แฟรนไชส์กาแฟโบราณ ธุรกิจ(ทำเลเดือด)ขุมทรัพย์ 4 หมื่นล้านบาท/ปี
แฟรนไชส์กาแฟโบราณ ธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด ไม่แตกต่างจากท้องทะเลที่กำลังบ้าคลั่ง เหมือนกับท้องทะเลที่กำลังเดือดพล่านอยู่ทุกขณะเวลา ด้วยความหอมหวนของเม็ดเงินมูลค่ามหาสารของธุรกิจกาแฟ ที่มีการประมาณตัวธุรกิจปีละกว่า 40,000ล้านบาท/ปี(ตัวเลขปี54) จึงทำให้มีนักลงทุนต่างกันพาเรด มาเปิดแฟรนไชส์กาแฟโบราณ กันเป็นว่าเล่น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องวิเคราะห์ทุกมิติของธุรกิจนี้ ให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ แฟรนไชส์กาแฟโบราณ
1.รูปแบบของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟโบราณ
2.คุณค่าของสินค้า รสชาติ,กลิ่ขกาแฟ,แพ็คเกจจิ้ง,
3.หาจุดต่างข้อแฟรนไชส์กาแฟโบราณ ในแต่ละเจ้า
4.ทำเลที่ตั้ง
5.รูปแบบร้าน
Advertisements
การดื่มกาแฟกับวิถีวิชีวิตของคนทำงานนั้นแถบจะเป็นของคู่กันมาอย่างช้านาน ตั้งแต่รุ่นเก่ารุ่นก่อนตอนที่ยังเป็นร้านอาแปะอาม่าขายกาแฟกันอย่างง่ายๆและดูธรรมดาในสายตาของคนทั่วไป แม้เวลาผ่านไปเท่าไรการกินกาแฟก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคนทำงานทั้งหลาย ไม่ว่าไลฟ์สไตล์การทำงานจะเป็นรูปแบบไหนแต่ว่าก็ยังต้องกินกาแฟกันอยู่เป็นประจำ
ทำให้ผู้ที่มาลงแข่งในสนามเครื่องดื่มกาแฟอันแสนดุเดือดเลือดพล่านนี้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่กะนั้นเองก็มีทั้งผู้ที่ยืนหยัดอยู่รอดปลอดภัยและพัฒนารูปแบบและคุณภาพเพื่อตอบโต้กับธุรกิจคู่แข่งกันอย่างต่อเนื่อง และก็มีผู้ที่ต้องล้มหายตายจากไม่สามารถต้านทานกระแสของการแข่งขันกันอย่างรุนแรงและไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลงจนต้องออกจากสนามแห่งนี้ไปก็หลายคนเหมือนกัน
1.รูปแบบของธุรกิจ แฟรนไชส์ร้านกาแฟโบราณ
พูดถึงรูปแบบของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟในปัจจุบันก็มีอยู่ค่อนข้างหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามตัวแปรต่างๆ เช่น จำนวนเงินทุนของการเปิดธุรกิจ นโยบายการดำเนินงาน ลักษณะของทำเลที่ตั้ง การตั้งกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นต้น
ซึ่งตัวแปรเหล่านี้นี่เองที่จะไปเป็นตัวกำหนดความเป็นธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟ ของแต่ละคนให้แตกต่างกันไป ใครมาอยู่กลุ่มเดียวกันก็ต้องออกกลยุทธ์มาเพื่อฟาดฟันกับกลยุทธ์ของคู่แข่ง เพื่อให้ธุรกิจของตัวเองมีลูกค้ามาใช้บริการมากกว่า และติดใจเป็นลูกค้าประจำ หรือจะเรียกแบบทางการตลาดก็จะเรียกว่ามี Loyalty ต่อ Brand ของเราให้มากที่สุด
ซึ่งรูปแบบที่เห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุดของ แฟรนไชส์กาแฟโบราณ ในระดับกลางที่มีต้นทุนการเปิดธุรกิจอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นต้นจนถึงหมื่นกลาง ถ้าหากย้อนกลับไปมองดูช่วงระยะ 3-4 ปี ที่ผ่านมานั้นจะเห็นได้ว่า แฟรนไชส์กาแฟโบราณ มีผู้สนใจเปิดตัวแฟรนไชส์ใน Brand ของตัวเองเป็นจำนวนมาก
“อย่าไปกลัวว่าทะเลมันจะเดือด จงกลัวความไม่แตกต่างของตัวเองเสียดีกว่า”
2.คุณค่าของสินค้า รสชาติ,กลิ่นกาแฟ,แพ็คเกจจิ้ง
จุดสำคัญของผู้ที่อยากริเริ่มธุรกิจ แฟรนไชส์กาแฟโบราณ ที่เรียกว่าเป็นหัวใจของธุรกิจเลยก็คือ “รสชาติของความเป็นกาแฟโบราณ” หลายคนคงจะคิดไม่ออกว่า แล้วรสชาติของความเป็นกาแฟโบราณมันเป็นยังไง แตกต่างกับกาแฟปัจจุบันยังไง ถ้าจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คงจะบอกได้ว่าคือวัตถุดิบและวิธีการทำที่ยังเป็นรูปแบบเดิมๆ ต่างกับกาแฟที่ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศเช่น การใส่นมสดหรือมีส่วนผสมช็อคโกแลตใส่ลงไปใสกาแฟ เป็นต้น ถ้าใครยังนึกภาพของกาแฟโบราณไม่ออกให้นึกถึง ร้านที่ขายกาแฟชง กาแฟดำหรือโอเลี้ยง หรือเครื่องดื่มอื่นๆ เช่นชาดำ-ชานมก็ได้ ซึ่ง “รสชาติ” ที่ว่านี้ก็จะขึ้นอยู่กับสูตรที่ตกทอดกันมาหรือบ้างก็คิดค้นและพัฒนาสูตรขึ้นมาเองก็มี ซึ่งในปัจจุบันได้มีเจ้าของแฟรนไชส์ต่างๆ ได้พยายามสร้างความแตกต่างให้กับรสชาติของกาแฟตัวเองด้วยเทคนิคที่คิดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นการ คั่วเมล็ดกาแฟด้วยอุณหภูมิที่กำหนดและยังได้กลิ่นที่หอมเพิ่มมากขึ้น หรือการใส่วัตถุดิบบางเฉพาะบางอย่างลงไปด้วย
จุดสำคัญต่อมาก็เป็นเรื่องของ “กลิ่น” ที่เปรียบเสมือนแขนขาที่ขาดไปเสียมิได้ หลายคนมองข้ามเรื่องกลิ่นที่เห็นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยและไม่สนใจโดยคิดว่า ลูกค้าคงไม่คิดเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิดพลาดฉกาจฉกรรจ์ยิ่งนัก เหมือนกับการผลักไสไล่ส่งตัวเองให้จมอยู่กับสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพและไม่คิดพัฒนาให้สามารถเกาะกุมหัวใจของผู้ที่ “สนใจ” ซื้อสินค้าของเราให้ “กลับ” มาซื้อใหม่อีกครั้งได้
จุดอื่นๆ ก็มีเช่นเรื่องของแพคเกจ คนทำงานสมัยใหม่นั้นไม่ใช่แค่สนใจในเพียงของรสชาติและกลิ่นที่ชวนให้ดื่มเท่านั้น เรื่องของแพคเกจไม่ว่าจะเป็น หน้าตาของร้านที่บ่งบอกถึงความสะอาดในการทำ ลักษณะการออกแบบดีไซน์ สีสัน โลโก้ วิธีการดื่มของแพคเกจที่เหมาะสม ฯลฯ ก็มีผลต่อการตันสินใจซื้อด้วยเช่นกัน
พูดไปอาจไม่เข้าใจว่าเหตุผลแค่นี้จะตัดสินอะไรได้ ผู้เขียนเคยเห็นร้านกาแฟธรรมดาๆ เป็นของคุณลุงคนหนึ่งขายอยู่บริเวณด้านข้างของอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งซึ่งมีคนที่น่าจะเป็นคนที่ทำงานในอาคารแถวนั้นเมื่อดูจากการแต่งตัว เวลานั้นนเป็นช่วงพักเที่ยงเล็กน้อย ร้านของลุงคนนี้มีคนเข้าอออยู่หน้าร้านเพื่อรอซื้อกาแฟของลุงคนนั้น ทั้งๆ ที่ลักษณะของร้านลุงเป็นเพียงเพิงสังกาสีเล็กๆ เท่านั้น
ดูแล้วช่างแตกต่างกับร้านกาแฟของผู้มีแบรนด์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงแต่ไม่ติดกันที่แลดูแล้วคนซื้อเบาบางกว่า เมื่อเกิดความสงสัยจึงต้องพิสูจน์ให้หายข้องใจจึงเข้าไปซื้อกาแฟของทั้งสองร้าน ปรากฏว่า เมื่อทดลองชิมแล้วสามารถรับรู้ได้ถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเพราะกาแฟของลุงนั้นเข็มข้นและมีกลิ่นหอมชวนดื่มกว่า ทั้งปริมาณกาแฟและนมที่ใส่ การไม่ใส่น้ำร้อนให้มากเกินไปเพื่อลดต้นทุน โดยที่กาแฟของอีกร้านที่มีแบรนด์สนับสนุนแห่งหนึ่งมีรสชาติที่จืดจางกว่า จึงได้ข้อสรุปง่ายๆ ว่าอะไรเป็นเรื่องสำคัญ
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สนใจที่จะเริ่มทำธุรกิจ แฟรนไชส์กาแฟโบราณ ของตัวเองหรือสนใจจะไปซื้อ แฟรนไชส์กาแฟโบราณ ที่มีอยู่แล้วมาประกอบกิจการเองก็ควรคำนึงถึงเรื่องของ “คุณภาพ” และ “ความแตกต่าง” ที่ไม่เหมือนใคร
3.หาจุดต่างข้อแฟรนไชส์กาแฟโบราณ ในแต่ละเจ้า
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า แฟรนไชส์กาแฟโบราณ ของแต่ละคนมีคุณภาพแตกต่างกันอย่างไร จะรู้ได้ก็ต้องไปชิมรสชาติด้วยตัวเอง พิจารณาลักษณะของร้านแฟรนไชส์ในสาขา
ดูว่าผู้ขายมีความเอาใจใส่ไหม ขายแฟรนไชส์เสร็จแล้วปล่อยร้านไปตามยถากรรมไหม หรือถามกับคนขายว่าเจ้าของแฟรนไชส์ดีไหมเขาช่วยอะไรบ้างหรือเปล่า ถ้าจะให้ดีก็นับจำนวนคนที่เดินเข้าซื้อเทียบกับปริมาณคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหลายๆ จุดในช่วงเวลาเดียวกัน จะช่วยบอกให้รู้ได้ว่า คนทั่วไปสนใจซื้อกาแฟของแฟรนไชส์นั้นๆ ดีมากน้อยแค่ไหน
จากนั้นโทรไปสอบถามพูดคุยกับเจ้าของแฟรนไชส์ว่ารู้เรื่องกาแฟมากน้อยแค่ไหน แฟรนไชส์มีจุดเด่นอย่างไร พูดด้วยเหตุผลหรือไม่ ไม่ใช่สวยหรูดูดีแต่ไม่มีเหตุผลรองรับเหมือนโฆษณาชวนเชื่อขายตรงบางอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน การวิธีการจัดการกับคู่แข่งอย่างไร แล้วจะช่วยเราแก้ปัญหาไหม เป็นต้น เหตุที่ต้องพูดคุยกับเจ้าของก่อนก็เพราะว่าการพูดคุยนั้นบ่งบอกได้หลายๆ เรื่องทั้ง วิสัยทัศ ลักษณะทั้งความคิด ขั้นตอนการอธิบาย ซึ่งสิ่งต่างๆ เล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์ถึง ขึ้นความเอาใส่ใจของเจ้าของต่อธุรกิจแฟรนไชส์ของเขานั่นเอง
4.ทำเลที่ตั้ง แฟรนไชส์กาแฟโบราณ
มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดของธุรกิจรูปแบบนี้ของ แฟรนไชส์กาแฟโบราณ นั่นก็คือเรื่องของทำเลที่เราจะไปขายนั่นเอง (ทบทวนความรู้ทางการตลาด การที่เราจะกำหนดทำเลได้นั่นเราต้องรู้คุณลักษณะของ “สินค้า” ของเราและพฤติกรรมการซื้อของ “กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย” ก่อน หรือจะตั้งคำถามกับตัวเองง่ายๆ ขึ้นว่า “เรากำลังจะขายอะไรและจะขายให้ใคร” ก็ได้) ซึ่งลักษณะของกาแฟโบราณนั้นจัดเป็นประเภทของสินค้าสะดวกซื้อ ราคาไม่แพง การตัดสินใจซื้อในแต่ละครั้งใช้เวลาไม่นาน จึงสามารถหาทำเลลงได้ทั่วไป
ปัญหาใหญ่ที่แท้จริงคือเมื่อได้ทำเลที่ดีมีคนเยอะแล้วนั้นก็คือ คู่แข่งก็มาลงขายด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเฉพาะ แฟรนไชส์กาแฟโบราณ เจ้าอื่นเท่านั้น ยังมีสินค้าที่เป็นเครื่องดื่มทดแทนกันอีกด้วย ทั้งพวกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพตามเทรนด์รักสุขภาพ หรือจะเป็นแฟรนไชส์กาแฟสดหรือกาแฟนมสดในทำเลใกล้แหล่งออฟฟิศเพราะคนทำงานเหล่านี้ “มีปัญญาซื้อ” ได้อย่างสบายเพราะราคาไม่ต่างกันมาก จะสูงกว่ากันก็เพียงนิดหน่อยเท่านั้นแต่ผู้ซื้อจะรู้สึกว่าเขาได้ดื่มกาแฟที่มีคุณภาพมากกว่า รสชาติกล่อมกลมและมีกลิ่นหอมชวนกลิ่นมากกว่า ทำให้หลายๆคนที่เคยไปเปิดร้านกาแฟโบราณในย่านออฟฟิศที่มีคนทำงานมากมายงงเป็นไก่ตาแตกไปหลายรายว่าทำไมถึงขายไม่ดีเท่าที่คิดหรือเพิ่มยอดขายไม่ได้หรือหนักสุดก็เจ๋งไม่เป็นท่าก็มี
Advertisements
พอฟังดูหลายคนอาจจะเริ่มคิดมาก (ฮา) อย่าเพิ่งกลัวไปทุกอย่าง การมีจุดดีก็ต้องจุดด้อยในตัวมันเองเหมือนกัน เช่น เครื่องดื่มสุขภาพนั้นหากพูดถึงจริงๆ ในเครื่องดื่มจะมีน้ำตาลที่ค่อนข้างสูงไม่น้อย มีหลายคนที่ทานแล้วน้ำหนักขึ้นก็ลดปริมาณการทานไปและก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกตื่นตัวเหมือนได้ทานกาแฟ หรือถ้ามีร้านกาแฟสดที่เปิดในบริเวณใกล้เคียงก็ควรเอาคุณภาพและความแตกต่างเข้ามาเป็นกลยุทธ์นำหน้า อย่าไปเอาเรื่องการตัดราคาหรือขายราคาถูกเข้ามาเป็นจุดขายหลัก เพราะคนทำงานเขามีกำลังซื้อ ถูกนิดถูกหน่อยแต่จืดเป็นน้ำเขาก็ไม่ทานดังเช่นเรื่องราวของร้านกาแฟที่เล่าให้ฟังไปข้างต้น และที่สำคัญคนเหล่านี้เขาพิจารณาได้ถึงคุณภาพที่เหมาะสมกับเงินที่เขาเสียไป การที่เราลดคุณภาพก็เป็นการดูถูกผู้ซื้อในทางอ้อมเช่นกัน
สรุปแล้วการเปิดร้าน แฟรนไชส์กาแฟโบราณ นั้นไม่ยากเลย มีทุนแค่หลักหมื่นก็เปิดได้แล้วหรือใครจะเปิดแบรนด์ใหม่เองก็ไม่ยาก หาสูตร ออกแบบโลโก้ จัดตั้งคีออสไปหาทำเลดีๆ ลงก็ขายได้แล้ว จุดที่ยากมันคือทำอย่างไรถึงจะอยู่รอดได้ในทะเลเดือดแห่งนี้เท่านั้นเอง ขอทิ้งท้ายซักเล็กน้อยสำหรับผู้ที่อาจจะกำลังเมาหมัดในสนามจริง (เจอปัญหารุมเร้า) จงพิจารณาทุกรายละเอียดอย่ามองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างที่เพราะมันอาจเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหานั้นได้
เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย อาซาดะ ริวอิจิ
ทำเลขายของ.com
ธุรกิจกาแฟ น่าสนใจก็จริง แต่ถ้าทำเลไม่ดีก็สู้เค้าไม่ได้ คู่แข่งเยอะมาก