อยากไป “ตลาดนัดกับข้าวตอนเช้า” เริ่มต้นยังไงดี

อยากไป “ตลาดนัดกับข้าวตอนเช้า” เริ่มต้นยังไงดี

    ตลาดนัดกับข้าวตอนเช้า อีกหนึ่งรูปตลาดทำเงินของนักขายของมือใหม่สายตลาดนัด หากเราพูดถึงเรื่องการเริ่มตอนขายของตามตลาดนั้น เพื่อนๆหลายคน คงติดปัญหาด่านแรกกับคำว่า “จะขายอะไรดี” ซึ่งบางคนก็หาวนไปเรื่อยๆ เหมือนชิงช้าสวรรค์ “ขายนั้นก็ดี ขายโน้นก็ดี” จนไม่รู้จะเริ่มยังไง

Advertisements

    เราลองมีโฟกัส ไปตามลักษณะของตลาด กับ ประเภทสินค้า อย่างเช่น เราคิดตัดสินใจแล้วว่า “เราจะขายของกินตอนเช้า” มุ่งหน้าดิ่งตรงไปที่ตลาดนัดกับข้าวตอนเช้า จุดมุ่งหมายสนามเราที่เราต้องการ การตีกรอบก็จะเล็กมาก “นัดกับข้าว” ก็จะรู้ได้เลยว่าเราจะขายอาหารลักษณะใดดี

   กล่าวคือ ตอนเช้า มีอาหารเมนูได้บ้างที่น่าสนใจ และ เข้าวิถีชีวิตของกลุ่มลูกค้าในทำเลตลาดนัดที่เราจะไปลงขายลังเอง อาหารพื้นง่ายๆ เช้ามากมายมี “ปาท่องโก๋ น้ำเตาหู้ ชาร้อน กาแฟ ไข่ลวก โจ๊กหมู แซนวิช ข้าวหมูย่าง ข้าวเหนียวหมูทอด” สารพัดจะมีให้เลือกขาย อ๊ะ อ๊ะ แต่ช้าก่อน… “การขายของตามตลาดนัดในยุคนี้ ต้องมีเคล็ดลับ ไม่งั้น ไม่ได้ขาย” ตามมาอ่านต่อได้เลย…

    เมื่อหาเมนต์หลักของสินค้าที่จะขายได้แล้ว จะเข้าไปขายของในตลาดนัด อาจลงขายไม่ได้นะครับ เพราะด้วยเหตุตลาดนัดในปัจจุบัน เน้นเรื่องคุณภาพตลาดเหมือนกัน “ผู้จัดตลาดนัด หรือ เจ้าของตลาดนัด” แต่ละพื้นที่ก็พยายามปรับปรุงตลาดของตัวเองให้ดีขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น มีความน่าสนใจมากขึ้น จึงมีข้อกำหนดต่างๆ มากมาย สำหรับคนที่ต้องการเข้ามาขายต้องเข้าเกณฑ์กำหนด ถึงสามารถเข้ามาขายของได้

Advertisements

    1 ใน ข้อกำหนดตลาดนัด ที่เกือบทุกตลาดกำหนด คือ ไม่ให้ขายของซ้ำเกิน 1 ร้าน หรือ บางตลาดก็กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 2 ร้านบ้าง โดยเหตุนี้ เมื่อเราคิดหาของที่จะไปขายได้ ก็อาจไม่ได้ลงขาย ฉะนั้นต้องมีเทคนิค วิธีการขึ้นตอนการเตรียมตัว

    สิ่งแรกพื้นฐานที่สินค้าเราควรมี คือ คุณภาพ แล้วทำอย่างไร จะสื่อสารให้ผู้จัดรู้ถึงคุณภาพสินค้าของเราได้ ว่า…ของเราดีจริง อร่อยจริง อันนี้เพื่อนๆ ต้องไปคิดเป็นการบ้านเองนะครับ ผู้คงไปอาจไปได้หมด ขึ้นอยู่แต่ละตัวสินค้าของแต่ละคน จำไว้ว่า… “ไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูกไป 100%” สิ่งเดียว คือ ต้องลองทำดู 3 คำ จำขึ้นใจ “ลองทำดู” เมื่อทำไปแล้ว ได้ผลตอบรับ ก็บันทึกไว้เป็น 1วิธีการ ซึ่งอาจใช้กับผู้ตลาดนี้ได้ แต่กับ อีกตลาดก็ต้องใช้อีกวิธีการ

   ข้อต่อมา คือ เรื่องราคาขาย อันนี้เราควรตั้งราคาให้เหมาะสมกับ คุณภาพสินค้า กลุ่มลูกค้า และ ทำเลที่ตั้ง เป็นสำคัญ ราคาจะเป็นตัวดึงความสนใจทั้งของลูกค้าและผู้จัดตลาด ถ้าราคาดีไม่เวอร์วังอลังการ ยอมเป็นที่น่าสนใจ แต่ข้อคิดสำหรับการขายในยุคการแข่งขันสูงขนาดนี้ “ให้เน้นขายจำนวนมาก เน้นขยายฐานตลาดให้กว้าง สร้างชื่อแบรนด์ให้คนรู้จักมากๆ ทำลูกค้าให้เป็นเหมือนเพื่อนให้ เมื่อนั้นคนจะขายอะไรก็ได้ เพราะคุณมีตลาดอยู่ในมือ มีความเชื่อใจเป็นตัวการรันตีคุณภาพ ไม่คุณจะขายอะไร เพื่อนๆ ก็พร้อมช่วยซื้อของคุณแน่นอน”

    แต่สุดท้าย…ทุกคำตอบก็ยังลงขายไม่ได้ ก็จงอย่าพึ่งยอมแพ้ ถ้าหากคุณคิดต้องการขายของในตลาดนัดนี้ให้ได้ จงผูกสัมพันธ์กับผู้จัด อย่าให้เสียโอกาส เมื่อมีร้านขายของที่สินค้าตรงกันมีขายอยู่แล้ว ก็ขออนุญาตแนะนำสินค้า-ร้าน ให้ข้อมูลจุดเด่นของเราไป แล้วทิ้งไปว่า… ถ้าร้านเก่าออก ผมพร้อมที่จะขายของในตลาดได้ทันที พี่สามารถติดต่อผมได้เลย และ.. และ… พอเวลาผ่านไปซักระยะ ก็ค่อยกลับมาโทรถามอีกที เช่นนี้ก็จะเพิ่มโอกาสที่ได้ขายมากขึ้น

    ครั้นทุกอย่างลงตัว…แล้วเราได้เข้าไปขายในตลาดที่ต้องได้แล้วนั้น การจะขายของในสนามจริงก็จะเริ่มขึ้น เราจะต้องเจอปัญหาอุปสรรคอีกหลายขั้นตอน เดี๋ยวพรุ่งนี้…จะเขียนเล่าเรื่องในตลาดนัดให้เพื่อนฟัง ในตอนต่อไป… สู้ต้อไป…ฮาโตริ แล้ววันหนึ่งจะเป็นของเรา

หมายเหตุ: ขอบคุณรูปภาพปกจาก “ตลาดนัดแฟลตทหารเรือบางนา By ทีมงานหมุดธรรม”

…………………………………………………..

เขียนโดย ทำเลขายของ.com
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
(ข้อมูลลิขสิทธ์ โดยทีมงาน www.ทำเลขายของ.com )
ไม่อนุญาต “คัดลอก” รวมถึงในกรณี ที่จะใส่ลิ้งค์กลับ ก็ไม่อนุญาต เช่นกันนะครับ
อนุญาตให้ “แชร์” ได้ครับ
ขอบคุณครับ