ลาออก..มาเปิดร้านเสื้อ ที่เอเชียธีค ด้วยเงินเดือนก้อนสุดท้าย (วันนี้ยอดขายหลักแสน)
ลาออก..มาเปิดร้านเสื้อ ที่เอเชียธีค ด้วยเงินเดือนก้อนสุดท้าย (วันนี้ยอดขายหลักแสน)
หากย้อนไป…เมื่อ 3 ปี ที่แล้ว..
มีผู้ชายคนหนึ่ง…ตัดสินใจ “ลาออก” เพื่อมุ่งหน้า…เดินตามฝัน
เปลี่ยนชีวิตประจำวัน…ที่นั่งโต๊ะ ทำงานหน้าคอม แล้วมาขายของ
วันนี้…เขาทำยอดขายหลักแสนบาท เขาทำได้…ยังไง ไปติดตามกันครับ
3 ปี ที่แล้ว..
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว คุณนพดล คล้ายแก้ว หนุ่มวิศวะ ดีกรี เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สาขาคอมพิวเตอร์แอนนิเมชั่นและเกม ยังไม่ทันจบ ก็ได้งานทำ เป็นงานด้านเขียนโปรแกรม ตามที่เรียนมา
ได้เงินเดือนประมาณ 18,000 บาท ทำงานมาเกือบ 1 ปี เงินเดือนก็ขึ้นมาเป็น 21,000 บาท ตลอด 1 ปี , ที่ผ่านไป..ต้องอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่งเขียนโค๊ดทั้งวัน
พอมีเวลาก็จะชวนเพื่อน ไปเปิดท้ายขายของ หาแนวร่วมมาลงทุน ทำเป็นงานอดิเรก เพราะฝันอยากมีร้านเล็กๆ เป็นของตัวเอง ,มีร้านเสื้อผ้าในแบรนด์ของตัวเอง อาจเป็นเพราะชอบที่จะดีไซน์การแต่งตัว รู้สึกสนุกเมื่อได้จับโน้นผสมนี่
จน…ถึงขีดสุด จึงตัดสินใจลาออก มาลองทำงานที่ฝันดูซักตั้ง จะหมู่-จะจ่า ก็วัดๆ กันไป…เลย ถึงจะล้มไม่เป็นท่า…แต่ก็ได้ขึ้นชื่อว่า… ก็ได้ลองทำ
เงินเดือนก้อนสุดท้าย 21,000
ระหว่างรอเวลาถึงสิ้นเดือน… ที่จะต้องออกจากบริษัท ผมก็หาร้าน , หาทำเล ที่คิดว่า…มันโอเคกับผม คือ ไม่ต้องเก็บร้านเยอะ ใกล้บ้าน ผมเลยได้มาลงที่เอเชียทีค เพราะใกล้บ้านสุด ( ปล.บ้านผมอยู่ฝั่งธนฯ )
ผมลาออกมาด้วยเงินเดือนก้อนสุดท้าย 21,000 บาท ซึ่งมันไม่พอที่จะเปิดร้าน ก็เลยไปหยิบยืม จากคนรู้จัก รวมๆกันแล้ว ได้ประมาณ 5 หมื่น รวมกับเงินของผมก็เป็น 7 หมื่น ไม่รู้จะพอหรือเปล่า.. ( แต่ยังไงเดินหน้ามาแล้ว-ถอยกลับไม่ได้แล้ว)
ผมเช่าช่วงร้านต่อจากพี่อีกคนหนึ่ง ติดต่อไว้ในราคา 15,000 พอตอนไปคุย ขอต่อพี่เค้าอีกหน่อย พี่เขาเลยลดให้เหลือ 12,000 บาท
ต้องจ่ายค่ามัดจำ 2 เดือน และ ล่วงหน้า 1 เดือน รวม 36,000 บาท
เท่ากับผมเหลือเงิน 70,000 – 36,000 = 34,000
ยังโชคดี ที่ร้านเดิมเค้าปูพื้นไว้ให้ดี และมีชั้นมาให้ สีผนังก็เป็นสีขาวพื้น ๆ สะอาดตา ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย ลดตั้นทุนในการตกแต่งร้านไปได้เยอะ
ตกแต่งร้านแบบประหยัด..
ทำทุกอย่างเองหมด ทั้งทาสีเจาะผนัง ทุกอย่างไม่ได้จ้างช่างเลย มีแต่เพื่อน ๆ พยายามประหยัดที่สุด เงินที่เหลือ จะได้เอาไปซื้อเสื้อผ้ามาขาย นี่คือภาพร้านวันแรกที่มีของมาลง
ขายแบบไม่ค่อยรู้
ช่วงแรก ๆ ที่เปิดร้าน ผมอาศัยวิธี “ซื้อมา-ขายไป” ใช้เงินแบบประหยัดมาก เพราะไม่เคยค้าขาย ไม่รู้ว่า..ต้องเก็บเงิน-แบ่งยังไง อะไรยังไง พอขายได้…ก็เอาเงินไปซื้อของมาเพิ่มอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
ซื้อของมาขายบ้าง-ซื้อของมาตกแต่งบ้าง เงินเหลือก็เอามาทำร้าน ปรับร้านไปเรื่อย… แล้วก็…เริ่มทยอยใช้หนี้ จนหมดในเวลาไม่กี่เดือน หลังจากนั้นก็ชิลละซิ แต่ก็เหนื่อย่าดู…
ความสนุกของการเปิดร้าน
เปิดร้านอยู่ที่นี่ ก็มีเพื่อนมาหากันเกือบทุกวัน สังสรรค์ในร้านบ้าง ( ร้านเล็กๆ กับ ความสุขล้นๆ ) , เพื่อนเยอะก็ดีไปอย่าง… เฮฮาไป-ขายไป
ที่เอเชียธีท ลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นต่างชาติทั้งนั้นเลย ผลพลอยได้ ก็คือ ได้ฝึกภาษา คุยกันสนุกหนาน กับลูกค้าต่าง snack-fish-fish กันไป… ช่วงนั้นขายสนุกมากๆๆๆ
อยากทำ แบรนด์เสื้อผ้า เป็นตัวเอง
ซื้อมา-ขายไป จนเริ่มเก็บเงินได้ ก้อนหนึ่ง เลยอยากทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง
แต่ก็ไม่รู้ว่า…จะเริ่มหาช่างจากที่ไหน ก็เริ่มจากคนที่รู้จักกันก่อนนี่หล่ะครับ ที่แนะนำให้บ้าง ผมหาในอินเทอร์เน็ตบ้าง จนได้ช่างที่ตัดเย็บ ผมก็จ้างเขาตัดเย็บมาตลอด แต่เขาก็มักจะเกี่ยงงานผม เพราะงานผมน้อย เพราะไม่ได้ทำเยอะเป็นพันตัว ทำที..ก็แค่ร้อยกว่าตัว แถมคละแบบอีกต่างหาก บางงาน-ดองไว้ครึ่งปีกว่าจะเสร็จ แต่ก็ต้องอดทนเอา ทำไงได้-ทุนเรามันน้อย
จักรตัวแรก…
เวลาที่…ผมไปบ้านช่าง ชอบถามเขา เรื่องการเย็บ-แบบโน่นแบบนี้ มันเลยเกิดแรงบันดาลใจ ให้ผมซื้อจักรตัวแรก จักรตัวเล็กๆ ซื้อในห้าง-ตัวไม่กี่พันบาท
ซื้อมาโดย…ที่ยังใช้ไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่ก็…เริ่มจาก ไปซื้อผ้า มาหัดเย็บเล่นๆ ไปก่อน , ค่อยๆ-ฝึก ค่อยๆ-ลองใช้, ไปเลยๆ
กระเป๋าแรก..
ผลงานชิ้นแรก.. “กระเป๋าผ้า”
ง่อยมาก ออกมาแบบไม่สวยเลย ฝึกเย็บไป…ก็แจกคนโน้นที-คนนี้ที ยังไม่ได้เอามาขาย
พอเริ่มจับทางได้แล้ว ก็เริ่มเย็บมาขายหน้าร้านเลย ขายได้ด้วยเฮะ ก็เลย…หัดเย็บมาเรื่อยๆ จากใส่ซับในไม่เป็น ก็เริ่มฝึกจาก Youtube เนี้ยแหละครับ ฝึกใส่ซิบ แซงรักดุม ฯลฯ
ตอนนี้เย็บกระเป๋ามาขายได้หลายแบบแล้วครับ
Advertisements
ตอนนี้…เริ่มขยายงาน เพิ่มสินค้ามากขึ้น
ปัจจุบัน…ผ่านไปเกือบ 3 ปี , คุณดลยังพัฒนาร้านของเขาอย่างต่อเนื่อง ออกโปรดักส์ใหม่มาเพิ่มอยู่เลยๆ ทั้งเสื้อผ้า correction ที่แบรนด์ของตัวเอง , กระเป๋า , กางเกง มีอีกหลาย item ตามความต้องการของลูกค้า
ยังเริ่ม…วิ่งเข้าหาลูกค้า ด้วยการไปออกงานอีเว้นท์ ต่างๆ อย่างเช่น ARTBOX AT THE EM DISTRICT , Cheeze carbootsale ลำตะคลอง , งาน Gambol x cheeze market at Central plaza khonkaen
จนตอนนี้ คุณดล…ทำยอดขาย หลักแสนบาทต่อเดือน นับเป็นความสำเร็จไปอีกขั้น…
ไปขายที่ ARTBOX AT THE EM DISTRICT
Cheeze carbootsale ลำตะคลอง
งาน Gambol x cheeze market at Central plaza khonkaen
หน้าร้านปัจุบัน ที่ เอเชียธีค
ถ้ากลับไปได้…ก็ลาออกเหมือนเดิน
ถ้าย้อนกลับไปได้ก็ ลาออกเหมือนเดิมครับ เพราะคุ้มค่ามาก ผมได้อะไรใหม่ๆ เยอะเลย รวมถึงผลตอบแทนที่ดีขึ้น คิดๆ แล้ว ยัง…ได้มากกว่าเงินเดือน ที่ผมเคยทำ
ได้ทำอะไรใหม่ๆ ประสบการใหม่ๆ ออกแบบเสื้อผ้าที่แบรนด์ตัวเอง ได้ลองใช้ไอเดียของตัวเองอย่างเต็มที ได้แก้ปัญหา..ทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องการผลิต เพราะช่างบางคนทำงานไม่โอเค เราก็ต้องหาต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่อยปรับปรุงกันไป
Advertisements
การลาออก…เพื่อทำบ้างอย่าง ที่ไม่รู้อนาคตข้างหน้า ว่าจะเป็นอย่างไร… มันคงตัดสินใจยากมาก…พอดู แต่สุดท้าย…แล้ว คงต้องอยู่ที่ตัวเราเอง ว่าเราชอบงานแบบไหน “งานประจำ หรือ งานอิสระ” ซึ่งแต่ละคนก็มีความชอบที่ต่างกันไป
“งานประจำ หรือ ธุรกิจส่วนตัว” สำคัญที่สุด คือ “ความรักที่จะทำ” เพื่อนๆ จะทำอะไรก็ได้…แต่ขอให้ทำ ในสิ่งที่เรารักที่สุด… เพราะสุดท้าย… คนที่จะอยู่กับงานนั้น ก็คือ “ตัวเราเอง”
……………………………………………………..
เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
(ข้อมูลลิขสิทธ์จากสัมภาษณ์ คุณนพดล คล้ายแก้ว
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2559
โดยทีมงาน www.ทำเลขายของ.com )
ไม่อนุญาต “คัดลอก” รวมถึงในกรณี ที่จะใส่ลิ้งค์กลับ ก็ไม่อนุญาต เช่นกันนะครับ
อนุญาตให้ “แชร์” ได้ครับ
ขอบคุณครับ
สามารถติดตาม “Jack A Dandy Shop” ได้ที่
ข้อมูลธุริจ
ชื่อธุรกิจ : Jack A Dandy Shop
ชื่อเจ้าของธุรกิจ : คุณนพดล คล้ายแก้ว
ที่อยู่ : Asiatique the river front Warehouse 7 trok 4 room 7016
tel : 085-058-7312
LINE ID : NADOL_K
IG : JACKADANDYSHOP
FB: Jack A Dandy Shop
(https://www.facebook.com/JackADandyShop/)
Leave a comment