กระเพราซาวห้า แจ้งเกิดธุรกิจบัตรคิว ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

Posted on พฤศจิกายน 6, 2018 by administrator in ธุรกิจ SME น่าสนใจ, ธุรกิจร้านอาหาร // 0 Comments

กระเพราซาวห้า แจ้งเกิดธุรกิจบัตรคิว ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

เสียงโป้งเป้ง…ดังเป็นจังหวะ เสมือนเสียงดนตรีสายล็อก ที่กำลังแผดเสียงอย่างมัวมัน มาพร้อมกับกลิ่นหอมใบกระเพราและกลิ่นพริกกระเทียมอันเร่าร้อน จากไฟแดงๆ ที่ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา ตะหลิวที่สะบัดกวัดไกวอยู่ในกระทะ เป็นลีลาเรียกลูกค้าเข้าร้านได้อย่างต่อเนื่อง…

จากธุรกิจร้านเล็กๆ ในรูปแบบร้านที่ขายกระเพราราดข้าวเพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำยอดขายอย่างมากในแต่ละวัน ขายหมดเพียงในเวลา 2 ชั่งโมง เท่านั้น เขามีดีอะไร…กันแน่ ถึงขายดิบขายดีขนาดนั้น เพียงในเวลาไม่นานก็ขยายสาขาไปกว่า 10 สาขา เราไปดูที่มาของธุรกิจนี้กันเลยครับ

“ของไม่ได้แพง…คนต่างหากที่ขายแพงกันเอง”

จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เกิดจาก…การอยากพิสูจน์แนวคิดที่ว่า “ของไม่ได้แพง…คนต่างหากที่ขายแพงกันเอง” ประโยคที่ออกมาจากท่านนายก ทำให้พี่ตั้ม “พงษ์พนัส มังคละคีรี” ได้คิดถึงใจความสำคัญของการจะทำธุรกิจ ในรูปแบบขายของราคาไม่แพงมาก ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่พี่ตั้มกำลังมองหาธุรกิจใหม่อยู่พอดี

โดยที่พี่ตั้มคิดถึงของที่อยากจะขายเป็นอับดับแรก คือ “กระเพราราดข้าว” ด้วยเหตุผลที่ว่า… “เป็นสิ่งที่ชื่นชอบมาก อีกทั้งก็น่าจะมีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก เป็นเมนูที่เข้าถึงทุกคนได้ง่ายอีกด้วย”

จึงตัดสินใจ…ที่ จะทำเมนูกระเพราราดข้าว โดยคิดไว้ว่า…จะขายในราคา 25 บาท/เท่านั้น

คุณตั้ม “พงษ์พนัส มังคละคีรี”

สาขาแรกที่ขอนแก่น

เมื่อได้จุดมุ่งหมายแล้ว…พี่ตั้มก็เริ่มคิดค้นหาสูตร วิธีการผัด เทคนิคต่างๆ ซึ่ง…พี่ตั้มเล่าว่า “ความสำคัญของการขายของในราคาไม่แพง จุดสำคัญ อยู่ที่เราต้องควบคุมต้นทุนให้ละเอียดชัดเจน” เพราะแน่นอน…กำไรต่อหน่อยนั้น มีไม่มาก อาศัยต้องขายให้ได้จำนวนมากๆ

ความสำคัญอีกประการ คือ ขั้นตอน หมายความว่า การทำกระเพราต้องวางแผน-จัดสรรทุกขั้นตอนอย่างเป็นระบบ เช่น

ขั้นตอนการผัด : เริ่มจากผัดหมูสับแบบไฟกลางด้วยการไม่ใช้น้ำมัน ในลักษณะวนตะหลิวตลอดเวลา จนได้น้ำมันจากหมู และใส่พริกกระเทียม ตามด้วยเครื่อง ผัดจนหอมได้ที่แล้วใส่กระเพรา เพิ่มไฟ วนตะหลิวอย่างเร็วๆ ดับไฟ ตักราดข้าวสวยร้อนๆที่รอไว้ เป็นอันเสร็จขั้นตอน

ซึ่งกระบวนเหล่านี้ ต้องมีช่วงเวลาที่แน่นอน ต้องรู้ระดับความร้อนในแต่ละช่วง ปริมาณของแต่ละอย่างที่ใส่ไป ให้ได้ตามที่กำหนดสูตรไว้ และ สุดท้ายทักษะของคนผัดก็สำคัญ ที่จะต้องทำให้ได้เหมือนเดิมทุกครั้ง

พอสรุป…สูตร และ ขั้นตอนการทำได้แล้ว พี่ตั้มก็ได้เริ่มเปิดสาขาแรกที่ตลาดจอมพลขอนแก่น ใช้เวลาไม่นาน ลูกค้าก็ตอบรับดีมาก เปิดขายในช่วงเย็น เพียง 2 ชั่วโมงก็ขายหมดแล้ว

ถ้าจะขายถูก ต้องเล่นให้เป็น

การเปิดร้านขายแบบกระเพราซาวห้า พี่ตั้ม กล่าวว่า เราต้องรู้หัวใจของธุรกิจคืออะไร และตั้งหลัก จับจุดขายนี้ไว้ให้มั่น กระเพราซาวห้า เริ่มตั้งต้นจากการขายในราคาไม่แพง เพียงห่อละยี่สิบห้าบาท มันเป็นเหมือนด้านแรกที่ดึงดูดลูกค้า ให้ลูกค้ามาทดลองซื้อรับประทาน หลังจากนั้นลูกค้าจะเป็นคนตัดสินเองว่า… สินค้าที่เขาซื้อไป คุ้มค่ากับของที่ได้รับหรือไม่ หากผ่านไปได้ หลังจากนั้นเราต้องคุมต้นทุนให้ต่ำที่สุด

Key ก็คือ “ราคาถูก – คุ้มค่า – คุมราคา” ถ้าสามารถทำ 3 หัวใจนี้ได้ จะขายอะไรก็ขายได้ แต่กว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้มาได้ ต้องผ่านกระบวนการคิดมาอย่างหนักเลย เมื่อถึงเวลาขายจริงต้องตั้งอยู่ในคีย์ของธุรกิจเราให้ได้ ส่วนใหญ่จะไปตายน้ำตื้น เพราะด้วยเหตุหลุดจากคีย์ที่เราตั้งไว้แต่แรก

ขายเมนูเดียว ต้องเด็ด

ในเรื่องการขายของที่เป็นเมนูเดียวอย่าง “กระเพราซาวห้า” ต้องทำให้มีอะไรพิเศษ มีเส่นห์ดูดดึงใจลูกค้า ในส่วนของกระเพราซาวห้า นอกจากราคาและรสชาติแล้ว สิ่งที่เห็นเป็นอันดับแรก ไม่ซิต้องบอกสิ่งที่ได้ยินเป็นอับดับแรก คือ เสียง ตามมาด้วยลีลาในการผัดของมือผัดกระทะ

เสน่ห์ที่ส่งเสียงมาแต่ไกล เมื่อเดินเข้าไปในตลาดนัด และเริ่มเข้าใกล้ร้าน เราจะได้ยินเสียงกระทะที่กระแทกกระทั้นอย่างเมามัน กลิ่นหอมเครื่องพริกขี้หนู-กระเทียม ที่มากระทบจมูก ก็รู้ได้ทันทีว่า….ร้านนี้ขายอะไร

พอเดินมาถึงหน้าร้าน…ก็เห็นลีล่าการผัด ไฟแดงๆ ตะหลิวที่วนอยู่ตลอดเวลา ทำให้อาหารยิ่งดูน่ารับประทานมากๆ เป็นเสน่ห์ที่ดึดดูดใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี “เมนูธรรมดาๆ…จึงไม่ธรรมดา”

ใช้บัตรคิว 2 ชั่วโมงหมดเกลี้ยง

ทั้งเสน่ห์ และ ราคา รวมไปถึงตัวกระเพราเองที่น่ารับประทาน ทำให้ลูกค้ามายืนรอต่อแถวกันตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน บางคนซื้อกันทีหลายสิบห่อ นั่นทำให้ต้องแจกบัตรคิว พอกระทะแรกเสร็จก็เริ่มเรียกคิว ใช้เวลาไม่นาน ก็ขายหมดเกลี้ยงเลย

ขยาย 10 สาขา

ปัจจุบัน….ได้รับ การตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ในสาขาแรกขอนแก่น จึงได้ขยายสาขามาที่กรุงเทพและหัวเมืองต่างๆ เช่น สาขาตลาดจอมพล , สาขาหน้าสดสโม , สาขาตลาดต้นตาล , สาขาหลังมข , สาขาตลาดสายไหม , สาขาตลาดจัมโบ้ , สาขาตลาดยามเย็น , สาขาตลาดต้นสน , ตลาดเปิดท้ายริมทางรถไฟ , สาขาหน้าโรงแรมกิมเจ๊กซิม1 ,สาขาตลาดไนท์เซาะกราว , สาขาตลาดถนอมิตร และเร็วๆนี้ จะมีที่เชียงใหม่ กับ จ.เลย อีกด้วย

ซึ่งมีทั้งร้านสาขาที่บริหารเอง และที่เปิดในรูปแบบแฟรนไชส์ สำหรับแฟรนไชส์ขายอยู่ที่ 25,000 กับ 35,000 บาท