9 คุณสมบัติ “พิเศษ” ในการ “ออกแบบโลโก้” ต้องมี..

9 คุณสมบัติ “พิเศษ” ในการ “ออกแบบโลโก้” ต้องมี..

โลโก้ ทำหน้าที่ยังไง..
โลโก้  มีประโยชน์กับธุรกิจเราแค่ไหน…
ทำไม… ธุรกิจของเราต้องมี Logo ด้วย
แล้ว…จะรู้ได้อย่างไร…ว่า “โลโก้” อันไหน..ดี-ไม่ดี

     คำถาม.. มากมาย ที่ต้องหาคำตอบ เพราะ Logo สำคัญมาก.. เป็นสื่อแทนความเป็นตัวตนของเรา , สินค้าของเรา ที่จะไปติดอยู่ทุกที ในทุกอณูของธุรกิจของเราก็ว่าได้..เช่น นามบัตร , หีบห่อสินค้า , กระดาษเช็ดปาก , ใบโปสเตอร์ , จาน-ช้อน , แก้ว-ถ้วยกาแฟ , บนหัวเอกสารต่างๆ

    นับเป็นด่านแรก.. ที่โลโก้จะทำหน้าที่พบปะลูกค้าแทนเรา เปรียบเสมือนหญิงสาวนักประชาสัมพันธ์ ที่คอยทำความรู้จักกับลูกค้าก่อนเรา แล้วเราอยากได้…พนักงานสาว แบบไหนกันหล่ะ… “สาวสวย+พูดจาเก่ง+บอกเล่าเรื่องราวได้” หรือ “สาวโก๊ะๆ+ที่ถามอะไรก็ไม่ตอบซักคำ” >>> “การ ออกแบบโลโก้” <<< จึงสำคัญ…

Advertisements

    เพื่อนๆ หลายคน… คงกำลังตั้งคำถามว่า… “ก็ฉันไม่ได้เรียนด้านศิลปะ…จะออกแบบได้ไง”[จะบ้าหรือ] ถึงเราไม่ได้เรียน แต่เราก็ต้องไปจ้างเขาทำอยู่ดีครับ พวกที่เขา “รับออกแบบโลโก้” ไงครับ , ทำให้เราต้องมาเรียนรู้ “คุณสมบัติพิเศษ ที่ LOGO ที่ดี..ควรมี” ไปเริ่มเลยดีกว่า…

1.) ออกแบบโลโก้ “ต้องจดจำง่าย & รวดเร็ว”
    ลองคิดเล่นๆ ดูนะครับว่า…ถ้าโลโก้เปรียบเหมือนหญิงสาวที่กำลังรอรถ , รอรับความช่วยเหลือ ระหว่างทาง-ริมถนน , ที่มีรถแต่ละคันวิ่งด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง , อะไรที่จะทำให้คนขับหยุดรับผู้หญิงคนนี้ได้.. โลโก้ก็ไม่ต่างกันเท่าไร ต้องดึงดูด-น่าสนใจ ทำให้คล้อยหลังตามให้ได้…
    นั่นทำให้เราต้องรู้ถึง “กระบวนการจดจำของมนุษย์” มนุษย์เรามีกระบวนการในการจดจำที่ไล่ลำดับจาก

สี >>> รูปทรง >>> ข้อความ

ตัวอย่างของสี
ถ้าเห็นสีเหล่านี้ จะนึกถึงโลโก้ของธนาคารใดบ้าง

 
คลิ๊กที่ภาพ…ไปดูเฉลยซิว่า  เป็นโลโก้ธนาคารไหนบ้าง

ตัวอย่างของ รูปทรง
เรียบง่าย , มีเอกลักษณ์ , จดจำง่าย ถ้าเห็นรูปทรง เหล่านี้ จะนึกถึงโลโก้ของบริษัทบ้าง

คลิ๊กที่ภาพ…ไปดูเฉลยซิว่า  เป็นโลโก้ของบริษัทใดบ้าง

    ส่วนข้อความจะเป็นลำดับสุดท้ายที่มนุษย์จะรับรู้และจดจำ แต่ทั้ง 3 อย่างมี ข้อดี-ข้อด้อย ต่างกัน การจะเลือก “ออกแบบโลโก้” จึงต้องเลือกใช้ ให้ถูกต้องตรงกับความต้องการของเราด้วย แล้วจะรู้ได้อย่างไร… ไปลุยต่อข้อถัดไปกันเลยครับ

2.) ออกแบบโลโก้ “ต้องเลือกประเภทก่อน”
    เมื่อรู้แล้วว่า…มนุษย์จดจำยังไง เราก็มาเลือกรูปแบบของ Logo กันเลยครับ , โลโก้ โดยปกติจะมีอยู่ 3 รูปแบบ และมีจุดประสงค์ในการสื่อสารกับมนุษย์ต่างกันออกไป ดังนี้

 

2.1.) โลโก้ : รูปภาพ
ข้อดี: สื่อสารได้รวดเร็ว หากรู้แล้วว่าธุรกิจเราคืออะไร เมื่อเห็นครั้งต่อไปก็จะจำได้ทันที
ข้อเสีย: ต้องใช้งบประชาสัมพันธ์จำนวนมาก เพื่อให้รู้ก่อนว่า โลโก้นี้คือของบริษัทอะไร ดังตัวอย่างในรูป(ด้านบน) ถ้าเราไม่รู้มาก่อนว่า รูปแอปเปิ้ลที่เห็นเป็นโลโก้ของบริษัทมือถือ เราอาจคิดว่า…เป็นโลโก้ร้านขายผลไม้ก็ได้

2.2.) โลโก้ : ตัวอักษร
ข้อดี: บ่งบอกไปเลย…ว่าชื่อยี่ห้ออะไร
ข้อเสีย: ความสวยงามจะลดลงไป

2.3.) โลโก้ : รูปภาพ+ตัวหนังสือ
ข้อดี: รู้ว่า…ชื่อยี่ห้ออะไร , และมีความสวยงามดี
ข้อเสีย: มันดูเยอะเกิน..

ที่นี้เราต้องมาเลือกแล้วว่า…จะ “ออกแบบโลโก้” เป็นรูปแบบไหน…
    -หากทุนเยอะๆ อยากให้คนจำแล้ว เห็นอีกทีก็จำได้เลย..ก็เลือกข้อ.2.1
    -หากทุนไม่มาก อยากให้คนรู้ชื่อก่อน ไม่เน้นความงามมาก..ก็เลือกข้อ.2.2
    -หากทุนไม่มาก แต่อยากได้ทั้งความสวยงาม และรู้จักชื่อได้ทันที..ก็เลือกข้อ.2.3 (แต่ระวังอย่าให้ดูเยอะเกินไป)

3.) ออกแบบโลโก้ “ต้องรู้..ขาว-ดำ ได้”
    “เริ่มสนุกแล้วใช่ไหมครับ…อย่างพึ่งเหนื่อยน่ะ”
    คุณสมบัติข้อที่สามนี้ ต้องลองทำดูเลย.. “ออกแบบโลโก้” ต้องลองทำเป็นสีดำด้วย และดูว่าจากที่โลโก้เป็นสีๆ เมื่อทำเป็นสีดำแล้วยังดูดีอยู่ไหม ออกดูรู้เรื่องไหม…ว่าเป็นโลโก้อะไร , เพราะหากเรานำไปทำเป็นตราพิมพ์ , หรืองานปักษ์บนปกเสื้อ ก็ยังดูรู้อยู่หรือไม่…ว่าเป็นโลโก้อะไร คุณสมบัตินี้จึงขาดไม่ได้เลย

โลโก้ Facebook : ไม่ว่าจะย่อ-ขยาย หรือเปลี่ยนเป็นสีดำ ก็ยังดูรู้เรื่อง

4.) ออกแบบโลโก้ “ต้องย่อ-ขยาย ได้”
    เมื่อได้โลโก้มาแล้ว ลองทำแบบใหญ่ และทำแบบเล็กๆ ดูซิว่า…เมื่อมีขนาดเล็กๆ แล้วยังพอมองออกหรือเปล่า บ้างที..โลโก้ที่ใส่รายละเอียดมากเกินไป พอย่อให้มีขนาดเล็กลงมา เมื่อมองดู….จะดูไม่รู้เรื่องเลยว่า… คืออะไร

5.) ออกแบบโลโก้ “ต้องเล่าเรื่องได้”
     โลโก้ ที่ดี…ต้องมีเรื่องเล่า การมี story บอกที่มา-ที่ไปของแบรนด์ได้ ถือเป็น..เสน่ห์ ที่น่าจดจำ หากโลโก้สามารถเล่าเรื่องได้…ยิ่งเพิ่มมูลค่าได้ขึ้นอีกมาก เช่น โลโก้ของเชลล์ ที่มีมากว่าร้อยปี ถือกำนิดจาก “มาร์คัส ซามูเอล” ที่ใช้โลโก้ตัวนี้เพื่อการจัดจำหน่ายน้ำมันก๊าซ ซึ่งธุรกิจก่อนหน้านี้ของเขาจำหน่ายวัตถุโบราณและเปลือกหอย จึงเริ่มใช้ “หอยแมลงภู่” เป็นโลโก้ตั้งแต่ปี 1901 และยังพัฒนาต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

6.) ออกแบบโลโก้ “ต้องไม่เกิน 3 สี”
    Logo ที่ดี…ควรใช้สีไม่มาก 1-2 สี , แต่ไม่ควรเกิน 3 สี โดยส่วนใหญ่มักจะใช้กัน 2 สี , อย่างมากไม่เกิน 3 สี หากมากกว่านั้นจะทำให้ดูเยอะ อาจไม่ชัดเจน อยากที่จะทำให้คนจดจำ เพราะอย่างลืมว่า…สิ่งแรกที่มนุษย์จดจำก่อนก็คือ..สี
    [2 สี] ใน 1 Logo ต้องมีสีนำหนึ่งสี…คือ สัดส่วนของการใช้สี เช่น 70:30
    [3 สี] ใน 1 Logo ต้องมีสีพื้นหนึ่งสี….คือ สัดส่วนของการใช้สี เช่น 60:30:10 เป็นต้น

7.) ออกแบบโลโก้ “ต้องเป็นสากล”
ออกแบบโลโก้ ควรมีทั้งชื่อภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ความเป็นสากล ดังตัวอย่างตามภาพ

8.) ออกแบบโลโก้ “ต้องมี…ชื่อที่ดี”
หากเพื่อนคนไหนตัวสินใจ “ออกแบบโลโก้” ที่มีชื่อเป็นส่วนประกอบแล้ว ต้องหาชื่อที่ดี…มีคุณสมบัติดังนี้
     – ชื่อต้องสั้น 1-3 พยางค์
     – ชื่อที่มีความหมาย
     – ชื่อที่บอกเรื่องราว
     – ชื่อเป็นคำเฉพาะ-ไม่เป็นคำสามัญที่ใช้ทั่วไป
ชื่อสินค้าที่อยู่ในโลโก้ของเรา ควรมีคุณสมบัติดังที่กล่าวมา

9.) ออกแบบโลโก้ “ต้องจดลิขสิทธิ์ได้”
สุดท้ายแล้ว…  เมื่อได้ โลโก้ ที่สำเร็จแล้ว…ต้องจดเครื่องหมายการค้าได้ด้วย โดยสามารถไปแจ้งขอจดที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ หรือผ่านเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th โดยมี 7 ขั้นตอนดังนี้
    1. การตรวจค้น
    2. การยื่นคำขอจดทะเบียน
    3. การตรวจสอบเบื้องต้น
    4. การตรวจสอบเครื่องหมายการค้า
    5. การประกาศโฆษณา
    6. การคัดค้าน
    7. การรับจดทะเบียน

Advertisements

    สำหรับเรื่องการ “ออกแบบโลโก้” นั้นถือเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน… ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นคนทำเอง แต่เราก็ควรรู้ไว้บ้าง…ว่า โลโก้ที่ดี..ควรมีคุณสมบัติเช่นไร หวังว่าบทความที่เขียนมานี้ คงจะมีประโยชน์อยู่บ้าง นิดๆ-หน่อยๆ ก็ถือว่ายังดี เผื่อเพื่อนๆ จะได้เอาไว้ไปคุยงานกับผู้รับจ้างออกแบบโลโก้ได้

“ ถ้าดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจ ”
“ โลโก้ คงเปรียบไป…ก็เหมือนประตูบานแรก…ของธุรกิจเรา”

เขียนโดย : Goomâiróo Goomua’ao 
ลิขสิทธิ์โดย : ทำเลขายของ.com
ไม่อนุญาต “คัดลอก” รวมถึงในกรณี ที่จะใส่ลิ้งค์กลับ ก็ไม่อนุญาต เช่นกันนะครับ
อนุญาตให้ “แชร์” ได้ครับ
ขอบคุณครับ