่เชื่อว่าเป็นเจ้าของเลย เพราะมีแต่รายใหญ่ๆ ที่ได้เข้าไปขายทั้งนั้น แต่พอเมื่อได้เข้าไปขายแล้ว ยอดขายก็เดินดีมาก ตอนนี้ยอดขายแตะร้อยล้านบาทเช่นกัน

7.) ขายมาก กำไรน้อย , กำไรน้อย แต่ได้ใจลูกค้ามาก
    “ธุรกิจทำเงินในรูปแบบนี้ “ต้องใจถึง” หมายถึง…ต้องเข้าถึงใจลูกค้า ในเคสนี้ ขอยกให้กับ “หมูทอดเจ๊จง” ไปเลยครับ เจ๊จง..เคยเล่าว่า ในตอนแรกๆ ไม่ได้ขายหมูทอด แต่ขายอาหารตามสั่ง ขายไปก็ไม่ค่อยเหลือ เงินทุนจะเอาไปซื้อของมาขายในแต่ละวันยังไม่มี

    จำได้ว่า…บ้างวันลูกค้าให้ทุนไปซื้อ เพื่อจะมาทำอาหารขาย เรียกว่า…ขายวันต่อวัน “ทุนก็หมด-หนี้ก็บาน” จนเริ่มกินเหล้า เริ่มหมดกำลังใจ ถึงขั้นคิดค่าตัวตาย…แต่เคราะห์ยังดี ความคิดถึงลูกยังมีอยู่ ถ้าตายไปแล้วลูกจะอยู่ยัง

    คิดใหม่…ขอสู้อีกครั้ง ด้วยความใจใหญ่ ใจถึง-สไตล์คนมีน้ำใจ ใครมีอะไร…ก็คอยช่วยเหลือเขาทั้งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะมี จึงเป็นที่รักของทุกคน รวมไปถึงเจ้าหนี้ด้วย เจ๊จงเริ่มด้วยไปขอปรับโครงสร้างหนี้ ขอจ่ายแต่ต้น-ไม่ขอจ่ายดอกเบี้ยแล้ว เพราะที่จ่ายไปก็มากพอดูแล้ว เจ้าหนี้ก็ยอม…ทั้งไม่เคยยอมใครมาก่อน [ เริ่มแก้ไปหนึ่งเปาะ ]

    หันกลับมาขายข้าวแกงอีกครั้ง…ซึ่งก็ยังออกมาอีแบบเดิม “ขาดทุนอยู่ดี หรือถ้าเหลือ ก็น้อยมาก” ต้องหาหมูปิ้งมาขายตอนเช้า ก็พอได้เพิ่มบ้าง..

    จนเริ่มมาขายหมูทอด…แบบให้เยอะ เติ่มผักได้ มีน้ำพริก มีกล้วยน้ำว้าบริการฟรี ช่วงแรกๆ ก็ยังไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง แต่พอผ่านเดือนแรกไป เอ๊ะ…เริ่มขายดี มีเมสเซนเจอร์มาซื้อทีละ 50 ห่อบ้าง , 100 ห่อบ้าง คนเริ่มมายืนต่อคิวรอซื้อช่วงกลางวันแถวยาวเยียด โดยเฉพาะพนักงาน สร้างยอดขายอย่างที่เจ๊จงไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน จากเงินไม่ค่อยเหลือ เอ๊ะ…กลับมีเงินซื้อทองเก็บ เงินใช้หนี้จนหมด

     เคล็ดลับไม่มีอะไรมาก “ขายของดี ให้เขาเยอะ ขายให้ได้มากๆ เดี๋ยวเหลือกำไรเอง” จาก 1 สาขา ก็เพิ่มเป็น 2 เป็น 3 เป็น 4 สาขา ปัจจุบันยอดขายทั้งหมดกี่ล้านแล้วก็ไม่รู้…ครับ





Advertisements

8.) 3 ชิ้น 100 บาท
    “ธุรกิจทำเงินในกลยุทธ์ที่แปด ใช้ราคาเป็นตัวพลิกผันธุรกิจ ตัวอย่างนี้…ได้แก่ “ประภากร ไชยมาตร และธนวัต ถ้วนสมบูรณ์” แห่งแบรนด์ Sweet’n Soft Cake เค้ก 3 ชิ้น…ร้อย ในตอนแรกที่เริ่มขายเค้ก ก็เริ่มขายตามตลาดนัดออฟฟิศ แรกๆ ขายชิ้นละ 45-55บาท ก็ขายดี-มีกำไร แต่ขายได้ไปซะระยะ เริ่มมีคนมาทำขายเหมือนกันเลย แต่ดันขายราคาถูกกว่า

     ทำให้…ไม่สามารถขายได้เลย จะลดราคาก็กลัวได้กำไรน้อย จะไม่คุ้มทุนเอา ปรึกษากันอยู่นาน จึงตัดสินใจลดราคา แต่จะไม่ลดคุณภาพมากเกินไป ด้วยราคา “3 ชิ้น 100 บาท” ซึ่งถือว่าถูกมากในตอนนั้น ปรากฏว่าขายดี ขายได้มากกว่าเดิม แถมยังมีคนมาติดต่อรับไปขายอีก

    ทั้งสองคนเห็นช่องทาง… จึงผันธุรกิจมาขายส่ง เร่งพัฒนาการผลิต จนผลิตได้วันละ 10,000 ก้อน/วัน ขายกันระเบิดเถิดเทิง สร้างยอดขายหลักร้อยล้านบาทต่อปี

9.) ชุมชนออนไลน์ (niche market )
    “ธุรกิจทำเงินในรูปแบบที่.9 ที่ใช้ไม้เด็ด…คือ สร้างสังคมออนไลน์ โดยเริ่มจากกลุ่มที่เฉพาะเจาะจง (niche market ) กลุ่มที่มีความชอบอะไรเหมือนๆกัน จนขยายใหญ่มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก ก็เริ่มทำเงินได้อย่างมากมาย ในไม้เด็ดนี้ มีตัวอย่างเยอะเลย

    ตัวอย่างเช่น….คุณจีน – จีราภัสร์ อริยบุรุษ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ jeban เว็บไซต์เกี่ยวกับความสวย-ความงาม ของคุณผู้หญิง เริ่มแรกคุณจีน ไม่ได้คิดถึงเรื่องการเปิดเว็บไซต์ เพียงแต่ไปรีวิววิธีแต่งหน้า step by step ในเว็บไซต์พันทิพ คุณจีนถือเป็นคนแรกๆ ที่ทำรีวิวลักษณะนี้ ในช่วงนั้น

    พอเริ่มมีคนตามมาก และถามเรื่องการแต่งหน้ามากขึ้น จึงเริ่มคิดมาเปิดเว็บไซต์ เพื่อรวบรวมการรีวิวทั้งหมดให้เป็นหมวดหมู่ และยังเปิดพื้นที่ให้แฟนๆ มารีวิวเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้หญิงได้ด้วย ทำให้มีคนเข้าเว็บ 10 ล้านวิว/เดือน สร้างรายได้จากสปอนเซอร์มากมาย

10.) ทำต้นทุนให้ถูกกว่า ( เล่นแบบนี้ตรูอยากตาย )
    สำหรับธุรกิจทำเงินในรูปแบบนี้…ใช้ ต้นทุนราคา…มาเป็นอาวุธในการต่อสู้ ซึ่งพวกยักษ์ใหญ่เขาทำกัน ยักษ์เล็กๆ…อย่างเราๆ ฟังไว้เป็นความรู้ก็พอ ว่า…เขาเล่นกันแรงขนาดนี้เลยหรือ

    ในการทำให้ต้นทุนถูกกว่า มาได้จากหลายวิธี ที่เห็นได้ชัด คือ…เรื่องการผลิต ตัวอย่างเครื่องดื่มเจ้าหนึ่ง ทีบอกว่า…เครื่องจักรชุดใหม่ เป็นเครื่องที่มีกำลังการผลิตมากกว่า คู่แข่งเกือบ 50 % ทำให้เขาสามารถผลิตได้ถูกกว่า 50 สตางค์/ขวด หากให้ลดราคามาสู้กันแล้ว ยังไงเขาก็ยังมีกำไรมากกว่าคู่แข่ง 50 สตางค์/ขวดสู้ได้สบาย

    หรืออย่าง…ผู้ผลิตรายเล็กๆ ที่ยอมกำไรน้อยหรือถึงขั้นยอมขาดทุนในช่วงแรกๆ เพื่อสร้างยอดขายปริมาณมากๆ หลังจากนั้นจะได้สั่งซื้อราคาวัตถุดิบที่ถูกลงนั่นเอง

11.) สร้างสื่อสารเป็นของตนเอง
    “ธุรกิจทำเงินใน..case…นี้ ใช้ไม้เด็ดในการพิชิตตลาด ด้วยการสร้างช่องทางสื่อสารขึ้นมาเอง คือ…การเปิดสถานีวิทยุท้องถิ่น แล้วจัดรายการให้ความรู้ ไปยังกลุ่มเป้าหมายของสินค้าตนเอง

    ซึ่ง…สินค้าคือน้ำเห็ดเพื่อสุขภาพ เป็นการจัดรายการเกี่ยวกับสุขภาพของผู้สูงอายุ กลุ่มรักสุขภาพ แล้วจึงค่อยเสนอสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ปัจจุบันมียอดขายกว่า 500 ล้านบาทต่อปี

12.) ซื้อลิขสิทธิ์
     “ธุรกิจทำเงินที่ใช้การซื้อลิขสิทธิ์ (license) ก็สามารถทำเงินได้ไม่น้อยเลย ทั้งการซื้อลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนฮีโร่จากต่างประเทศ , ทั้งการลิขสิทธิ์มาสเตอร์แบรนด์มาทำในไทย ( พวกกลุ่มอาหาร )

    ตัวอย่างเช่น…power7 ที่เป็นผู้ผลิตเสื้อยืดสกรีนธรรมดา จนมาซื้อลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนฮีโร่ เพื่อมาสกรีนบนเสื้อยืดของตนเอง ออกขายแต่เพียงผู้เดียว ทำให้มียอดขายเป็นหลักร้อยล้านบาทเหมือนกัน

    หรืออย่างเช่น….คุณวราภรณ์ ช้างศิลา (ไบเล่ย์) กรรมผู้จัดการ บริษัท ซี แอนด์ ซี บิสิเนส (ประเทศไทย) จำกัด เรียนจบด้านบัญชี และเริ่มทำงานด้านบัญชี ทำงานนานอยู่นาน 5 ปี เจอวิกฤตต้มยำกุ้ง จึงถูกเลิกจ้าง ต้องหันมาขายของตามตลาดนัดแถวสีลม เริ่มจากขายเสื้อผ้ามือสอง ช่วงแรกๆ ก็พอขายได้ ระยะหลังๆคนเริ่มตกงานกันเยอะ ทำให้ขายไม่ค่อยดี จึงต้องหาอย่างอื่นมาขาย

     คุณไบเลย์…หันไปรับเสื้อยืดลายโดเรมอน จากบริษัทแห่งหนึ่งมาทดลองขาย ปรากฏว่าขายดีมาก ก็เริ่มหันมาขายเสื้อยืดลายโดเรมอน จนเห็นช่องทาง…ได้เข้าไปขอกับบริษัท เพื่อขอผลิตผ้าขนลายโดเรมอน โดยที่คุณไบเลย์ขอเป็นตัวผู้แทนแต่ผู้เดียว ทำให้ถึงจุดเปลี่ยน…จากผู้ค้ารายย่อย กลายเป็นผู้ค้าส่งรายใหญ่ และก้าวมาได้ถึงปัจจุบัน

     สำหรับ เคล็ดลับ ของธุรกิจทำเงินนั้นยังมีอีกมาย เพราะในเรื่องการทำธุรกิจไม่ยึดติดตายตัว นวัตกรรมใหม่ๆในเชิงธุรกิจยังถูกใช้ โดยที่ยังไม่ถูกเปิดเผย โดยเฉพาะพี่ยักษ์ทั้งเลย ทั้งหมดที่กล่าวมานี้…หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย “ในเมื่อชีวิตยังมีลมหายใจอยู่…การต่อสู้ในครั้งนี้ ก็ยังมีโอกาสอยู่เสมอ” จงหายใจ..และ…หายใจ

เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
ไม่อนุญาต “คัดลอก” รวมถึงในกรณี ที่จะใส่ลิ้งค์กลับ ก็ไม่อนุญาต เช่นกันนะครับ
อนุญาตให้ “แชร์” ได้ครับ
ขอบคุณครับ

 

copyright

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.