[น่ากินสุดๆ] “ทาโกะยากิลูกหมึกยักษ์” เปิดตัว 7 เดือน ดังไกลถึงไต้หวัน..

Posted on มิถุนายน 13, 2016 by administrator in ธุรกิจ SME น่าสนใจ, ธุรกิจร้านอาหาร // 0 Comments

[น่ากินสุดๆ] “ทาโกะยากิลูกหมึกยักษ์” เปิดตัว 7 เดือน ดังไกลถึงไต้หวัน..

คิดอะไรไม่ออก.. เอะอ่ะ… ก็ขายของกินซิ ง่ายดี… มีคนซื้อชัวร์
เลยมีแต่ร้านขายของกิน.. เต็มไปหมด…
แต่ขายของกินไม่ง่ายนะครับ…
ถ้าสังเกตให้ดี…10 ร้าน จะขายดีแค่ 1-2 ร้านเท่านั้น
ทำไม…นั่นหรือครับ
ก็มีแต่คนคิดว่า… “มันง่าย” เลยพากันมาเจ๊งซิครับ

จงอย่าคิดว่า… “ขายของกิน….มันง่าย” เพราะมันยากสุดๆ กว่าจะทำให้ขายดี เป็นที่รู้จักได้ “ไม่หมู” วันนี้ทางทีมงานเว็บไซต์ ทำเลขายของ.com จะพาไปดูอีกเส้นทำธุรกิจ แบบโหดๆ..ที่กว่าจะมาเป็น “ทาโกะยากิลูกหมึกยักษ์” จนมีคนรู้จักนั้น..ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ไปรับรสชาติของชีวิตกันได้เลยครับบ..

คุณต้น (ชาลินทร์ สกุลเพชรถาวร)

คุณนุ้ย(วรางคณา คล่องยุทธ)

2 หุ้นส่วน จากพนักงานประจำ สู่..เส้นทางฝันของตัวเอง

ร้านเล็กๆ ที่เกิดจาก คุณนุ้ย(วรางคณา คล่องยุทธ) และ คุณต้น (ชาลินทร์ สกุลเพชรถาวร) ทั้งสองคนทำงานที่โรงแรม Hard Rock หลังจากเรียนจบใหม่ๆ

คุณนุ้ยทำที่ Hard Rock ได้ 1 ปี ก็ลาออกมาเป็นนักร้อง มีวงของตัวเอง ทำงานได้พักใหญ่ๆ ก็แต่งงานมีลูก หลังจากนั้นก็มาเป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษอยู่อีกเกือบปี

ระหว่างนั้น…คุณต้น ก็ยังทำงานที่ Hard Rock อีกพักใหญ่ พอเริ่มมีทุน..ก็ตัดสินใจเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น ด้วยเพราะคุณต้นเคยทำงานร้านอาหารญี่ปุ่น มาตั้งแต่ก่อนเราจะมาเจอกัน ที่ร้าน Yokoso เจ้าของร้านเป็นชาวญี่ปุ่นแท้ๆ ปัจจุบันตั้งอยู่ย่านลาดพร้าววังหิน ซึ่งเจ้าของร้านเปรียบเสมือนครูคนหนึ่งของคุณต้นเลยก็ว่าได้…

เปิดร้านครั้งแรก เป็นร้านน็อคดาวน์เล็กๆ

เปิดร้านครั้งแรกที่พัทยาค่ะ ชื่อเดิมคือ “มาซากิ” เป็นร้านน็อคดาวน์เล็กๆ มีครัวตรงกลางและมีโต๊ะล้อมรอบครัว ตั้งอยู่พัทยาสายสอง ช่วงนั้นคุณนุ้ยกำลังมีน้อง พอคลอดก็เลยต้องปิดร้านนั้นไปก่อน

เปิดร้านอีกครั้ง…

พอมีทุนก้อนใหม่นุ้ยกับต้นก็เปิดร้านอีกครั้ง ที่บางแสน ติดกับม.บูรพา คราวนี้..เราขายอาหารญี่ปุ่นแนวฟิวชั่นเป็นหลัก ชื่อร้าน “Bloc26th Cafe’ and restaurant” ร้านนี้ขายดีมาก แต่มานับเงินแล้วไม่คุ้มเหนื่อย เพราะขายของที่มีต้นทุนสูง แต่ไม่สามารถปรับราคาขายให้สูงตามต้นทุน เพราะทำเลตรงนี้มันเป็นเมืองนักศึกษาอ่ะค่ะ

ตอนนั้น..ขายได้กำไรมาก็เหมือนเท่าทุน ไม่มีเหลือเก็บ มีแต่ค่าใช้จ่ายสูง ค่าร้าน , ค่ารถ , ค่าลูกน้อง, ค่าคอนโด, ค่าน้ำ-ไฟ แถมลูกชายอีก 1 คน กำลังใกล้วัยเข้าโรงเรียนและซนมาก นุ้ยเลี้ยงเองและทำงานไปด้วย สุดท้ายไม่ไหว แม่ก็เป็นห่วงหลานเพราะเราไม่มีเวลา ก็เลยประกาศเซ้ง ซึ่งผู้เซ้งก็ใช้ชื่อร้านเราอยู่พักนึงแต่เปลี่ยนมาขายสเต๊กแทนค่ะ

จุดเริ่มต้นไอเดีย

ไอเดียนี้ มาจากญี่ปุ่นค่ะ เราไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มเป็นเจ้าแรกในโลก แต่เป็นเจ้าแรกในไทย ตอนนั้นเห็นภาพทางอินเตอร์เนทค่ะ เห็นแล้วบอกต้นเลยว่าอยากทำ อุปกรณ์มีครบ เราไปหาหมึกแบบนี้กันเถอะ มันต้องปังแน่ๆ

ออกอีเวนท์ ยังไม่ถึงปี

พอทุกอย่างเริ่มลงตัวเราก็…ออกขายงานอีเว้น ช่วงแรกยังใช้ชื่อร้านเดิม แต่ลูค้าบางคนสับสนว่า..เป็นร้านเดียวกันกับที่ขายเสต๊กอยู่บางแสนหรือเปล่า? ปัจจุบันก็เลยเปลี่ยนเป็น “Bloc 26th Takoyaki”ค่ะ

ออกงานอีเวนท์ใน กทม. จะครบปีในเดือน พ.ย. 59 นี้แล้วค่ะ ร้านประจำกำลังมีแพลนค่ะ แต่ส่วนมากออกงานแถบสุขุมวิท มีโซนอื่นๆบ้างแล้วแต่ งานไหนน่าสนใจเราก็จะไปค่ะ แต่เคยไปไกลสุด คือ หัวหิน

ขายได้มากสุดกี่ชุด

สำหรับ “ทาโกะยากิ ลูกหมึกยักษ์” (babyoctopus takoyaki) ของที่ร้าน “Bloc 26th Takoyaki” เคยขายได้มากที่สุด 300 ชุด ตอนงานอีเว้นท์ที่ทองหล่อค่ะ ของที่ร้านเราจะทั้งหมด 3 ขนาด คือ S/M/L , ราคา
– ไซต์ S : 3 ลูก 90 บาท
– ไซต์ M : 5 ลูก 150 บาท
– ไซต์ L : 10 ลูก 280 บาท

หมึกใหญ่ ดูสดมากๆ ตัวใหญ่ ไซต์ก็ใกล้เคียงกัน , เอาวัตถุดิบมาจากไหนครับ แล้วมีพอกับความต้องการไหมครับ

นี่แหละค่ะงานหินของเรา นุ้ยมีพ่อเป็นชาวประมงค่ะ ที่เรียกกันว่า “ไต้ก๋ง” แต่เรือพ่อไม่ได้ไดหมึกนะคะ พ่อแนะนำแหล่งวัตถุดิบมาค่ะ บางครั้งเราต้องขับรถมารับหมึกฝั่งตะวันออก บางครั้งก็พื้นที่อื่นบ้าง และการรับอาหารทะเลมักเป็นช่วงกลางดึก แบบตี 3 อะไรอย่างงี้

กว่าจะได้มันมาบอกเลยว่าเหนื่อยและยากมาก สายพันธุ์ที่ใช้หายาก แล้วยังต้องคัดไซส์ ยังต้องคอยดูฤดูกาลของมัน ไหนจะช่วงที่ของขาด ,ราคายังมีขี้น-ลง แต่ร้านเรายังคงต้องตั้งราคาขายคงที่ เก็บรักษาก็ยาก ขนย้ายลำบาก หนัก กลิ่นแรง ทุกคนที่ทำงานร้านนี้จะมีกลิ่นที่เป็นซิกเนเจอร์ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปทุกคนค่ะ 555

ต้องปรับงานอยู่ซักพักใหญ่ จนลงตัว…เราจึงได้วัตถุดิบที่สด-ใหม่อยู่ตลอด “ถือเป็นหัวใจของการทำอาหารเลยค่ะ”

รายการ i-walker จากไต้หวัน มาถ่ายร้านของเราค่ะ ขอบคุณมากๆ

ผลตอบรับลูกค้าเป็นอย่างไรบ้างครับ

ลูกค้าตอบรับสองแบบค่ะ คือ ชอบมาก และ ไม่ชอบเลยก็มีค่ะ ไม่มีตรงกลางเลยค่ะ ใครชอบมากก็จะตามทุกงานจนจำหน้าได้ คนไม่ค่อยชอยก็มีบ่นบ้าง ทำอาหารคงทำให้ทุกคนชอบยาก 10 คน ให้ชอบได้ซัก 6 คน นุ้ยถือว่าโอเคอยู่ค่ะ ส่วนกลุ่มลูกค้ามีหลายกลุ่มค่ะ

1.) อย่างชาวไทยนี่ขายกลุ่มหลักๆอยู่แล้ว ใครถูกใจเค้าก็ตามทุกงาน จนมีลูกค้าประจำ ถึงแม้ไม่มีหน้าร้าน

2.) ชาวจีน ไต้หวัน,ฮ่องกง จะคลั่งไคล้ร้านเรามาก เหมือนมีคนบ้านเค้าเอาไปลงเว็บ แล้วก็เคยมีรายการของไต้หวันเคยติดต่อมาถ่ายรายการที่ร้าน พอเค้าเห็นชื่อร้านเค้าก็จะฟินมาก เลยค่ะ

3.) ส่วนคนญี่ปุ่นจะเข้ามาขำๆถ่ายรูปแล้วผ่านไป มีน้อยที่ลองซื้อกินพอติดใจก็เรียกเพื่อนมา แต่เราเข้าใจในความชาตินิยมของเค้าค่ะ ลองคิดเหมือนถ้าเราเห็นฝรั่งตำส้มตำปลาร้าขาย เราคงไม่ค่อยเชื่อว่ามันจะโอเค เลยเป็นหนึ่งกลุ่มที่เข้าถึงยาก

4.) ฝรั่ง น้อยที่สุดค่ะ นานๆเจอที

ที่มาของสูตรเด็ด “ทาโกะยากิลูกหมึกยักษ์”

เรื่องสูตรต้องยกความดีความชอบให้คุณต้นเลยค่ะ เค้ามีทักษะมา แต่เค้าก็มีต้นแบบกรรมวิธีในสูตรออริจินัลมาจาก “คุณคิมมี่” เจ้าของร้านYokoso ค่ะ

แต่ปัจจุบันสูตรของเราต่างจากเดิมมาก เรานำเอาคอมเม้นต์ของลูกค้ามาปรับใหม่ทั้งหมดค่ะ เรื่องหลักๆเลยที่ปรับไป คือ แป้งสูตรดั้งเดิมนั้น…ตัวหมึกจะไม่ติดแป้งเลย เป็นปัญหา ทำให้ไม่สวยงาม

เราก็พยายามปรับมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นสูตรปัจจุบันนี้ กลายเป็นเอกลักษณ์ไปเลย ยังคงมีความออริจินัลอยู่ 60%

บางคนบอกหมึกใหญ่แล้วเลี่ยน เราก็มีซอสสูตรเผ็ดให้เลือกด้วย เป็นอีกสูตร Signature มันเป็นทาโกะยากิที่มีความแตกต่าง

บางที…ก็มีคอมเม้นต์ มาว่ามันไม่เหมือนทาโกะยากิ ในมุมของเราต้องการไม่เหมือนใครอยู่แล้วค่ะ นุ้ยกลับมองว่านี่มันคือ “จุดขายของเรา” ซึ่งก็อย่างที่บอกทำอาหาร 10 คน มีคนชอบซัก 6 คน ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังพัฒนาต่อนะค่ะ ทำอาหารหยุดพัฒนาไม่ได้ค่ะ

เปิดร้านมา 7 เดือน เป็นบ้างครับ

ดีมากเลยค่ะ แต่เหนื่อยสุดๆ ต้องหาวัตถุดิบสดใหม่ ให้พอกับความต้องการของลูกค้าค่ะ ต้องยกเตา ยกถังแก้ส ยกหมึก 50-70 โลต่อวัน ขับรถวิ่งรับของ คือ ของที่ร้านวัตถุดิบมาจากหลายที่ ถ้าไปแมคโครแล้ว…ซื้อทุกอย่างจบได้ก็ดี แต่ร้านเรามันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ หลายสิ่งมาก-มาจากหลายที่ แต่ทุกครั้งที่ลูกค้า แล้วบอกว่า “อร่อย” ฟินเลยค่ะ

Leave a comment ยกเลิกการตอบ