จาก.. นายสิบ สู่.. ผู้ชายขายเค้ก [ 14 Day รักนี้เพื่อ “ร้านเค้กในฝัน” ]

Posted on มกราคม 23, 2016 by administrator in ธุรกิจ SME น่าสนใจ, ธุรกิจขนม, ธุรกิจเบเกอรี่ // 2 Comments

จาก.. นายสิบ สู่.. ผู้ชายขายเค้ก [ 14 Day รักนี้เพื่อ “ร้านเค้กในฝัน” ]

เมื่อผู้หญิงคนหนึ่ง…อยากเรียนทำขนม >>> ผู้ชายอีกคน.. ก็ไปรับ-ไปส่ง ให้…

จาก 1 วัน.. เป็น 2 วัน.. >>> จากไปรับ-ไปส่ง >>> กลับกลายเป็นหลงรัก..ความหอมของขนมเค้กซะงั้น…

จุดเริ่มต้น… ของ ผู้ชายขายเค้ก “จึงบังเกิดขึ้น”

เรื่องราวความชอบ กับ การสร้างฝันในสิ่งที่ตนเองรัก และอาชีพที่ต้องเลือกเดิน บนเส้นทางชีวิต…ประสบการณ์ของลูกผู้ชาย โจทย์สุดท้าย ที่วัดใจก่อนเปิดร้านเค้กในฝัน… บทชีวิตที่น่าติดตาม… ไปเริ่มกันเลยครับ..

ชีวิต… ภาคสนาม

จุดเริ่มต้น ของ ฝ้าย กับ เฟิร์ส

ผู้หญิงคนหนึ่ง เรียนและทำงานเป็น “นางพยาบาล” , ผู้ชายอีกคน เรียนจบแล้วไปเป็น “นายสิบตำรวจ”

คุณฝ้าย ( ศิริรุ้ง รอบรู้ ) จบพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , ส่วนคุณเฟิร์ส (เอกวิทย์ เบ็จจะญาติ) จบนักเรียนนายสิบตำรวจ และทำงานเป็นตำรวจ

ชีวิตคู่ ก็ไม่ต่างไปจากคู่อื่นๆ เมื่อเรียนจบก็ทำงาน พยายามเก็บสะสม เพื่อสร้างอนาคต… ที่สวยงาม

จากความแข็งแกร่ง.. สู่ความอ่อนโยน (คุณเฟิร์ส)

“เอ๊ะ แล้วไง ถึง…มาทำร้านขนมเค้ก ได้”

เหตุ…จาก คุณฝ้ายอยากทำขนม จึงไปหาที่เรียนทำขนม โดยเลือกเรียนทำขนมเค้ก เป็นอย่างแรก ที่ไปเรียนก็ไม่ใช่ สถาบันโด่งดังอะไร เป็นเพียงแค่คนบ้านทั่วไป เขาเปิดสอน… ก็ไปสมัครเรียนกับเขา

โดยมีคุณเฟิร์ส ไปรับ-ไปส่ง ตลอด… เวลาที่คุณฝ้ายเรียน คุณเฟิร์ส ก็นั่งสังเกตุการณ์ไปเลย แรกๆ คุณเฟิร์สไม่ได้คิดอะไรมาก ก็แค่ให้คุณฝ้ายทำในสิ่งที่รัก แต่ดูไป-ดูมา มันก็ไม่ยากนี่… แถมหอมน่ากินอีกต่างหาก ทำออกมาน่าจะอร่อย..

พอกลับมาถึงบ้าน…คุณเฟิร์ส ก็ช่วยคุณฝ้ายทำขนมด้วย หลังๆ คนที่ขับรถพาไปเรียน กับชอบทำขนมเสียเอง จนเริ่มเข้าขั้น “อร่อย”

ผู้ชักนำเข้าสู่…วงการ ขนมเค้ก , และผู้ยืนเคียงข้าง ตลอดมา… (คุณฝ้าย)

ครั้งแรก ของการทำขนมเค้ก

จนที่สุด… คนที่ทำขนมเค้กมากขึ้น กับมาเป็นคุณเฟิร์ส คุณเฟิร์ส เล่าว่า… ครั้งแรกที่ทำขนมเค้ก ออกมานั้น มันไม่ได้เป็นอย่างที่ไปเรียนมา ต้องใช้เวลาเรียนรู้กับการทำอยู่พักใหญ่ เพราะขนมเค้ก ก็เหมือน “งานศิลปะ บวกกับ วิทยาศาสตร์”

“ความงาม กับ การทดลอง” เราต้องประสาน ทั้งสองตัวแปรนี้ให้ลงตัว ทั้งเรื่องไฟ , อุณหภูมิ , ความเข้าใจ-ในอุปกรณ์ โดยเฉพาะเตาอบขนม ต้องเรียนรู้จักนิสัยเขาซักพักใหญ่ เมื่อรู้อารมณ์เตา การกำหนดอุณหภูมิ ก็ไม่ยากเกินไป

ในงานด้านศิลปะ ก็ต้องมีการฝึกฝน และพัฒนา เพราะหน้าตาขนม ที่สวยงาม.. จะเป็นจุดดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี…

Advertisements

ลองฝีมือ… ด้วยการช่วยจากคุณฝ้าย

เมื่อ…เข้าขั้นขีดสุด มันต้องลองของ.. คุณเฟิร์ส จึงทำขนมเค้กไปลองขาย โดยการขายครั้งแรก คือ ทำไปขายที่ทำงานของคุณฝ้าย ,

เริ่มจาก…ให้ลองชิม จนเริ่มมีออร์เดอร์ คุณเฟิร์สเป็นคนทำ ส่วนคุณฝ้ายก็รับหน้าที่เอาไปขายที่ทำงาน ขายดีขึ้นเลยๆ จนแน่ใจแล้ว ว่าขนมอร่อยถูกปากลูกค้า

หลักๆ…ของขนมเค้ก ที่คุณเฟิร์สทำมาขายนั้น จะเน้นเรื่อง “ความสดใหม่” ทำแล้วขายเลย ถ้าทิ้งไว้หลายวัน ขนมจะไม่ค่อยอร่อย

ช่วงนี้…คุณเฟิร์สยังทำงานตำรวจ และ ทำขนมเป็นอาชีพเสริมไปด้วย

ตัดสินใจ..ออกจากตำรวจ

คุณเฟิร์ส..ลาออกจากตำรวจ เพื่อมาหาเส้นทางเดินใหม่… ประสบการณ์ใหม่ๆ ในรูปแบบการขายของ ที่มีเข้ามาให้เรียนรู้ ความอดทด , ความอดกลั่น , ความพยายาม , การแก้ปัญหา เป็นสิ่งที่คุณเฟิร์สต้องเจอในช่วงนี้…

ครั้งแรก…ของการขายเค้ก ตั้งโต๊ะ ขายบริเวณซอยข้างๆ หอพัก

ขายที่… แรก ซอยข้างหอพัก

เมื่อ… ขายแบบ ตามออร์เดอร์ไปได้บ้างแล้ว… คราวนี้ มันต้องลงสนามจริง คุณเฟิร์ส…เลยหาที่ขาย เพื่อขายแบบ “มือถึงมือ” เริ่มจากที่ขายของใกล้ๆที่พัก

ซึ่งที่…คุณเฟิร์ส ดูไว้ คือ ซอยข้างๆ หอพัก ,หรือ ซอยวัดไผ่ตัน(สะพานควาย) ซอยเล็กๆ พอมีคนผ่านไป-ผ่านมา แต่ว่าจะไปติดต่อใคร เริ่มต้นยังไง..

“ด้วยความใจสู้… และ กล้าๆ เข้าไว้”

คุณเฟิร์ส…ไม่คิดอะไรมาก ไปลุยที่หน้างานเลยดีกว่า ว่าแล้ว…ก็หาที่ว่างๆ ตั้งโต๊ะ-วางขนมขายเลย ผลปรากฎว่า…ที่ตรงนี้ ไม่ได้เสียค่าเช่าที่ พ่อค้า-แม่ค้า เขาก็ช่วยๆกัน แนะนำให้ว่าจะต้องทำยังบ้าง…

ขายตรงนี้ได้ 1 เดือน เศษ , ผลตอบรับถือโอเคทีเดียวเลย เลยคิดการใหญ่… ถ้าเราไปขายทำเลดีกว่านี้ มันน่าจะขายได้มากขึ้นแน่ >>> มุ่งสู่ตลาดนัด…

บันได ขั้นที่ 2 .. ตลาดนัดกระทรวงการคลัง [ บทเรียนแรก ]

   หลังจาก…ลาออก ก็เริ่มไปหาที่ขายของ จากสถานที่แรก ที่ไปขาย คือ ซอยข้างหอพัก คราวนี้ เริ่มไปบุกทำเล ประเภทตลาดนัดบ้าง เพื่อทำยอดขายให้มากว่าเดิม คุณเฟิร์ส เล่งไปที่ ตลาดนัดกระทรวงการคลัง เพราะว่า…
     1.) ใกล้ที่พัก เดินทางไม่กี่นาที ก็ถึง ,
     2.) ตลาดนัดกระทรวงการคลัง เป็นตลาดที่มีชื่อเสียง มีลูกค้าราชการเยอะ น่าจะขายดีมาก

แต่ช้าก่อน…จะไปขายตลาดนัดกระทรวงการคลัง ใช่ว่าจะไปขายได้เลย คุณเฟิร์สเล่าว่า… ต้องไปติดต่อ..หาตัวคนจัด แจ้งว่าจะไปลองขายขนมเค้ก จนพี่คนจัดบอกขายได้ แต่เป็นล็อคขายจร ต้องรอหมุนที่ว่างลงเอา

คุณเฟิร์ส…ไม่เกี่ยง ไปรอลงล็อค ตั้งแต่ตี 3 , จนมีที่ลงขาย , โดยเอาขนมเค้กปอนด์ แบบแบ่งชิ้นไปขาย ขายชิ้นละ 35 บาท , 3 ชิ้น/ ร้อย

แต่ทุกอย่างผิดคลาด… ขายได้-ไม่นาน ก็ต้องหาที่ขายใหม่ เพราะขนมอยู่ได้ไม่นาน ไม่เหมาะกับอากาศ และลูกค้าส่วนใหญ่-จะเป็นลูกค้าวัยกลางคน จะเน้นสุขภาพกันมาก ขนมเค้กจึงขายอยากหน่อย

แต่ทำให้ได้เรียนรู้ว่า…กลุ่มลูกค้า ของสินค้าเรา ควรมีลักษณะเป็นอย่างไร…

มุ่งหน้า…หาทำเล นักศึกษา

   คุณเฟิร์ส..ยังลุยต่อ คราวนี้ คิดจะเปิดร้าน โดยเน้นกลุ่มลูกค้าเป็นนักศึกษา และเลือกไปที U-village ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต โดยมีเหตุผลดังนี้
     1.) กลุ่มลูกค้าเป็น นักศึกษา ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังมีการหมุนเข้า-มาใหม่ ของนักศึกษาในแต่ละปี
     2.) เป็นสถานที่ศึกษาเดิมของคุณฝ้าย ทำให้มีเพื่อน-ที่รู้จักกันเยอะ น่าจะเป็นฐานลูกค้าแรกได้ไม่ยาก
     3.) U-village ตั้งอยู่ในบริเวณทางออกของมหาวิทยาลัย ใกล้กับนักศึกษามาก และจังหวะมีห้องว่างพอดี แต่ต้องทำการบ้านอย่าหนัก

สภาพแรก…ก่อนตกแต่ง

จะขายใน U-village ต้องส่งแบบ รอว่าผ่านหรือเปล่า..

กว่าจะได้…เปิดร้าน โดยเฉพาะร้านแรก นี้ไม่ง่ายเลย… คุณเฟิร์ส…เล่าว่า เมื่อได้ติดต่อ กับ โครงการแล้ว ต้องส่งแบบให้เขาตรวจดูก่อนว่าโอเคไหม รูปแบบร้าน,รูปแบบภายในร้าน,งานไฟฟ้า โอ้…มาริโก้ จะรู้เรื่องไหมเนี่ย…

ด้วยเงินทุน…ยังไม่มาก ต้องใช้อย่างระมัดระวัง คุณเฟิร์สตัดสินใจ ออกแบบเอง เขียนแบบคราวๆ โดยหาความรู้…จาก อาจารย์กูเกิล, และอาจารย์ที่ปรึกษาพันทิพ ใช้เวลา 1 วัน , แบบร่างก็เสร็จเรียบร้อย ( ทั้งนี้เป็นเพราะ รูปร่างร้านมันอยู่ในสมอง ก่อนหน้าแล้ว เหลือแค่กลั่นออกมาเป็นแบบเท่านั้น )

ใช้เวลาอีก 2 วัน โครงการก็เรียกไปสัญญา ให้เริ่มเข้ามาตกแต่งได้เลย…

เขียนเอง…มันซะเลย” (ฝีมือนายสิบตำรวจ)

เงินทุน 100,000 บาท มันจะพอหรือ…

การเปิดร้านครั้งนี้… คุณเฟิร์สและคุณฝ้าย ตั้งงบไว้ 100,000 บาท โดนค่าทำสัญญา ก็ปาไป 37,000 บาท แล้ว , แต่ที่น่าสนใจ คือ งานด้านตกแต่งร้าน

     ทั้งสองคน…ลงความเห็นว่า จะทำกันเอง…ไม่จ้างช่าง สิ่งนี้น่าจะช่วยประหยัดไปได้เยอะ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้น เพราะใช้เงินซื้อวัสดุ ในงานส่วนตกแต่งร้านไป 38,000 บาท เท่านั้น ดังนี้
    1.) งานทาสี ประมาณ 4,000 บาท
    2.) งานไฟ ประมาณ 5,000 บาท
    3.) งานไม้บิ้วอิน (โต๊ะบาร์ เคาเตอร์ ชั้นวางของด้านหลัง) 13,850 บาท
    4.) งานตกแต่ง 11,400 บาท
5.) ซื้อชุดโต้ะนั่ง 3 ชุด & เก้าอี้บาร์ 3,750 บาท
6.) ค่าแรง ฟรี ( ทำกันสองคน )( ถึงมีบิลมาเก็บก็ไม่จ่าย 555 )

ซื้อของเอง.. หาวัสดุ ราคาไม่แพง ,บิลค่าของ ชักเริ่มเยอะแล้วนะ

เคลียร์พื้นที่…ทำความสะอาด ก่อนลงมือลุย…

ใช้เวลา 14 วัน … ร้านเค้กในฝันก็เสร็จ สวยงาม…

จากการรีวิวของ…คุณฝ้าย

Day 1
เริ่มด้วยการทาสีผนังด้านในห้องทั้งหมดให้เป็นสีขาว ทาๆไปเรื่อยๆโดยไม่มีหลักการใดๆทั้งนั้น ให้มันออกมาเป็นสีขาวก็เป็นอันว่า “พอ”

Day 2-5
เดินสายไฟในร้าน ตามแปลนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ใส่ safety cut แล้วก็ใส่พัดลมระบายอากาศ (ไม่ไหวๆ อากาศร้อนมาก ต้องต่อไฟอย่างด่วนขอพัดลมให้นู๋ที -_- )

Day 6
เราไปหาซื้อไม้กันค่ะ จะเอามาทำโต๊ะบาร์ โต๊ะเคาเตอร์ ชั้นวางของด้านหลัง เดินเข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ เข้าออกๆ หลายร้านมากจนไปเจอร้านที่ถูกใจ พนักงานขาย พูดจาดี ไม่มีเหวี่ยง

เพราะก่อนหน้านี้แวะเข้าไปดูบริษัทขายไม้แห่งหนึ่ง พนังงานพูดจาแย่มาก หรือเพราะเราสองคนแต่งตัวเหมือนต่างด้าวหนีเข้าเมืองมากัน นะ 55555 พอได้ไม้มาก็ลงมือทำโครงโต๊ะเก็บของด้านหลังก่อนเลย แต่ได้แค่โครงนะ ทำต่อไม่ไหว ดึกละ 55555

Day 7
เราไปหาซื้อไม้มาเพิ่มเนื่องจากเมื่อวานซื้อมาไม่พอ แต่บังเอิญไปเจอร้านขายเฟอร์นิเจอ คนขายพูดจาดี (อีกละ) เลยได้สอยเก้าอี้บาร์มาเลยจ้า 555 พอได้เก้าอี้บาร์มา พอกลับมาถึงที่ร้านก็เลยทำโต๊ะบาร์กันก่อนเลยจ้า ตู้เก็บของไว้ทีหลัง พี่เห่อของใหม่จ้า พอทำโต๊ะบาร์เสร็จ ก็ทำโต๊ะเคาเตอร์ด้วยเลย ชั้นวางของรอพี่ก่อนนะน้องงงงง 555555

Day 8
มามะๆชั้นวางของ พี่มาหาน้องแว้ววววว 555 ไม่น้อยใจพี่เนาะ พี่จะจัดการน้องวันนี้แหละ มาเป็นของพี่เถอะน้อง เอ้ยยยยย ม่ายช่ายแระ วันนี้เราก็ทำชั้นวางของจนเสร็จ ต่อซิ้งค์ล้างจาน เย่เย้ๆ มีน้ำใช้ในร้านที อ้าววว ยัง ยังไม่ได้ต่อท่อ!!! และแล้ววันนี้เราก็ทำงานไม้เสร็จกันซะที

Day 9
วันนี้ทิ้งให้น้องตุ้ดทำร้านต่ออยู่คนเดียว นางอยู่คนเดียวนางก็ทำได้นะเออ วันนี้ได้ตู้วางของด้านบนมาด้วยแหละ ได้เพิ่มมาอย่างเดียว ก็ไม่เป็นไรเนาะ นางทำอยู่คนเดียวเลยทั้งวัน

Day 10
วันนี้เราจะมาเป็นช่างทาสีกันค่ะ ท่านผู้โช้มมมมมมม ทาไม้กันเถอะ ทาไม้กันเถอะ เริ่มจากใช้กระดาษทรายขัดๆ ขัดจนเรียบเนียน แล้วก็ทายูริเทน (อันนี้เราก็หาความรู้จากในพันทิปนี้แหละ บอกเลยไม่มีความรู้มาก่อนเลยสักกะอย่างเดียว) แทบจะเป็นลม จนจะกลายเป็นเด็กติดยา แสบจมูกไปหมด แต่ก็เสร็จจนได้นะ ฮี่ๆๆๆ

Day 11
วันนี้เราทำบ้านให้เตาอบ พระเอกของบ้านค่า และเราก็ทำบ้านให้ตู้เย็นด้วย พอทำๆไป ก็เก็ทไอเดียใหม่ๆ เพิ่มมาจาแบบที่ว่าไว้ ได้ชั้นวางของบนหลังตู้เย็นเพิ่ม ได้ชั้นวางของด้านข้างตู้เย็นเพิ่มมาอีก ฮ่าๆๆๆ ( ไม้เริ่มเหลือ เอามาใช้ประโยชน์ให้มากถึงมากที่สุด)

Day 12
ทาสีชั้นวางของและตู้ด้านหลังให้เป็นสีขาวทั้งหมด หลังจากทาสีเสร็จเราก็ปูแกรนิตโต้เพื่อ ใช้พื้นที่ตรงนี้ ในการจัดเตรียมทำเค้ก

ปรากฏว่า แกรนิตที่ซื้อมามันดันใหญ่กว่าพื้นที่ของเรา แต่เราไม่มีอุปกรณ์ตัดเลย ทำไงดีๆๆ ขับรถตระเวนตามตึกที่เค้ากำลังก่อสร้างเลยค่ะ พอเจอเราก็กระโดดลงรถไป ขอคุณลุงช่างกระเบื้องคนนึงที่เค้ากำลังปูกระเบื้องอยู่ ให้เค้าช่วยตัดให้ เค้าใจดีมากๆๆๆๆ ช่วยตัดให้เราฟรีไม่คิดตังเลย เสียใจที่ไม่ได้ถามชื่อมา แต่ใจดีเว่อๆ

Day 13
ตู้เค้กที่สั่งไว้จะมาส่งวันนี้ค่ะ เราก็จัดการปูหญ้าเทียมรอเลยค่ะ พอเค้ามาก็จะได้ยกลงวางเลยพอดี พอลงตู้เค้กได้สักพัก ช่างเน็ตก็มาค่ะคุณขา พอช่างๆกลับไป เราก็ไปหาซื้อชุดโต๊ะ และอุปกรณ์แต่งสวนมาเพิ่มค่ะ

แต่บังเอิญน้องตุ๊ดเดินไปเห็นอุปกรณ์ทำน้ำพุ นางก็ไม่รีรอ.. จัดมาโดยฉับพลัน พอซื้อของเสร็จเราก็เอามาจัดๆ..เรียงๆ.. ให้สวยงาม “ตามแบบ(ในหัวของนาง)” และแล้ววันนี้ก็เกือบจะเสร็จสมบูรณ์ ภูมิใจจุงเบย…

Day 14
แพลนไว้ว่าวันพรุ่งนี้เราจะเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ทั้งหมด ให้ทุกอย่างดูสวยงาม แล้วจะมาลงรูปตอนเสร็จสมบูรณ์แล้วให้ดูกันนะคะ

ในร้านเล็กๆ ก็มีสวนน้อยๆ…นะค่ะ

บาร์สวยๆ…ผนังงามๆ คนขายหล่อ ผู้ช่วยน่ารัก.. (มีความสุขเหละ)

“ร้านเค้กในฝัน….ของสองเรา”

ทุกวัน เริ่มตั้งแต่ 11 โมง – 5 ทุ่ม

ร้านเปิดมาได้…ยังไม่ถึง 10 วัน คุณเฟิร์สยังเดินทางไปถึงร้านตั้งแต่ 11 โมง , เตรียมจัดร้าน ทำความสะอาด ทำขนมเค้กเพิ่ม เพื่อเตรียมเปิดขายตอนบ่าย 3 โมง , ขายไปเลยๆ จนถึง 4 ทุ่ม กว่าจะได้กลับก็ประมาณ 5 ทุ่ม ทำทุกอย่างด้วยความรัก มีความสุขกับสิ่งที่ทำ เดินตามไล่ฝันให้สุดๆ…