ธุรกิจคาร์แคร์ สุดยอดกิจการน่าลงทุน
คาร์แคร์นับเป็นธุรกิจที่น่าใจมากในปัจจุบัน ถ้านับจากตัวเลขของผู้ใช้รถที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วจะเป็นตัวเลขที่สวนทางกับเวลาว่างที่ผู้ใช้รถที่นับวันจะยิ่งมีน้อยลงไปทุกที ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เสียเวลาไปกับรถติดบนท้องถนน การใช้เวลากับครอบครัว เวลาว่างที่ผู้ใช้รถจะหันมาดูแลรถของตัวเองก็ยิ่งเหลือน้อยกรอปกับอ่อนเพลียจากการทำงานหนักจึงเป็นสาเหตุให้คนใช้รถส่วนใหญ่เริ่มหันไปใช้บริการ Car Care เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
ธุรกิจคาร์แคร์ คืออะไร? คาร์แคร์เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลรถยนต์มีหลายระดับขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น position and target segmentator ทุนทรัพย์ ทำเลยที่ตั้ง มีตั้งแต่ดูแลแบบง่ายภายนอก ล้าง ขัด เคลือบ จนกระทั่งถึงการดูแลแบบครบวงจรซึ่งอาจต้องใช้ความรู้ เครื่องมือที่อยู่ในระดับสูงขึ้นไปอีกระดับ รวมไปถึงธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องการจัดจำหน่ายสินค้า อุปกรณ์ วัสดุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ การซ่อมบำรุงรักษารถยนต์
“ในปัจจุบันแม้จะมีธุรกิจคาร์แคร์ออกมาหลากหลายรูปแบบพร้อมกับการแข่งขันที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ก็ยังมีโอกาสสำหรับผู้ที่อยากจะทำธุรกิจคาร์แคร์นี้ เพราะปัจจัยของความสำเร็จ (key of success) ยังเป็นเรื่องของคุณภาพ งานบริการและทำเลที่ตั้งเป็นสำคัญ เป็นธุรกิจที่กลุ่มลูกค้านั้นมี Brand Loyalty สูง หากลูกค้าพอใจ ลูกค้ามีโอกาสที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำในอัตราที่สูงมากทีเดียว”
คาร์แคร์ต้องเริ่มอย่างไร? จะเริ่มคาร์แคร์จะเรียกว่าง่ายก็ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายามครับ
1. รู้จักตัวเราเองก่อน การรู้จักตัวเองไม่ได้หมายถึงรู้ตัวเองทางกายภาพหรือเรื่องส่วนตัวทั่วไป การรู้จักตัวเองคือการวิเคราะห์ตัวเอง เช่น “ความพยายาม” ไม่มีความรู้ไม่เป็นไรความรู้ขวนขวายหามาได้เสมอ “มีวินัย” ไม่ว่าจะเป็นกองทัพในยุคไหนก็ตามหากขาดวินัยก็ไม่อาจประสบความสำเร็จได้ “ทุนทรัพย์” แม้เสบียงจะเหลือน้อยเพียงไรก็สามารถจัดการบริหารได้เสมอ สำคัญคือต้องกำหนดขอบเขตทุกอย่างเป็นรูปแบบ การทำอะไรเกินตัวโดยไม่มีการวางแผนสุดท้ายก็จะเป็นการทำลายตัวเอง
2. ทำเลที่ตั้ง ทำเลที่ตั้งดีนั้นมีชัยไปกว่าครึ่ง โดย Business model หลักของธุรกิจคาร์แคร์เป็นการดึงให้ลูกค้ามาหาเรา มาใช้บริการกับเรา ลูกค้าต้องเดินทางมาเอง ไม่ว่าจะเป็นการที่ลูกค้าตั้งใจมาใช้บริการหรือเป็นทางผ่าน ลูกค้าก็มี Cost เสมอ ทั้งต้นทุนที่จับต้องได้ (Tangible Costs) เช่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ค่าจิปาถะ หรือต้นทุนที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Costs) ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย สภาพจิตใจที่ต้องเจอภาวะบนท้องถนน เป็นต้น การที่เราอยู่ทำเลที่ตั้งดีลูกค้าก็ให้ใจเรามาครึ่งหนึ่งแล้วครับ
Recommended Tip : ทำเลที่เหมาะสมสำหรับคาร์แคร์ควรเป็นทำเลที่รถผ่านง่าย สะดวก ทำเลที่อาจใช้เป็นจุดผักผ่อนระหว่างรถติด ทำเลที่อยู่ใกล้สถานที่ที่ต้องใช้เวลาในการทำธุระ เช่นระหว่างการซื้อสินค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ปั้มน้ำมัน ปั้มแก๊ส เป็นต้น
Advertisements
3. คู่แข่งขัน การวิเคราะห์แค่ตัวเรานั้นยังไม่เพียงพอต่อความสำเร็จในธุรกิจคาร์แคร์ การซื้อใจลูกค้าได้เราต้อง “รู้ทั้งเขา รู้ทั้งเรา” สิ่งที่เราพอจะรู้ของเขาได้นั้นสามารถแยกวิเคราะห์เป็น รูปแบบธุรกิจของเขาว่ากลุ่มลูกค้าหลักเป็นใคร รถยนต์ที่นำมาใช้ในระดับไหน การบริการของเขามีอะไรบ้าง คุณภาพของวัสดุ วัตถุดิบที่นำมาใช้ เป็นต้น ซึ่งการจะรู้เขาได้นั้นเราต้องเป็นลูกค้าไปใช้บริการของเขาเลยจะดีที่สุด แล้วค่อยมากำหนดตัวเราต่อไปว่าจะชนกับเขาได้ไหมหรือเลี่ยงเขาไปกลุ่มเป้าหมายอื่นหรือทำเลอื่น
4. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับคาร์แคร์ให้มากที่สุด ทั้งความรู้เบื้องต้นเช่นการล้าง เคลือบ ไปจนถึงความรู้ เทคนิคต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่งตอนนี้มีธุรกิจเกี่ยวกับคาร์แคร์ออกมามากมายไม่ว่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การหาความรู้ทั้งเก่าและใหม่ เทคโนโลยี่ต่างๆ ที่หาได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เช่นจากใน youtube ก็หาพวกคำว่า “how to car wash” “car care tips” “car care products” มีมากมายแต่ส่วนใหญ่ให้ลองหาจากเว็บไซต์ต่างประเทศ เทคโลโนยีจะมากกว่าในไทยพอสมควร พยายามคิดวางกรอบจำลอง (Simulator) ในการให้บริการ-ใช้บริการหลายๆ รูปแบบเพื่อกำหนดงานบริการของเราได้อย่างมีเป้าหมาย
5. กำหนดแผนธุรกิจให้รัดกุม กลุ่มลูกค้าหลัก ลูกค้ารอง ทำไมต้องกำหนดกลุ่มลูกค้าด้วยนั้นหลายๆ คนอาจจะสับสนกับเรื่องที่ลูกค้าทุกคนเข้ามาใช้บริการนั้นก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากด้วย ขออธิบายอย่างนี้ครับ การกำหนดกลุ่มลูกค้าหลัก กลุ่มลูกค้ารอง เป็นการกำหนดเพื่อให้ “เราสามารถวางกลยุทธเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของเราได้ตรงจุดมากที่สุดและทันท่วงทีต่อการแข่งขันกับคู่แข่ง” การว่านแหไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแต่อาจจะใช้ไม่ได้กับยุคของการแข่งขันในปัจจุบันเสียแล้ว
Recommended Tip : การทำจุดพักผ่อนแบบครบวงจร เป็นตัวเสริมจุดขายที่แข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบาย อาหาร เครื่องดื่ม เทคโนโลยี มุมหรืออุปกรณ์สำหรับเด็ก เป็นต้น
6. ทรัพยากรมนุษย์ เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้อย่างถึงที่สุดของงานบริการทุกชนิด คาร์แคร์ก็เป็นงานบริการรูปแบบหนึ่งที่ต้องใช้คน ใช้พนักงานที่ต้องการความใส่ใจกับงานบริการที่ตัวเองทำ ซึ่งจะขัดแย้งกับอัตราการเข้าออกของพนักงานที่มีอยู่เสมอแต่ไม่ใช่ปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้ การซื้อใจและควบคุมคุณภาพของพนักงานก็เป็นความสำคัญดังเช่นกองทัพที่ไม่อาจสู้ศึกใหญ่ได้ถ้าภายในยังเกิดปัญหา
แต่ในปัจจุบันมีรูปแบบธุรกิจคาร์แคร์ง่ายกว่านั้นขึ้นมากโดยที่แยกกับต้นทุนที่สูงขึ้นตามมาก เช่น ทัั้งที่ขายแฟรนไชส์คารแคร์ครบวงจนชื่อดังต่างๆ การรับออกแบบวางระบบคาร์แคร์ตั้งแต่ศูนย์ การรับเป็นที่ปรึกษาการทำธุรกิจคาร์แคร์ การอบรมคารแคร์ หรือพวกแฟรนไชส์สินค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคาร์แคร์ แม้กระทั่งแฟรนไชส์ Car Care on side service บริการกันถึงที่ก็เริ่มมีกันบ้างแล้ว หากใช้บริการของหน่วยงานเหล่านี้ สิ่งที่เราจะได้โดยแลกกับต้นทุนที่เสียไปคือ ความรู้ในการทำคาร์แคร์ (Know-How) ระบบการทำงานของธุรกิจ (Besiness Model) ชื่อเสียง (Brand) เวลา (Time) ซึ่งมีตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้าน
Advertisements
เตือนใจสักนิดก่อนทำธุรกิจ: การลงทุนทำธุรกิจทุกรูปแบบมีความเสี่ยง แต่เป็นความเสี่ยงที่สามารถศึกษาหาความรู้ ควบคุม วิเคราะห์ และประเมิณได้
เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย อาซาดะ ริวอิจิ
ทำเลขายของ.com
มีประโยชน์มาก ขอบคุณครับ
เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากครับ
ผมกำลังหาข้อมูลเพื่อที่จะเปิดธุรกิจคาร์แคร์ หากมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่สนใจจะเปิดธุรกิจนี้อย่างผม
แล้วส่งเมล์ให้ จะขอบคุณมากเลยครับ